Pet Talk

ปัญหาน้องหมาถูกทิ้ง เพราะกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด

เมื่อหมามีปัญหา มันมีวิธีแก้ไข เพราะก่อนเลี้ยงไม่รู้ หรือรู้ แต่เข้าใจไม่ครบ จนนำไปสู่ ปัญหาน้องหมาถูกทิ้ง การกลับไปทบทวนวิธีการเลี้ยงเลี้ยงดู ณ จุดเริ่มต้น ก็เหมือนการกลับไปกลัดกระดุมเม็ดแรกใหม่ ทุกปัญหาของหมา ไม่ว่าจะเห่า กัด หรือกลัวเกินเหตุ ล้วนเริ่มจากจุดเดียวกัน จุดที่เราเข้าใจเขาผิดไปเพียงเล็กน้อย  ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเพียงเสี้ยวหนึ่งในวันแรกของการเลี้ยง อาจกลายเป็นพฤติกรรมที่แก้ยากในวันข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่อยากย้ำคือ ไม่มีหมาตัวไหน “เสียคน” และไม่มีเจ้าของคนไหน “ล้มเหลว” ถ้าเรายังกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด — จุดเริ่มต้นของ ปัญหาน้องหมาถูกทิ้ง ไม่มีใครตั้งใจจะเลี้ยงหมาผิด แต่ในโลกของการเลี้ยงหมา ความผิดพลาดส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจาก “ความไม่รัก” แต่เกิดจาก “ความไม่รู้ หรือ ความเข้าใจไม่ครบ” เหมือนเวลาคุณกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อ ๆ มาจะตามผิดไปโดยที่เราไม่รู้ตัว การเลี้ยงหมาก็เช่นกัน ถ้าเริ่มต้นด้วยการตามใจมากไป ใช้ความสงสารมากกว่าความมั่นคง หรือปล่อยให้เขา “นำเรา” แทนที่เราจะ “นำเขา”  สุดท้าย ปัญหาจะค่อย ๆ สะสมจนกลายเป็นพฤติกรรมที่ยากจะแก้ เคยมีลูกหมาบางตัวที่กลัวเสียงพัดลมจนตัวแข็ง บางตัวหวงอาหารจนกัดพี่น้อง และบางตัวเห่าทุกครั้งที่มีคนเดินผ่านบ้าน  […]

อ่านต่อ

จากเด็กมหาลัยผู้รักสัตว์ สู่ ฟาร์มงู อันดับต้น ๆ ของไทย

ถ้าคุณเสิร์ชคำว่า “งูบอลไพธอน” บนโซเชียลไทย ชื่อที่โผล่ขึ้นมาต้น ๆ แทบทุกครั้งคือ Reality Ball Python ของคุณทาวน์ – ปณชัย ตรีเทพชาญชัย ฟาร์มงู ที่ถูกพูดถึงทั้งเรื่องความรู้ การพัฒนาสายพันธุ์ และมาตรฐานการดูแลที่เข้มข้น บทความนี้ถอดจากบทสนทนาที่ยาวนานและจริงใจ เพื่อบันทึกเส้นทาง ความคิด และบทเรียนที่เขาอยากส่งต่อให้ทุกคนที่รักงู จุดเริ่มต้นของชื่อ “Reality” “Reality” แปลตรงตัวว่า “ความจริง” และสำหรับเจ้าของฟาร์มคำนี้คือสัญญา — ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ไม่หลอกลูกค้า ไม่อวดเกินจริง สิ่งที่ขายคือตัวงู ความรู้ และความรับผิดชอบ “ผมเป็นคนพูดตรง และอยากให้ทุกอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง” เขาว่า ความตั้งใจนี้ค่อย ๆ กลายเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ ภาษาแห่งคนเลี้ยง: ทำคอนเทนต์ที่คนดู “เข้าใจได้จริง” จุดแข็งหนึ่งของ Reality ball python คือการทำคอนเทนต์ภาษาไทยที่ “ไม่วิชาการเกินจำเป็น” แต่แม่นยำและลงมือทำได้ เขาเริ่มทำคลิปเพราะเห็นช่องว่าง—ความรู้ดี ๆ มีอยู่มาก แต่ยังไม่มีใครเรียบเรียงให้ผู้เลี้ยงคนไทยเข้าถึงง่ายพอ […]

อ่านต่อ

การเข้าสังคมของหมา — ศิลปะที่พ่อแม่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับลูก

