Pet Talk

การจัดพื้นที่สำหรับแมว ที่ทำให้แมวมีความสุข

การจัดพื้นที่สำหรับแมว เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญมาก ๆ ต่อการเลี้ยงแมวให้มีความสุข โดยสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่เอื้อต่อสวัสดิภาพของแมว ควรเป็นพื้นที่ที่เข้าใจความต้องการของพวกเขา แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยเฉพาะตัว รักอิสระ หวงอาณาเขต มีสัญชาตญาณการเป็นนักล่า และไม่ชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่ๆอย่างรวดเร็ว การที่จะทำให้แมวอยู่ในบ้านอย่างมีความสุข ดังนั้น การจัดพื้นที่สำหรับแมว จึงควรยึดหลักสำคัญในเรื่องพฤติกรรมเหล่านี้ นอกจากการให้อาหารของโปรด หรือของเล่นที่ถูกใจแมวแล้ว สิ่งแวดล้อมในบ้านก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจของแมว สำหรับแมวควรมีทั้งพื้นที่ให้ปีนป่าย มุมเงียบสงบสำหรับการพักผ่อน รวมถึงมีสิ่งกระตุ้นที่ช่วยให้แมวไม่รู้สึกเบื่อหรือเครียด วันนี้หมอจะพาไปรู้จัก 7 ข้อ ของการจัดพื้นที่ภายในบ้าน ที่ช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของแมว และช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้เจ้าเหมียวของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้น 1. มีมุมสงบและพื้นที่ส่วนตัวที่แมวรู้สึกอุ่นใจ โดยธรรมชาติ แมวจะไม่ชอบเสียงดัง ความวุ่นวาย หรือผู้คนที่พลุกพล่านในบ้าน ถ้าบ้านไหนชอบเปิดเพลงดังลั่นเสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงเปิด-ปิดประตูปัง ๆ หรือมีเด็กวิ่งไล่กันบ่อย ๆ แมวอาจจะเกิดความเครียดและแอบไปซ่อนตัวได้ ในบางวันที่แมวอาจจะอยากอยู่เพียงลำพัง พวกเขาจะมองหามุมที่ไม่มีใครรบกวน ให้เราจัดมุมสงบสำหรับน้องแมว เป็นมุมสงบเล็ก ๆ เช่น มุมใต้โต๊ะ ตะกร้าพร้อมผ้าห่มรอง หรือแม้แต่กล่องลังสะอาด ๆ ก็สามารถเป็นพื้นที่ที่แมวรู้สึกปลอดภัยได้ 2. การจัดพื้นที่สำหรับแมว ให้พวกเขาได้ปีนป่าย แมวเป็นนักปีนป่าย […]

อ่านต่อ

เมื่อสุนัขเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ — สิ่งที่เจ้าของต้องเข้าใจ

ลองนึกภาพลูกสุนัขตัวเล็กที่เราเคยอุ้มไว้บนตัก กำลังโตขึ้นจนถึงวันที่หัวใจและร่างกายของเขาพร้อมจะบอกว่า “ฉันกำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ” แต่ สุนัขติดสัด ไม่ได้มีแค่ร่างกายที่พร้อม แต่เต็มไปด้วยแรงขับตามธรรมชาติที่คนเลี้ยงต้องเข้าใจและจัดการอย่างเหมาะสม สุนัขไม่ได้ “โตเต็มวัย” แค่เพราะตัวใหญ่ขึ้น แต่เมื่อเขาเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ หรือ สุนัขติดสัด หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Heat (เพศเมียเริ่มเป็นประจำเดือน และเพศผู้เริ่มสนใจกลิ่นฮอร์โมน) ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรมที่เราต้องรับมืออย่างถูกต้อง โดยทั่วไป อาการสำคัญช่วง สุนัขติดสัด (Heat) เพศเมีย เพศผู้ วิธีจัดการกับอารมณ์ และพฤติกรรม สุนัขติดสัด — ไม่ใช่แค่กัก แต่ต้องเข้าใจ 1. เข้าใจธรรมชาติ = ลดความตื่นตระหนกของคน 2. แยกพื้นที่ให้ชัดเจน ปลอดภัย ถ้าเลี้ยงรวมเพศผู้–เพศเมีย ถ้าเพศผู้อยู่นอกบ้าน 3. ออกกำลังกายเพื่อลดพลังงานส่วนเกิน ทำไมถึงสำคัญ เพราะช่วงนี้สุนัขพลังงานล้นจากฮอร์โมน ถ้าไม่ได้ระบายจะยิ่งกระวนกระวาย ทำลายข้าวของหรือทะเลาะกับสุนัขตัวอื่นได้ง่ายขึ้น วิธีปฏิบัติ: 4. เสริมกิจกรรมสงบอารมณ์ ของขบเคี้ยวที่ปลอดภัย ใช้กลิ่นธรรมชาติ ฝึกคำสั่งสงบ 5. อย่าลงโทษด้วยอารมณ์ […]

