

สุนัขสายพันธุ์บอกเซอร์ (Boxer) – นักมวยขี้เล่น ผู้ซื่อสัตย์ ถ้าคุณเคยเห็นหมาตัวใหญ่ที่กระโดดดีดเด้ง เหมือนกำลังซ้อมชกกับอากาศ ยืนสองขาหลัง ยื่นขาหน้ามาต่อยคุณเบา ๆ อย่างทะเล้น แล้วพอคุณหัวเราะออกมา เขาก็ยิ่งดีด ยิ่งเต้นนั่นแหละ… คุณได้เจอกับ สุนัขสายพันธุ์บอกเซอร์ (Boxer) เข้าแล้ว เขาไม่ใช่หมาอ้อนติดตัก ไม่ใช่หมาเงียบสงบ แต่เขาคือหมาที่ “เต็มไปด้วยพลังชีวิต” เหมือนเด็กผู้ชายที่โตแล้วแต่ยังวิ่งไล่เตะบอลทุกเย็น พวกเขาคือหมาที่เหมือนจะพูดได้ว่า “มาเล่นกันเถอะ!” ทุกครั้งที่คุณสบตาพวกเขา 🥊 สุนัขสายพันธุ์บอกเซอร์ ทำไมถึงชื่อ Boxer? เพราะเขาชอบ “ชก”… ไม่ใช่เพื่อสู้ แต่เพื่อ “เล่น” บอกเซอร์ยืนสองขาหลัง แล้วยื่นขาหน้ามาแตะ ๆ แบบนักมวยบนเวที ท่านี้จะโผล่มาเวลาที่เขาดีใจ อยากชวนคุณเล่น หรือกำลังคึกสุดขีด ใครเคยโดนชกเบา ๆ พร้อมกระดิกหางรัว ๆ จะรู้ทันทีว่า “เขาแค่อยากให้คุณสนใจ” เท่านั้นเอง 🧠 เขาฉลาดไหม? ฝึกง่ายหรือเปล่า? Boxer ไม่ใช่หมาโง่… แต่เขาไม่ใช่หมา […]
อ่านต่อสุนัขสายพันธุ์วิปเพ็ต เป็นสุนัขที่มีประวัติและเรื่องราวน่าสนใจมากมาย ทั้งในแง่ของต้นกำเนิด วัฒนธรรม และบทบาทในสังคม นี่คือบางเรื่องที่อาจทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของพวกมันมากขึ้น ต้นกำเนิดของ สุนัขสายพันธุ์วิปเพ็ต (Whippet) : สุนัขแห่งชนชั้นแรงงาน สุนัขสายพันธุ์วิปเพ็ต มีต้นกำเนิดในอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 18-19 โดยพัฒนามาจากเกรย์ฮาวด์ (Greyhound) และสุนัขล่าสัตว์สายพันธุ์ขนาดเล็ก เดิมทีพวกเขาถูกเรียกว่า “Greyhound ของคนจน” เพราะชนชั้นแรงงาน โดยเฉพาะ คนทำงานเหมืองถ่านหินทางตอนเหนือของอังกฤษ ที่ไม่สามารถเลี้ยง Greyhound ได้เนื่องจากขนาดใหญ่ และค่าใช้จ่ายสูง พวกเขาจึงพัฒนา Whippet ให้มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความเร็ว และความสามารถในการล่าสัตว์ Whippet ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนทำงาน พวกมันถูกใช้ในการล่ากระต่าย แม้ว่าหลังจากนั้นง านล่าสัตว์จะลดลง แต่ Whippet ก็กลายเป็นสุนัขแข่งประจำผับ และเมืองอุตสาหกรรม มีการจัดการแข่งขัน “rag racing” หรือการแข่งวิ่งโดยใช้ผ้าขี้ริ้วเป็นเหยื่อล่อ ฉายา “Poor Man’s Racehorse” (ม้าของคนจน) ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อของ Whippet พวกเขาถูกนำไปใช้ในการแข่งสุนัขในยุควิกตอเรีย และกลายเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสนามแข่ง จนได้รับฉายาว่า “Poor […]