พ่อแม่ทุกคนอยากให้หมา “มีเพื่อน” อยากให้เขาวิ่งเล่นอย่างมีความสุข แต่ การเข้าสังคมของหมา ไม่ใช่ การปล่อยไปเจอใครก็ได้ แล้วหวังว่าทุกอย่างจะดีเอง และยิ่งไม่ใช่การเริ่มต้นด้วยชุดความคิดว่า “หมาฉันไม่ดุ เล่นกับใครก็ได้” ความจริงคือ… การเข้าสังคมเป็น “ทักษะ” ที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป และพ่อแม่ต้อง อ่านภาษากายของลูกตัวเอง และ ของหมาตัวอื่น ไปพร้อม ๆ กัน การเข้าสังคมของหมา เราอ่านหมาตัวเอง… และอ่านหมาคนอื่นด้วย เวลาลูกเราดูเป็นมิตร (หางแกว่งต่ำ–กลาง ลำตัวอ่อนนุ่ม ทำท่าเชิญชวนเล่น) ก็จริง แต่ถ้าฝ่ายตรงข้าม ตัวแข็ง หางชี้สูง จ้องตาแน่น นั่นอาจเป็น การเตือนว่าไม่พร้อมเล่น และถ้าเจอพฤติกรรม ขึ้นคร่อม วางคางบนหลัง ดันไหล่ กดทับ ไล่ต้อน — นั่นคือ “การข่ม” ไม่ใช่การเล่น ถ้าปล่อยให้ “โดนข่ม” ซ้ำ ๆ ลูกเราจะค่อย ๆ ไม่ไว้ใจสังคม ในทางกลับกัน ถ้าปล่อยให้ […]

อ่านต่อ

10 วิธีการแนะนำตัว “น้องใหม่กับพี่ ๆ”

การนำ “สุนัขเด็ก” หรือ “สุนัขตัวใหม่” เข้าบ้าน และ 10 วิธีการแนะนำตัว “น้องใหม่กับพี่ ๆ” ปล่อยให้ฝูงเรียนรู้ แต่คนต้องคุมกรอบ การรับ สุนัขตัวใหม่ เข้าบ้าน ไม่ใช่แค่ “พามาเจอแล้วปล่อยให้เล่นกัน” ลองนึกภาพ… เรากำลังอุ้มเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน กลิ่นน้ำนมยังไม่จาง ขนฟู ๆ นุ่มมือเหมือนตุ๊กตา หัวใจเต้นตุ๊บ ๆ อยู่บนอกเรา แต่ระหว่างนั้น พี่ ๆ ที่บ้านก็มองมาด้วยสายตาหลากหลาย บางตัวอยากเข้ามาดมอย่างตื่นเต้น บางตัวหางแข็งรอดู บางตัวเห่าเสียงดังราวกับบอกว่า “นี่บ้านฉันนะ ใครมาอีกแล้ว” นี่แหละครับ… จังหวะสำคัญที่สุดของการพาน้องใหม่เข้าฝูง 10 วิธีการแนะนำ สุนัขตัวใหม่ (หรือน้องใหม่) กับพี่ ๆ ในบ้าน 1. เตรียมบ้านก่อนน้องใหม่เข้ามา ก่อนจะมีการเจอตัวจริง เราต้องเตรียมพื้นที่ให้พร้อมเสมอ ควรจะจัดคอกเล็กหรือพื้นที่ ที่เป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ของน้องใหม่ มีที่นอน มีน้ำ มีของใช้ส่วนตัว […]

อ่านต่อ

โรคมะเร็งในแมว ชนิด Fibrosarcoma

โรคมะเร็งในแมว เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย มักพบในแมวอายุวัยกลางถึงวัยสูงอายุ และพบได้ทั้งแมวเพศผู้และเพศเมียทุกสายพันธุ์ โรคมะเร็งในแมว Fibrosarcoma เป็นมะเร็งชนิดเนื้อเยื่ออ่อนและผิวหนังในแมว (soft tissue sarcoma) ที่เกิดจากเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ซึ่งทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยมักพบเกิดเป็นก้อนเนื้อบริเวณใต้ผิวหนังตามตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ขา สะโพก และบริเวณศีรษะ เป็นต้น ในกลุ่มมะเร็งชนิดนี้ที่พบได้บ่อยในแมวคือ Feline injection site sarcomas มีชื่อย่อว่า FISS เป็น Fibrosarcoma ที่เกิดจากการผลข้างเคียงของการฉีดยา หรือการอักเสบเรื้อรัง ตำแหน่งที่พบก้อนมะเร็งได้บ่อย ได้แก่ บริเวณสะบัก ขาหลัง ข้างลำตัว และสะโพก เป็นต้น มะเร็ง Fibrosarcoma มักพบในแมวอายุวัยกลางถึงวัยสูงอายุ พบได้ทั้งแมวเพศผู้ และเพศเมีย ทุกสายพันธุ์ สาเหตุของการเกิด โรคมะเร็งในแมว ชนิด Fibrosarcoma เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความผิดปกติของพันธุกรรมแมว การบาดเจ็บหรือการอักเสบเรื้อรังของผิวหนัง วัคซีนบางชนิดที่มีรายงานว่าเป็นสาเหตุการเกิดมะเร็ง […]

อ่านต่อ

สุนัขอดอาหาร อดน้ำ ได้กี่วัน ถึงจะอันตราย?

