แม้บ้านเราไม่มีหิมะให้สัมผัส แต่จากภาพยนตร์ หนังสือ และ สื่ออื่นๆ ทำให้ ไซบีเรียน ฮัสกี้หรือ หมาลากเลื่อน เป็นที่รู้จักกันดี ถึงการทำงานร่วมกันเป็นฝูง จับจ้องหางพวงของจ่าฝูง แล้ววิ่งไล่ตามกันไปบนหิมะขาวอันหนาวเย็น เพื่อพานายและสิ่งของบนเลื่อนไปสู่จุดหมาย
ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky) หรือ หมาลากเลื่อน มีหลายพันธุ์ นอกจากใช้งานลากเลื่อนในแถบขั้วโลก อเมริกาเหนือ ยุโรปเหนือ ซึ่งมีฤดูหนาวยาวนานแล้ว ยังใช้ช่วยล่าสัตว์ ในการกีฬาคือ การแข่งลากเลื่อน และ เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
![](https://www.baanlaesuan.com/app/uploads/2019/06/siberian2.jpg)
หมาลากเลื่อนจัดอยู่ในกลุ่มสปิตซ์ (Spitz-type) ที่มีลักษณะขนหนา หูสันตั้ง มีกล้ามเนื้อ หางฟูเป็นพวง และเชื่อว่าพวกมันมีสายเลือดของหมาป่า (Norther Wolf) ผสมอยู่อย่างแน่นอน
หมาลากเลื่อนที่มีขนาดใหญ่สุดคือ Canadian Eskimo Dog หนักมากกว่า 55 กิโลกรัม นอกจากนี้ก็มี Alaskan Malamute , Greeniand Dog , Samoyed,Kamchatka Sled Dog ฯลฯ แต่ที่เขาว่าตัวเล็กและน้ำหนักน้อยกว่าพันธุ์อื่นๆก็คือ Siberian Husky ที่ฟังชื่อแล้วรู้ทันทีว่าถิ่นเกิดของมันคือไซบีเรีย
![](https://www.baanlaesuan.com/app/uploads/2019/06/siberian.jpg)
แม้เขาว่าไซบีเรียนฮัสกี้ (Siberian Husky) ตัวเล็กและเบากว่าหมาลากเลื่อนอื่นๆ แต่มันมีน้ำหนักประมาณ 16-27 กิโลกรัม สูง 51-60 เซนติเมตร ซึ่งใหญ่กว่าหมาไทยทั่วไป มีหลายสี โดยส่วนมากตัวมักเป็นพื้นสีนวลเหลือบเทาอ่อน เทาแก่ ดำ โอวัลติน น้ำตาลแดง ฯลฯ นัยน์ตามีหลายสี เช่น ฟ้าใส น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม บางตัวนัยน์ตาเป็นสีฟ้าจางเกือบขาว หรือ บางตัวมีนัยน์ตาสองสี
ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นหมาที่มีโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง อดทน ฉลาด ไม่ค่อยเห่า แต่ชอบครางหรือหอนเบาๆ โดยเฉพาะเวลากลางคืนตามสัญชาตญาณของหมาป่าต้นสายพันธุ์ การครางหรือหอนของมันยังเป็นการเรียกหาฝูง เพราะหมาพันธุ์นี้ชอบอยู่รวมฝูง ถ้าไม่มีเพื่อนหมา มันย่อมนับรวมนายเข้าฝูงไปด้วย เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงต้องฝึกและมีวิธีให้มันยกย่องเราเป็นจ่าฝูง ถ้าปล่อยให้มันรู้สึกเหนือกว่า ต่อไปจะเป็นหมาดื้อควบคุมยาก
ในบ้านเราได้นำไซบีเรียนฮัสกี้เข้ามาเลี้ยงและขยายพันธุ์นานแล้ว ลูกสุนัขที่เกิดที่นี่จึงทนทานอากาศร้อนได้ดีกว่าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่สั่งเข้ามาจากต่างประเทศในยุคแรกๆ ปัจจุบันมีฟาร์มเพาะพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้มากมายในเมืองไทย
นอกจากนี้บางฟาร์มยังนำ “อะแลสกันมาลามิวท์ (Alaskan Malamute)” เข้ามาขยายพันธุ์ด้วยเช่นกัน ว่าถึงสีสันหน้าตา หมาพันธุ์นี้มีความคล้ายคลึงไซบีเรียนฮัสกี้อยู่มาก เพราะมีลักษณะของหมาป่าต้นกำเนิดอยู่ไม่น้อย ความแตกต่างอาจอยู่ที่สีนัยน์ตา อะแลสกันมาลามิวท์มักมีเพียงนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม และหางฟูเป็นพวงของมันม้วนขอดเป็นวง ขณะที่หางไซบีเรียนฮัสกี้ห้อยลงตรงๆระหว่างขาหลัง ถ้ามันชูหางตั้งขึ้น แนวหางพวงฟูมักมีส่วนโค้งแต่ไม่ม้วนเป็นวง
เกี่ยวกับไซบีเรียนฮัสกี้
![](https://www.baanlaesuan.com/app/uploads/2019/06/siberian3.jpg)
- เหมาะจะเลี้ยงในบ้านที่มีบริเวณกว้างขวาง เพื่อให้หมาได้วิ่งออกกำลัง หรือ อยู่ใกล้สวนสาธารณะ หรืออยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งพาหมาไปเดินวิ่งได้ทุกวัน
- จัดหาอาหารที่เหมาะสม บำรุงกระดูก เพิ่มพูนกล้ามเนื้อ ไม่มีไขมันมากเกินไป ซึ่งจะทำให้หมาอ้วน เสียรูปทรง หอบเหนื่อยง่าย หรือเกิดโรคต่างๆ
- ขนหนาๆของไซบีเรียนฮัสกี้นั้นเหมาะกับอากาศหนาวเย็น ทั้งยังป้องกันความเปียกชื้น เพราะมีน้ำมันจากผิวออกมาเคลือบเส้นขน แม้เป็นหมาที่เกิดในบ้านเรา ขนของมันก็ยังฟูหนาสวย ต้องหมั่นแปรงขนด้วยแปรงซี่โลหะอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง จะช่วยตะกุยขนร่วงออกมา และกระตุ้นต่อมน้ำมันในผิวให้ทำงานได้ดี
- ควรอาบน้ำให้เดือนละครั้ง (หรือสองเดือนครั้ง) โดยใช้แชมพูสำหรับสุนัข เช็ดตัวและเป่าขนให้แห้ง
- จัดหากรงขนาดใหญ่บุมุ้งลวดสำหรับนอนกลางคืนหรือบางท่านให้นอนในบ้านเพื่อป้องกันยุง ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ เช่น พิษสุนัขบ้า พยาธิหัวใจ ฯลฯ เป็นประจำ
เรื่อง : ไม้น้ำ
ข้อมูล : The New Encyclopedia of the Dog by Dr.Bruce Fogle
สุนัขเซเลบของไทย ที่ทาสหมาไม่ควรพลาด
วิธีเลี้ยง สุนัขกับเด็ก ให้อยู่ร่วมกันได้