อ่านต่อคอร์กี้ ขาสั้น ผู้เก็บเรื่องราวแห่งหุบเขาไว้ในหางยาวของเขา สุนัขผู้ไม่หวือหวา แต่หนักแน่น ไม่ไถ่ถาม แต่เฝ้ามอง ไม่ตื่นเต้นเกินไป แต่ก็ไม่เมินเฉยกับสิ่งที่รัก ประวัติความเป็นมาของคาร์ดิแกน เวลช์ คอร์กี้ “สุนัขเก่าแก่พอ ๆ กับตำนานของแผ่นดิน” คาร์ดิแกน เวลช์ คอร์กี้ เป็นหนึ่งในสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ มีรากเหง้าทางพันธุกรรมที่ย้อนกลับไปได้ถึง 3,000 ปี ก่อนจะมีสหราชอาณาจักร และก่อนจะมีการแบ่งแยกอาณาจักรนอร์มัน หรือแซกซัน บรรพบุรุษของพวกเขาถูกนำเข้ามาโดยชาวเซลต์ ที่อพยพมาทางทวีปยุโรป ในขณะนั้น สุนัขคอร์กี้มีหน้าที่สำคัญในชีวิตของคนชนบท เช่น ต้อนวัว ขับไล่สัตว์ เฝ้าไร่ และเตือนภัยยามค่ำคืน เป็นต้น โดยสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีรั้ว ไม่มีไฟฟ้า และไม่มีเวลาให้ซ้อม พวกเขาคือสุนัขทำงานในดินแดนที่พึ่งพาใครไม่ได้ เพราะฉะนั้น ความสามารถของเขาไม่ได้มาจากความเร็ว หรือแรงกัด แต่มาจาก “สมอง” และ “ไหวพริบ” ไม่ต่างจากช่างฝีมือในหมู่บ้าน ที่รู้ว่าเมื่อไรควรตีเหล็ก และเมื่อไรควรพักรอให้ไฟอ่อน ลักษณะตามมาตรฐานสายพันธุ์ ถ้าเปรียบสุนัขเป็นเครื่องดนตรี Cardigan Welsh Corgi หรือ […]
อ่านต่อ“พลังงานบวกสี่ขา ผู้เป็นได้ทั้งเพื่อนเล่น และหมอเยียวยาหัวใจ” ถ้าคุณเคยเจอสุนัขที่หางกระดิกแม้ในวันที่ฝนตก ยิ้มตาแป๋วแม้เพิ่งโดนดุ แล้วเดินมาคาบของเล่นใส่มือคุณเ หมือนจะบอกว่า “ไม่เป็นไรนะ มาเล่นกันเถอะ” นั่นแหละ… คุณเจอ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เข้าแล้ว ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ …พวกเขาไม่ใช่แค่ “หมาครอบครัว” แต่คือ เพื่อนร่วมชีวิต ที่มีหัวใจใหญ่พอจะรักคุณทั้งบ้าน และยังเหลือไปรักเพื่อนบ้านได้อีกสามหลัง จุดเริ่มต้นของ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ หรือ “หมาน้ำ” ที่กลายเป็นหมาเยียวยาจิตใจ ลาบราดอร์มีรากเหง้ามาจากดินแดนหนาวเย็นของแคนาดา — เกาะนิวฟาวด์แลนด์ ซึ่งในอดีตเขาไม่ได้นอนเล่นบนโซฟา แต่ลงน้ำทุกวัน ช่วยชาวประมงลากอวน ดึงเชือก คาบปลา และว่ายสู้กระแสน้ำ หมาน้ำพันธุ์นี้ทั้งแกร่ง อดทน และเรียนรู้เร็ว เมื่อลาบราดอร์ถูกนำเข้าสู่เกาะอังกฤษ พวกเขาได้กลายมาเป็นนักล่าสัตว์ที่ “นุ่มนวล” คาบนกได้โดยไม่ทำให้ขนเปียกหรือเนื้อช้ำ — ความสามารถที่เราเรียกว่า soft mouth และจุดนี้เองที่กลายเป็น “จิตใจ” ของลาบราดอร์ — อ่อนโยน แม้จะมีแรงมาก ลักษณะทางกายภาพของลาบราดอร์ […]
อ่านต่อถ้าคุณกำลังมองหา “หัวใจที่ดื้อแต่ซื่อสัตย์” สุนัขสายพันธุ์ บูลเทอร์เรีย กำลังรอคุณอยู่ที่ปลายทางของความอดทนและความเข้าใจ ประวัติความเป็นมา สุนัขสายพันธุ์ บูลเทอร์เรีย สุนัขสายพันธุ์ บูลเทอร์เรีย มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่าง Old English Bulldog และ Old English Terrier (2 สายพันธุ์เก่าแก่ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสุนัขที่แข็งแรง ว่องไว และมีพลัง ซึ่งในยุคแรก ๆ ถูกใช้ในกีฬาสู้วัวกระทิงและการกัดสุนัข อย่างไรก็ตาม เมื่อกีฬาดังกล่าวถูกห้ามไป บูลเทอร์เรียได้ถูกพัฒนาให้เป็นสุนัขเลี้ยงและแสดงสุนัข บูลเทอร์เรียสมัยใหม่ได้รับการปรับปรุงโดย James Hinks ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งพยายามทำให้ สุนัขดูสง่างามขึ้น หัวเป็นทรงโค้ง (egg-shaped head) และปรับบุคลิกภาพให้เป็นมิตรขึ้น ส่งผลให้บูลเทอร์เรียกลายเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนชั้นสูง ความสำคัญในอดีต ชื่อเล่นของบูลเทอร์เรีย ลักษณะทางกายภาพ บูลเทอร์เรีย มีลักษณะที่เด่นมากที่สุดคือ หัวมีลักษณะคล้ายรูปไข่ (Egg shaped) และตามีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม (Triangle shaped eyes) […]