“สุนัขอดอาหาร ได้กี่วัน ??? “นี่เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่มักได้ยินบ่อย… บางทีถามเพราะสงสัย บางทีถามเพราะอยากรู้เผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่ทุกครั้งที่ได้ยิน ผมยากชวนให้ลองหยุด แล้วถามตัวเองกลับว่า “แล้วถ้าเป็นเราเองล่ะ…จะทนได้ไหม ?” เริ่มจาก… ลองนึกถึงตัวเอง คุณเคยถูกคุณหมอสั่งให้งดอาหารก่อนตรวจหรือก่อนผ่าตัดไหม? เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เริ่มหิวจนท้องร้อง มือสั่น หน้ามืด หงุดหงิดง่าย ทั้งที่เรารู้ตัวอยู่แล้วว่า “งดชั่วคราว” และจะได้กินอีกในไม่ช้า หรือในวันที่ลืมดื่มน้ำ เพราะงานยุ่งทั้งวัน พอตกบ่ายก็เริ่มปากแห้ง คอแห้ง ร่างกายเพลีย หัวตื้อ ๆ คิดอะไรไม่ออกแล้ว ความรู้สึกเล็กน้อยเหล่านี้ เราเจอเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็แทบทนไม่ไหว แล้วลองจินตนาการว่า ถ้าเราไม่รู้เลยว่าจะได้กินหรือดื่มอีกทีเมื่อไร… ความหิว ความกระหาย ความอ่อนแรง จะกลายเป็นความทุกข์ที่กัดกินใจอย่างเงียบ ๆ สำหรับสุนัข ความรู้สึกนี้อาจหนักหนาสาหัสยิ่งกว่า เพราะเขาไม่เข้าใจเหตุผลและไม่รู้ว่า “อดไว้ก่อนแล้วค่อยกิน” เขารู้เพียงว่า “ตอนนี้ฉันหิว… ตอนนี้ฉันกระหายน้ำ… แล้วทำไมพ่อแม่ไม่ช่วยฉัน?” ในมุมมองของสุนัข เมื่อ สุนัขอดอาหาร สุนัขไม่รู้จักคำว่า “อดเพื่อสุขภาพ” หรือ “อดเพื่อดีท็อกซ์” เขาไม่เข้าใจตรรกะของมนุษย์ว่าทำไมบางครั้งต้องงดอาหารก่อนตรวจเลือด เขารู้เพียงสิ่งเดียว […]

อ่านต่อ

การจัดพื้นที่สำหรับแมว ที่ทำให้แมวมีความสุข

การจัดพื้นที่สำหรับแมว เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญมาก ๆ ต่อการเลี้ยงแมวให้มีความสุข โดยสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เอื้อต่อสวัสดิภาพของแมว ควรเป็นพื้นที่ที่เข้าใจความต้องการของพวกเขา แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยเฉพาะตัว รักอิสระ หวงอาณาเขต มีสัญชาตญาณการเป็นนักล่า และไม่ชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่ๆอย่างรวดเร็ว การที่จะทำให้แมวอยู่ในบ้านอย่างมีความสุข ดังนั้น การจัดพื้นที่สำหรับแมว จึงควรยึดหลักสำคัญในเรื่องพฤติกรรมเหล่านี้ นอกจากการให้อาหารของโปรด หรือของเล่นที่ถูกใจแมวแล้ว สิ่งแวดล้อมในบ้านก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจของแมว สำหรับแมวควรมีทั้งพื้นที่ให้ปีนป่าย มุมเงียบสงบสำหรับการพักผ่อน รวมถึงมีสิ่งกระตุ้นที่ช่วยให้แมวไม่รู้สึกเบื่อหรือเครียด วันนี้หมอจะพาไปรู้จัก 7 ข้อ ของการจัดพื้นที่ภายในบ้าน ที่ช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของแมว และช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้เจ้าเหมียวของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้น 1. มีมุมสงบและพื้นที่ส่วนตัวที่แมวรู้สึกอุ่นใจ โดยธรรมชาติ แมวจะไม่ชอบเสียงดัง ความวุ่นวาย หรือผู้คนที่พลุกพล่านในบ้าน ถ้าบ้านไหนชอบเปิดเพลงดังลั่นเสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงเปิด-ปิดประตูปัง ๆ หรือมีเด็กวิ่งไล่กันบ่อย ๆ แมวอาจจะเกิดความเครียดและแอบไปซ่อนตัวได้ ในบางวันที่แมวอาจจะอยากอยู่เพียงลำพัง พวกเขาจะมองหามุมที่ไม่มีใครรบกวน ให้เราจัดมุมสงบสำหรับน้องแมว เป็นมุมสงบเล็ก ๆ เช่น มุมใต้โต๊ะ ตะกร้าพร้อมผ้าห่มรอง หรือแม้แต่กล่องลังสะอาด ๆ ก็สามารถเป็นพื้นที่ที่แมวรู้สึกปลอดภัยได้ 2. การจัดพื้นที่สำหรับแมว ให้พวกเขาได้ปีนป่าย แมวเป็นนักปีนป่าย […]