อ่านต่ออิงลิชบูลด็อก เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่มีเอกลักษณ์ และเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยรูปร่างล่ำสั้น ใบหน้ามีรอยย่น และท่าทางที่ดูดุดันแต่กลับมีนิสัยอ่อนโยน ใครที่เคยสัมผัสพวกเขาจริง ๆ จะรู้ว่าภายใต้หน้าบึ้งนั้นคือ สุนัขที่รักเจ้าของสุดหัวใจ ขี้อ้อน และมีอารมณ์ขันในแบบของตัวเอง 1. ประวัติความเป็นมาและข้อเท็จจริงที่น่าสนใจของ อิงลิชบูลด็อก อิงลิชบูลด็อก มีต้นกำเนิดจากอังกฤษ ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 13 พวกเขาเคยถูกใช้ในกีฬาต่อสู้กับวัว (Bull-baiting) ซึ่งเป็นกีฬาที่โหดร้าย แต่เมื่อกีฬานี้ถูกยกเลิกในปี 1835 ผู้เพาะพันธุ์ได้พัฒนาบูลด็อกให้มีนิสัยอ่อนโยน และกลายเป็นสุนัขเลี้ยงในบ้านที่เป็นมิตรและรักสงบ แม้ว่าภาพลักษณ์ของพวกขาจะดูแข็งแกร่งและดุดัน แต่ในความเป็นจริง อิงลิชบูลด็อกเป็นสุนัขที่รักสงบ ไม่ก้าวร้าว และเข้ากับครอบครัวได้ดี พวกเขาชอบอยู่ใกล้ชิดเจ้าของ และบางตัวก็มีนิสัยขี้เกียจ ชอบนอนมากกว่าการวิ่งเล่นเสียอีก 2. คำจำกัดความของ “บูลด็อก” อิงลิชบูลด็อกมักเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และความภักดี เนื่องจากลักษณะหน้าตาที่ดูจริงจังและมุ่งมั่น พวกเขาถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของหลายองค์กร เช่น 3. การดูแลอิงลิช บูลด็อกให้มีความสุข 4. อิงลิชบูลด็อกเหมาะกับใคร อิงลิชบูลด็อกเป็นสุนัขที่มีนิสัยน่ารักและขี้เล่น แต่ก็มีความต้องการพิเศษในการดูแล ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ คนที่เหมาะสมที่สุดควรมีลักษณะดังนี้: 5. ข้อควรระวังเป็นพิเศษในการเลี้ยงบูลด็อก […]
อ่านต่อหลายคนมักสับสนระหว่าง อิงลิชบูลด็อก และเฟรนช์บูลด็อก แม้ว่าทั้งคู่จะเป็น “บูลด็อก” เหมือนกัน แต่พวกมันมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ลักษณะที่แตกต่างกันชัดเจนของ อิงลิชบูลด็อก และ เฟรนช์บูลด็อก ขนาดตัวอิงลิชบูลด็อกมีน้ำหนักตัว ประมาณ 18-25 กิโลกรัมเฟรนช์บูลด็อกมีน้ำหนักตัว ประมาณ 8-14 กิโลกรัม ใบหูหูพับลงใน บูลด็อกเรียก rose earหูตั้งใน French เรียก bat like ear พลังงานอิงลิชบูลด็อกมักจะชอบนอน และขี้เกียจเฟรนช์บูลด็อก ร่าเริง และขี้เล่น บุคลิกและลักษณะนิสัยอิงลิชบูลด็อกมีนิสัยสุขุม และอ่อนโยนเฟรนช์บูลด็อกมีนิสัยซุกซน และขี้เล่น ปัญหาสุขภาพอิงลิชบูลด็อกมักมีปัญหาเรื่องข้อต่อ และระบบทางเดินหายใจเฟรนช์บูลด็อกมีปัญหาผิวหนัง และทางเดินหายใจเช่นกัน แม้ว่าทั้งสองสายพันธุ์จะมีต้นกำเนิดเกี่ยวข้องกัน