อ่านต่อ

เมื่อสุนัขเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ — สิ่งที่เจ้าของต้องเข้าใจ

ลองนึกภาพลูกสุนัขตัวเล็กที่เราเคยอุ้มไว้บนตัก กำลังโตขึ้นจนถึงวันที่หัวใจและร่างกายของเขาพร้อมจะบอกว่า “ฉันกำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ” แต่ สุนัขติดสัด ไม่ได้มีแค่ร่างกายที่พร้อม แต่เต็มไปด้วยแรงขับตามธรรมชาติที่คนเลี้ยงต้องเข้าใจและจัดการอย่างเหมาะสม สุนัขไม่ได้ “โตเต็มวัย” แค่เพราะตัวใหญ่ขึ้น แต่เมื่อเขาเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ หรือ สุนัขติดสัด หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Heat (เพศเมียเริ่มเป็นประจำเดือน และเพศผู้เริ่มสนใจกลิ่นฮอร์โมน) ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรมที่เราต้องรับมืออย่างถูกต้อง โดยทั่วไป อาการสำคัญช่วง สุนัขติดสัด (Heat) เพศเมีย เพศผู้ วิธีจัดการกับอารมณ์ และพฤติกรรม สุนัขติดสัด — ไม่ใช่แค่กัก แต่ต้องเข้าใจ 1. เข้าใจธรรมชาติ = ลดความตื่นตระหนกของคน 2. แยกพื้นที่ให้ชัดเจน ปลอดภัย ถ้าเลี้ยงรวมเพศผู้–เพศเมีย ถ้าเพศผู้อยู่นอกบ้าน 3. ออกกำลังกายเพื่อลดพลังงานส่วนเกิน ทำไมถึงสำคัญ เพราะช่วงนี้สุนัขพลังงานล้นจากฮอร์โมน ถ้าไม่ได้ระบายจะยิ่งกระวนกระวาย ทำลายข้าวของหรือทะเลาะกับสุนัขตัวอื่นได้ง่ายขึ้น วิธีปฏิบัติ: 4. เสริมกิจกรรมสงบอารมณ์ ของขบเคี้ยวที่ปลอดภัย ใช้กลิ่นธรรมชาติ ฝึกคำสั่งสงบ 5. อย่าลงโทษด้วยอารมณ์ […]

อ่านต่อ

โรคเบาจืดในแมว มีอาการอย่างไร และป้องกัน ได้อย่างไร

โรคเบาจืดในแมว แม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเกิดปัญหารุนแรงตามมาได้ โรคเบาจืดในแมว (Diabetes Insipidus; DI) เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก เป็นภาวะที่ร่างกายของแมวขับน้ำออกจากร่างกายมากกว่าปกติ ส่งผลให้แมวกินน้ำเยอะกว่าปกติ (Polydipsia) และปัสสาวะมากขึ้น (Polyuria) โรคนี้เกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน (antidiuretic hormone, ADH) หรืออาจจะเกิดจากการตอบสนองอย่างผิดปกติของไต ซึ่งเป็นอวัยวะทีเกี่ยวข้องกับการดูดกลับน้ำและของเหลวในร่างกาย ทำให่ร่างกายของแมวเสียสมดุลน้ำในร่างกาย สาเหตุการเกิด โรคเบาจืดในแมว โรคเบาจืดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่ 1. Central Diabetes Insipidus (CDI) เกิดจากการขาดหรือสร้าง ADH ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีปัญหาที่สมองส่วนไฮโปธาลามัส (hypothalamus) ที่เป็นแหล่งสร้าง และส่งต่อไปเก็บยังต่อมใต้สมอง pituitary gland เช่น ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด เนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง การอักเสบของสมอง การได้รับบาดเจ็บ หรือมีการติดเชื้อ เป็นต้น 2. Nephrogenic Diabetes Insipidus (NDI) เกิดจากความผิดปกติที่ไตไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน ADH […]