แต่เฟรนช์บูลด็อกพัฒนามาจาก “Toy Bulldog” ในอังกฤษและได้รับความนิยมในฝรั่งเศส ในขณะที่ อิงลิชบูลด็อกเป็นสายพันธุ์ที่วิวัฒนาการมาจากสุนัขนักสู้ในอังกฤษโดยตรง ความเหมือนกันของ อิงลิชบูลด็อก และเฟรนช์บูลด็อก เป็นสุนัขพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic Breeds) ทั้งสองสายพันธุ์มีปัญหาระบบทางเดินหายใจเหมือนกัน จึงต้องระวังเรื่องอุณหภูมิและออกกำลังกายหนักเกินไป เป็นสุนัขที่อ่อนโยนและเหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่ก้าวร้าว รักเจ้าของ […]
อ่านต่อสุนัขพันธุ์บอร์ซอย เป็นสุนัขที่เคยจำกัดอยู่เฉพาะชนชั้นสูงของรัสเซีย สง่างาม รักเจ้าของ และกระตือรือร้น ก่อนจะหายไปเกือบหมดจากเหตุการณ์ทางการเมือง และกลับมาเพิ่มจำนวนได้อีกครั้ง ประวัติ สุนัขพันธุ์บอร์ซอย (Borzoi) สุนัขพันธุ์บอร์ซอยเป็นที่รู้จักในชื่อ Russian wolfhound มีถิ่นกําเนิดที่ประเทศรัสเซีย สุนัขพันธุ์นี้ถูกเลี้ยงโดยผู้ที่เป็นชนชั้นสูงของประเทศรัสเซียเพื่อใช้ล่าหมาป่า และสัตว์อื่น ๆ โดยเป็นที่รู้จักตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 สุนัขพันธุ์นี้ถูกนำมาเป็นของขวัญแก่พวกขุนนางท่านอื่น ๆ ในทวีปยุโรป และแทบไม่มีการซื้อขายเลย เนื่องจากสุนัขพันธุ์ถูกมองว่า เป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูง และเกือบหายไปจนหมดเนื่องจากเหตุการณ์ปฏิวัติ Bolshevik หลังจากนั้น ผู้เพาะพันธุ์เพียงไม่กี่คนที่ยอมอุทิศตนเพื่อรักษาสุนัขสายพันธุ์นี้ไว้ ทำให้จำนวนบอร์ซอยเพิ่มขึ้นจนกระทั่งสามารถส่งออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลกได้ โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐอเมริกา สุนัขบอร์ซอยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากในช่วงนั้น และในปี 1914 สมาคม United Kennel Club ได้รับรองมาตรฐานสายพันธุ์ โดยใช้ชื่อ Russian wolfhound จากนั้นในปี 1936 หลังจากเกิดการถกเถียงกันอย่างยาวนานของสมาชิกในสมาคมสายพันธุ์สุนัขในสหรัฐฯ ก็ข้อสรุปชื่อใหม่ว่า บอร์ซอย ซึ่งมาจากภาษารัสเซีย แปลว่า ว่องไว ลักษณะทางกายภาพ […]
อ่านต่อสุนัขพันธุ์ออสเตรเลียนเชพเพิร์ด สุนัขพันธุ์พื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา เป็นสุนัขขี้เล่น กระตือรือร้น กล้าหาญ ร่าเริง คล่องแคล่ว เป็นมิตร ไม่ก้าวร้าว และมีนิสัยคล้ายคน ประวัติ สุนัขพันธุ์ออสเตรเลียนเชพเพิร์ด (Australian Shepherd) สุนัขพันธุ์ออสเตรเลียนเชพเพิร์ดมีถิ่นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมือง ที่ในอดีตถูกนำเข้ามาใช้เป็นสุนัขต้อนฝูงแกะเมริโนที่เมืองบาสก์ ในประเทศสเปน โดยต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับสุนัขพันธุ์บาสก์เชพเพิร์ด (Basque Shepherd) ที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย และถูกนำเข้ามาในสหรัฐอเมริกา จากบันทึกคาดว่าในระหว่างนั้นได้มีการผสมพันธุ์กับสุนัขพันธุ์หนึ่ง (ที่คาดว่ามีสายพันธุ์คอลลี่ผสมอยู่) ในสหรัฐอเมริกา จึงเป็นเหตุผลที่สุนัขสายพันธุ์นี้ถูกตั้งชื่อเป็น ออสเตรเลียน เชพเพิร์ด ในปี 1950 สุนัขพันธุ์นี้ได้เป็นที่รู้จักและเริ่มเป็นที่นิยมเลี้ยงมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา ทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1977 ได้มีการจัดตั้งองค์กร The Australian Shepherd Club of America (ASCA) เป็นองค์กรหลักในการจดทะเบียนสายพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้ ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนของสมาคม The American Kennel Club (AKC) ในเวลาต่อมา ในปี 1979 สมาคม […]
อ่านต่อสุนัขพันธุ์สก็อตทิชเทอร์เรีย จากประเทศสกอตแลนด์ เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก มีลักษณะที่เฉพาะ คือหัวยาว ตาสีดำ หูยาว ปลายหูแหลม ขนปกคลุมมีลักษณะเรียบสลับกับขนหยาบ ประวัติสายพันธุ์ สุนัขพันธุ์สก็อตทิชเทอร์เรีย สุนัขพันธุ์สก็อตทิชเทอร์เรีย (Scottish Terrier) หรือมีชื่อที่รู้จักกันว่า สก็อตตี้ (Scottie) มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศสกอตแลนด์ (Scotland) เป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่อยู่มาอย่างยาวนาน และเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์เทอร์เรียทั้งหมด ในอดีตถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ เนื่องจากมีความสามารถในการไล่จับสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ขนาดเล็ก ในปี 1430 ได้มีการจัดทำนวนิยายเกี่ยวข้องกับสุนัขพันธุ์สก็อตทิชเทอร์เรีย จึงทำให้เป็นสุนัขที่รู้จักกันมากขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 17 (อยู่ระหว่างปี 1601 – 1700) มีพระเจ้าเจมส์ที่หนึ่ง (กษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ที่หนึ่ง) ได้ส่งสุนัขพันธุ์นี้ไปให้กษัตริย์ของประเทศฝรั่งเศส หลังจากนั้นกษัตริย์ทรงโปรดสุนัขพันธุ์นี้ จึงเป็นสาเหตุทำให้มีการเริ่มเลี้ยงกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นจนถึงศตวรรษที่ 20 ในประเทศฝรั่งเศส จากนั้นในปี 1800 สุนัขพันธุ์เทอเรีย ถูกจำแนกออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ แดนดีดินมอนต์ (Dandie Dinmont) และ สกายเทอร์เรีย (Skye Terriers) […]
อ่านต่อหนูฮิปโปแคระ หรือ หนูตะเภาไร้ขน มีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างตรงที่มีขนปกคลุมร่างกายน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย หนูฮิปโปแคระ เป็นชื่อเรียกหนูตะเภา หรือหนูแกสบี้สายพันธุ์หนึ่งที่มีขนปกคลุมน้อย หรือแทบไม่มีขนเลย โดยชื่อหนูฮิปโปแคระ อาจจะเป็นชื่อทางการค้าที่เรียกกันในกลุ่มผู้เพาะพันธุ์หนูตะเภาใปนระเทศไทย ในระดับนานาชาติ American Cavy Breeders Association องค์กรภาคเอกชนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการกำหนดมาตฐานสายพันธุ์ของหนูตะเภา ได้กำหนดมาตรฐานของหนูตะเภาทั่วโลกไว้ทั้งหมด 