อ่านต่อ

การเดินด้วยสายจูง สำคัญอย่างไร

“การเดินด้วยสายจูง” ไม่ได้เป็นแค่การพาหมาออกกำลังกายเท่านั้น แต่เป็น การฝึกวินัย การสื่อสาร และการสร้างสายสัมพันธ์ ที่ทรงพลังที่สุดกิจกรรมหนึ่งระหว่างคนกับหมา มาดูในแต่ละประเด็นเรื่อง การเดินด้วยสายจูง กันแบบชัด ๆ ครับ ทำไม “การเดินด้วยสายจูง” ถึงสำคัญ? ตำแหน่งที่หมาควรเดิน : ข้างๆ ข้างหน้า หรือข้างหลัง? คำตอบ คือ ไม่มีตำแหน่งที่ “ถูกต้องตายตัว” สำหรับทุกคน แต่ละตำแหน่งมี “ความหมาย” และ “ผลลัพธ์” ที่ต่างกันดังนี้: 1. เดินข้างๆ (Heel Walk / By your side) ความหมาย: เราเป็นผู้นำ เขาเชื่อฟังและติดตามผลลัพธ์: หมาสงบ โฟกัส ไม่ดึง ไม่นำเหมาะกับ: การฝึกเบื้องต้น / การพาเดินในพื้นที่พลุกพล่านข้อควรระวัง: ต้องฝึกสม่ำเสมอ ใช้คำสั่งชัดเจน เช่น “ข้าง” หรือ “ชิด” 2. […]

อ่านต่อ

แมววิ่งไปมา อย่างบ้าคลั่ง เป็นเพราะอะไร

แมววิ่งไปมา อย่างบ้าคลั่ง เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เจ้าของหลายท่าน ได้แต่มองแล้วก็สงสัยว่า น้องจะทำแบบนี้ทำไม บรรยากาศภายในบ้านที่กำลังเงียบสงบ แต่เแล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งออกมาจากมุมห้องอย่างรวดเร็ว แมววิ่งไปมา อย่างบ้างคลั่ง รวดเร็ว มีทิศทางที่ชัดเจน แต่ไม่ได้ตื่นกลัว พฤติกรรมของแมวลักษณะนี้ มีชื่อเรียกว่า Cat Zoomies พฤติกรรม Zoomies เป็นพฤติกรรมที่พบได้ในแมวทุกเพศทุกวัย นักวิทยาศาสตร์เรียกพฤติกรรมนี้ว่า Frenetic Random Activity Periods (FRAPs) โดยสิ่งที่น่าสนใจของพฤติกรรมนี้คือ มักเกิดขึ้นหลังจากการขับถ่ายในกระบะทราย หรือยามค่ำคืนที่อาจทำให้เจ้าของสะดุ้งตื่นจากเสียงวิ่งพรวดพราด สาเหตุของพฤติกรรมนี้เกิดจากอะไร เจ้าของควรกังวล หรือไม่ วันนี้ หมอจะพามาหาคำตอบกันค่ะ สาเหตุของพฤติกรรม แมววิ่งไปมาอย่างบ้างคลั่ง หรือ “Zoomies” 1. ระบบประสาทตอบสนองต่อความโล่งเบาสบาย การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยเฉพาะการถ่ายอุจจาระ ต้องอาศัยการหดตัวของลำไส้ และกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งเมื่อหลังจากขับถ่ายเสร็จปแล้ว ระบบประสาทของแมวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารจะส่งสัญญาณว่าการขับถ่ายเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย แมวจึงวิ่งพล่านไปมาเพื่อปลอดลปล่อยพลังความสดชื่น และยังสื่อถึงความสุขแบบสุด ๆ ไปเลย […]

อ่านต่อ

10 สัญญาณ แม่หมาใกล้คลอด

เมื่อ แม่หมาใกล้คลอด … เราควรทำอย่างไร? เมื่อ แม่หมาใกล้คลอด … ลองนึกภาพบ้านที่เคยเงียบสงบ กลายเป็นพื้นที่ที่มีเสียงหายใจถี่ ๆ ดังอยู่มุมห้อง แม่หมาที่เคยนอนเหยียดยาวในตอนบ่าย เริ่มเดินวนรอบห้อง ราวกับกำลังหาทางออกจากความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เธอหยุดแล้วเลียตัวเองเงียบ ๆ เลียอีกครั้ง… จากนั้นจึงขุดผ้าห่มเป็นวงกลม ขยับตัวสองสามที หายใจแรงขึ้น… แล้วหันมามองเราด้วยดวงตาอ่อนล้าแต่ไว้ใจ นี่ไม่ใช่แค่อาการ แต่คือ “ภาษาของแม่” ภาษาที่เธอกำลังบอกเราว่า — “ถึงเวลาแล้ว…ช่วยอยู่ตรงนี้กับฉันได้ไหม” 10 สัญญาณ แม่หมาใกล้คลอด 1. อุณหภูมิที่ลดลง… ก่อนชีวิตจะเริ่มต้นใหม่ แม่หมายังดูปกติดี ไม่มีท่าทีเจ็บปวด แต่หากลองวัดอุณหภูมิร่างกายผ่านทวารหนัก คุณจะพบว่า จากเดิมที่เคย 38.5 องศาเซลเซียส ค่อย ๆ ลดเหลือ 36.5 – 37 องศาเซลเซียส นี่คือสัญญาณเงียบ ๆ ว่า “การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นใน 12–24 ชั่วโมงข้างหน้า” สิ่งที่เจ้าของควรทำ คือ […]

อ่านต่อ

อาการชักในสุนัข

เมื่อเราต้องเผชิญ อาการชักในสุนัข อย่าเพียงแค่ตกใจ แต่ต้องเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังนั่งเล่นกับน้องหมาตัวโปรดอยู่ดี ๆ แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้น ตัวเกร็ง กระตุก น้ำลายฟูมปาก ดวงตาเหลือกขึ้น เชื่อว่าวินาทีนั้น … หัวใจของคุณแทบหยุดเต้นเช่นกัน อาการชักในสุนัข ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ก็ไม่ใช่จุดจบ หากเรารู้เท่าทัน และตั้งสติได้ถูกต้อง อาการชักในสุนัข คืออะไร? “อาการชัก” คือภาวะที่สมองส่งสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติอย่างฉับพลัน ทำให้ร่างกายของสุนัขตอบสนองแบบไม่ควบคุม เช่น ตัวเกร็ง กระตุก หรือล้มลงโดยไม่มีสติชั่วคราว รูปแบบของอาการชัก สาเหตุของ อาการชักในสุนัข อาการชักอาจมีสาเหตุหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 1. สาเหตุทางสมอง (Intracranial) 2. สาเหตุจากภายนอกสมอง (Extracranial) วิธีสังเกตอาการชัก วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีอาการชัก สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ตั้งสติให้ได้ก่อนหมาหยุดชัก” ✅ สิ่งที่ควรทำ ❌ สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด หลังชัก ควรพาไปหาสัตวแพทย์เมื่อไหร่? 💊 แนวทางการรักษา 1. หาสาเหตุและวินิจฉัย 2. การรักษาเฉพาะทาง […]

อ่านต่อ

ภาวะ ความดันโลหิตสูงในแมว

ภาวะ ความดันโลหิตสูงในแมว (Feline hypertension) ภาวะความเสี่ยง ที่ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยความเข้าใจ และความใส่ใจในสุขภาพของแมวตั้งแต่วัยเด็ก ภาวะ ความดันโลหิตสูงในแมว (Hypertension) เป็นภาวะที่ค่าความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง โดยพบได้บ่อยในแมวสูงอายุ ในช่วงระยะแรก ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวจะไม่แสดงอาการผิดปกติ แต่เมื่อปล่อยให้เกิดความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ตาบอดเฉียบพลัน ไตวาย มีความผิดปกติในระบบประสาท และเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น นอกจากนี้ ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวมักเป็นภาวะแทรกซ้อน หรือเกิดขึ้นภายหลัง (Secondary hypertension) โดยก่อนหน้านี้ แมวอาจจมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ได้แก่ โรคไตวายเรื้อรัง และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ รู้จักค่าความดันโลหิตของแมว ค่าความดันโลหิตของแมว มีหน่วยเป็น มิลลิเมตรปรอท (mmHg) โดยค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure) คือ ค่าแรงดันภายในหลอดเลือดในขณะที่หัวใจกำลังสูบฉีดเลือดออกจากห้องล่างซ้าย ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยแมวที่มีสุขภาพแข็งแรงปกติ จะมีค่าอยู่ที่ 110 – 160 mmHg และถ้าค่าความดัน […]