13 สายพันธุ์ ซึ่งหนูฮิปโปแคระสายพันธุ์ Baldwin เป็นหนึ่งในสายพันธุ์มาตรฐาน แต่ในทางกลับกัน สายพันธุ์ skinny ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของหนูตะเภาไร้ขน ยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์ ลักษณะสายพันธุ์ของหนูฮิปโปแคระ ภาวะไม่มีขนของหนูฮิปโปแคระทั้งสองสายพันธุ์เกิดขึ้นเนื่องจากการควบคุมลักษณะโดยยีนด้อย ซึ่งหมายความว่า ถ้าผสมพ่อแม่พันธุ์ที่ไร้ขนเหมือนกัน ลูกที่ออกมาควรจะไม่มีขนเสมอ การเลี้ยงดูหนูฮิปโปแคระ ให้มีสุขภาพแข็งแรง การดูแลหนูฮิปโปแคระแทบไม่แตกต่างจากการเลี้ยงหนูตะเภาสายพันธุ์อื่น ๆ ที่มีขน ตั้งแต่ความต้องการพื้นฐานทางโภชนาการที่เหมาะสม ไปจนถึงการดูแลเรื่องสุขอนามัย และความสะอาด อาหารทั่วไปที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพของหนูฮิปโปแคระ ประกอบด้วย หญ้าแห้ง อาหารเม็ด ผักและผลไม้สดบางชนิด (สำหรับเป็นขนมเท่านั้น) และอาหารเสริมวิตามินซี รวมไปการเตรียมน้ำสะอาดให้เพียงพอตลอดเวลา ข้อควรระวังอย่างหนึ่งในการดูแลสัตว์เลี้ยงชนิดนี้คือ หนูฮิปโปแคระมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมาก ดังนั้น เจ้าของควรเลี้ยงพวกเขาไว้ในบ้านที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 องศาเซลเซียส […]
อ่านต่อสุนัขพันธุ์เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความฉลาด สง่างาม และมีความเป็นสุนัขกีฬาของสุนัขกลุ่มภูเขา ประวัติ สุนัขพันธุ์เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog) มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จัดเป็นสุนัขหนึ่งในสี่ของสุนัขภูเขาสวิต (Swiss Sennenhund) ซึ่งถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยมีชาวโรมันนำสุนัขกลุ่มโมลอสเซอร์ (Molosser) ผสมกับสุนัขที่นำมาใช้ในสงครามบนเทือกเขาแอลป์สวิต (Swiss Alps) หลังจากนั้นนำลูกที่ได้ไปผสมกับสุนัขพันธุ์พื้นเมือง (swiss landrace dog) ทำให้ได้สุนัขพันธุ์ภูเขาสวิตที่เป็นบรรพบุรุษของสายพันธุ์เบอร์นีส เมาท์เทนด็อก หลังจากนั้นได้มีการนำสุนัขพันธุ์นี้มาใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่น การนำไปต้อนวัว การเป็นผู้นำฝูง และการดูแลพื้นที่ภายในฟาร์ม เป็นต้น ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ได้มีการจัดแสดงโชว์ Swiss Dog Club เพื่อให้เห็นถึงนิสัย ความฉลาด ความสง่างาม และความเป็นสุนัขกีฬาของสุนัขกลุ่มภูเขา หลังจากนั้นได้มีการนำสุนัขไปแสดงโชว์ที่กรุงเบิร์นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และทำให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข ในขณะเดียวกันสภา Southland District Council (SDC) ได้ตั้งชื่อให้สุนัขอย่างเป็นทางการคือ “สุนัขพันธุ์เบอร์นีส เมาท์เทนด็อก” […]
อ่านต่อEmail : [email protected]
Tel : 0-2422-9999 ต่อ 4221
Email : [email protected]
Tel : 0-2422-9999 ต่อ 4221