อ่านต่อ

แมวมีอาการคัน ความผิดปกติบนผิวหนัง ที่ไม่ควรมองข้าม

แมวมีอาการคัน เป็นอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในแมว โดยแมวมักจะเกา และเลียขนมากกว่าปกติ จนขนบาง หรือในบางรายอาจพบว่า แมวกัดแทะบริเวณผิวหนัง และร่างกายบ่อยครั้ง เมื่อ แมวมีอาการคัน สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการคันในแมวเช่น การติดปรสิตภายนอกที่ผิวหนัง ภาวะภูมิแพ้ การติดเชื้อที่ผิวหนัง รวมไปถึงความผิดปกติทางจิตใจ และปัญหาทางพฤติกรรม เป็นต้น ลักษณะความผิดปกติทางผิวหนังที่พบในแมวและทำให้มีอาการคันคือ ขนบาง และขนร่วงมากกว่าปกติ ขนบางเป็นหย่อม ขนร่วงแบบสมมาตร มีสะเก็ดรังแค พบรอยแดงที่บริเวณผิวหนัง และบางครั้งอาจพบผื่นรอยแดงนูนได้ สาเหตุของโรคผิวหนังที่ทำให้ แมวมีอาการคัน 1. ปรสิตภายนอก ปรสิตภายนอก เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในแมว โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงในระบบเปิด ปรสิตที่ก่อโรคทางผิวหนัวในแมวคือ หมัด (Ctenocephalides felis) เมื่อหมัดกัดบนผิวหนังของแมว จะทำให้เกิดตุ่มผื่น อักเสบ และสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะแพ้น้ำลายหมัด (flea allergy dermatitis; FAD) ได้ ปรสิตที่พบได้บ่อยอีกหนึ่งชนิด คือ ไรขี้เรื้อนแห้ง(Notoedres cati) ทำให้แมวเกิดอาการคัน มีตุ่มแดง สะเก็ดปกคลุม โดยมักพบบริเวณใบหูส่วนปลาย ใบหน้า รอบตา […]

อ่านต่อ

แมวกัดกัน จนเป็นแผล และกลายเป็นหนอง

ปัจจุบัน หลายท่านเลี้ยงแมวในระบบปิดมากกว่าหนึ่งตัว และบางครั้งก็ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ แมวกัดกัน หรือทะเลาะกันจนต่างฝ่ายต่างก็มีบาดแผล ในฐานะเจ้าของเราควรทำอย่างไรเมื่อแมวกัดกันจนเกิดบาดแผล แมวกัดกัน เพราะอะไร แมวบ้านเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพฤติกรรมอย่างหนึ่งคล้ายกับญาติที่เป็นแมวป่า คือ การสร้างอาณาเขต ดังนั้น เมื่อเราเลี้ยงแมวมากกว่าหนึ่งตัวภายในบ้านหลังเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพบเจอกับเหตุการณ์ แมวกัดกัน หรือทะเลาะข่วนกัน จนเกิดบาดแผล พฤติกรรมการหวงแหนอาณาเขตของแมว ทำให้เกิดการแบ่งพื้นที่ภายในบ้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะแมวที่เคยอยู่ตัวเดียวมาก่อน แล้วมีแมวตัวใหม่เพิ่มขึ้นภายหลัง แมวบางตัวจึงต้องการป้องกันอาณาเขตด้วยการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การขู่ กัด หรือข่วน เพื่อให้แมวอีกตัวออกไปจากพื้นที่ของตนเอง ในธรรมชาติ แมวป่าจะสร้างเขตแดนของตนเองด้วยการทิ้งกลิ่นไว้ เมื่อแมวตัวอื่นผ่านเข้ามา หรือได้กลิ่น ก็มักจะเลี่ยงออกไป และไม่พยายามเผชิญหน้ากัน แต่แมวบ้านที่อยู่ในระบบปิดอาจจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้ยากกว่าในธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อเกิดการเผชิญหน้ากัน การแสดงออกของพฤติกรรมการป้องกันอาณาเขตจึงเกิดขึ้น กลายเป็นสงครามย่อม ๆ ภายในบ้าน ผลที่ตามมาคือ แมวได้รับบาดแผลทางร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อจนแผลอักเสบ และกลายเป็นหนอง นอกจากนี้ ความเสี่ยงต่อการติดโรคร้ายแรงจะเพิ่มขึ้น ถ้าแมวของเราไปกัดกับแมวจรที่ไม่ได้รับวัคซีน อาจจะนำไปสู่การติดโรคเอดส์แมว และลิวคีเมีย โดยส่วนใหญ่ เมื่อแมวได้รับบาดเจ็บจากการถูกกัดหรือข่วน บาดแผลมักจะเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า ลำคอ บริเวณขา โคนหาง […]

อ่านต่อ

How to การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย

หนึ่งในเรื่องพื้นฐาน ที่พ่อแม่แมวมือใหม่ต้องฝึกฝนให้ลูกแมวทำให้ได้คือ การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย เพราะเป็นพัฒนาการที่สำคัญของแมวที่จะเติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี การขับถ่ายของลูกแมวในวัยแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ จะได้รับการกระตุ้นโดยแม่แมว จากนั้น เมื่อเริ่มขับถ่ายเองได้แล้ว พวกเขาจะเรียนรู้และจดจำจากแม่ และพี่น้องในครอกเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แมวบ้านในปัจจุบันได้เข้ามาอยู่ร่วมกับมนุษย์หลังจากหย่านมแล้ว ดังนั้น การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อย่างเรา หากลูกแมวไม่ได้รับการฝึกฝนให้ใช้กระบะทรายอย่างถูกต้องเหมาะสม อาจเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น การปัสสาวะ และขับถ่ายไม่เป็นที่ การอั้นปัสสาวะจนเกิดปัญหาสุขภาพ และการเกิดความเครียดสะสมในลูกแมว จนเกิดเป็นปัญหาด้านพฤติกรรม ดังนั้น พ่อแม่น้องแมวต้องคอยดูแลเรื่องการขับถ่ายของลูกแมวให้เป็นไปอย่างปกติ ขั้นตอนการฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย 1. การเตรียมกระบะทราย ควรเลือกใช้กระบะทรายที่ขอบเตี้ยเพื่อให้ลูกแมวสามารถก้าวเข้ากระบะได้ง่าย ขนาดความยาวของกระบะที่แนะนำคือมีความยาว 1.5 เท่าของความยาวตัวลูกแมว ซึ่งลูกแมวสามารถหมุนกลับตัวได้อย่างสะดวก และเมื่อลูกแมวโตขึ้นจะต้องเปลี่ยนขนาดกระบะให้เหมาะสม 2. ใส่ทรายแมวในกระบะให้มีความสูงที่เหมาะสม เมื่อได้ขนาดกระบะทรายที่เหมาะสมแล้ว ควรใส่ทรายลงไปในกระบะให้มีความสูงอย่างน้อย 3 – 4 เซนติเมตร จากก้นกระบะ ซึ่งเป็นความสูงที่เหมาะสมสำหรับอุ้งเท้าแมว ที่มีความไวต่อการสัมผัส และเหมาะกับพฤติกรรมการกลบอุจจาระ และปัสสาวะของตนเอง ในปัจจุบัน ในท้องตลอดมีทรายแมวหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความ้องการ […]

อ่านต่อ

แมวมีภาวะไขมันพอกตับ เหมือนในมนุษย์ ได้หรือไม่

เราอาจเคยได้ยินมาบ้าง เกี่ยวกับภาวะไขมันพอกตับในมนุษย์ แล้วในทางฝั่งลูกรักขนฟูของเรา แมวมีภาวะไขมันพอกตับ ได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ค่ะ! แมวมีภาวะไขมันพอกตับ ได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ ภาวะไขมันพอกตับในแมว หรือภาวะที่ตับสะสมไขมันสูงกว่าปกติ (Hepatic lipidosis) เป็นภาวะโรคตับที่พบได้บ่อยในแมว ทำให้เกิดภาวะดีซ่าน ตัวเหลือง ตับวาย และเสียชีวิตได้ โดยส่วนใหญ่ มักพบในแมวที่มีน้ำหนักเกิน หรือแมวอ้วน ที่มีอาการเบื่ออาหาร หรือไม่กินอาหารนานหลายวัน ซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการป่วยโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดความไม่อยากกินอาหาร สำหรับในแมวที่มีน่ำหนักตัวปกติ ก็สามารถเกิดภาวะไขมันพอกตับได้เช่นกัน สาเหตุของเกิดภาวะไขมันพอกตับในแมว โรคไขมันพอกตับในแมวเกิดจากสะสมเซลล์ไขมันจำนวนมากในตับ โดยเซลล์ตับจะถูกแทนที่ด้วยไตรกลีเซอร์ไรด์มากกว่าร้อยละ 50 ของน้ำหนักตับทั้งหมด ส่งผลให้การทำงานของเซลล์ตับลดล งและแสดงความรุนแรงของโรคขึ้นภายหลัง อีกหนึ่งสาเหตุเกิดในแมวที่มีภาวะอดอาหารจะทำให้เกิดการสลายเนื้อเยื่อไขมัน และเกิดไตรกลีเซอร์ไรด์สะสมแทรกในเนื้อตับ อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากโรคอ้วน (Obesity) เนื่องจากการกินอาหารที่มีระดับไขมันหรือโปรตีนสูงเป็นประจำเป็น ซึ่งอาจได้รับสารอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายทำให้ร่างกายมีพลังงานส่วนเกิน และเกิดการสะสมไตรกลีเซอร์ไรด์ในเนื้อตับ นอกจากนี้ เมื่อระดับไขมันในเลือดสูง จะส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวานตามมาอีกด้วย ส่วนปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้เกิดไขมันพอกตับ เช่น การได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดสารอาหาร โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory […]

อ่านต่อ