อ่านต่อ

โรคเบาจืดในแมว มีอาการอย่างไร และป้องกัน ได้อย่างไร

โรคเบาจืดในแมว แม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเกิดปัญหารุนแรงตามมาได้ โรคเบาจืดในแมว (Diabetes Insipidus; DI) เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก เป็นภาวะที่ร่างกายของแมวขับน้ำออกจากร่างกายมากกว่าปกติ ส่งผลให้แมวกินน้ำเยอะกว่าปกติ (Polydipsia) และปัสสาวะมากขึ้น (Polyuria) โรคนี้เกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน (antidiuretic hormone, ADH) หรืออาจจะเกิดจากการตอบสนองอย่างผิดปกติของไต ซึ่งเป็นอวัยวะทีเกี่ยวข้องกับการดูดกลับน้ำและของเหลวในร่างกาย ทำให่ร่างกายของแมวเสียสมดุลน้ำในร่างกาย สาเหตุการเกิด โรคเบาจืดในแมว โรคเบาจืดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่ 1. Central Diabetes Insipidus (CDI) เกิดจากการขาดหรือสร้าง ADH ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีปัญหาที่สมองส่วนไฮโปธาลามัส (hypothalamus) ที่เป็นแหล่งสร้าง และส่งต่อไปเก็บยังต่อมใต้สมอง pituitary gland เช่น ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด เนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง การอักเสบของสมอง การได้รับบาดเจ็บ หรือมีการติดเชื้อ เป็นต้น 2. Nephrogenic Diabetes Insipidus (NDI) เกิดจากความผิดปกติที่ไตไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน ADH […]

อ่านต่อ

การเดินด้วยสายจูง สำคัญอย่างไร

“การเดินด้วยสายจูง” ไม่ได้เป็นแค่การพาหมาออกกำลังกายเท่านั้น แต่เป็น การฝึกวินัย การสื่อสาร และการสร้างสายสัมพันธ์ ที่ทรงพลังที่สุดกิจกรรมหนึ่งระหว่างคนกับหมา มาดูในแต่ละประเด็นเรื่อง การเดินด้วยสายจูง กันแบบชัด ๆ ครับ ทำไม “การเดินด้วยสายจูง” ถึงสำคัญ? ตำแหน่งที่หมาควรเดิน : ข้างๆ ข้างหน้า หรือข้างหลัง? คำตอบ คือ ไม่มีตำแหน่งที่ “ถูกต้องตายตัว” สำหรับทุกคน แต่ละตำแหน่งมี “ความหมาย” และ “ผลลัพธ์” ที่ต่างกันดังนี้: 1. เดินข้างๆ (Heel Walk / By your side) ความหมาย: เราเป็นผู้นำ เขาเชื่อฟังและติดตามผลลัพธ์: หมาสงบ โฟกัส ไม่ดึง ไม่นำเหมาะกับ: การฝึกเบื้องต้น / การพาเดินในพื้นที่พลุกพล่านข้อควรระวัง: ต้องฝึกสม่ำเสมอ ใช้คำสั่งชัดเจน เช่น “ข้าง” หรือ “ชิด” 2. […]

อ่านต่อ

แมววิ่งไปมา อย่างบ้าคลั่ง เป็นเพราะอะไร

แมววิ่งไปมา อย่างบ้าคลั่ง เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เจ้าของหลายท่าน ได้แต่มองแล้วก็สงสัยว่า น้องจะทำแบบนี้ทำไม บรรยากาศภายในบ้านที่กำลังเงียบสงบ แต่เแล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งออกมาจากมุมห้องอย่างรวดเร็ว แมววิ่งไปมา อย่างบ้างคลั่ง รวดเร็ว มีทิศทางที่ชัดเจน แต่ไม่ได้ตื่นกลัว พฤติกรรมของแมวลักษณะนี้ มีชื่อเรียกว่า Cat Zoomies พฤติกรรม Zoomies เป็นพฤติกรรมที่พบได้ในแมวทุกเพศทุกวัย นักวิทยาศาสตร์เรียกพฤติกรรมนี้ว่า Frenetic Random Activity Periods (FRAPs) โดยสิ่งที่น่าสนใจของพฤติกรรมนี้คือ มักเกิดขึ้นหลังจากการขับถ่ายในกระบะทราย หรือยามค่ำคืนที่อาจทำให้เจ้าของสะดุ้งตื่นจากเสียงวิ่งพรวดพราด สาเหตุของพฤติกรรมนี้เกิดจากอะไร เจ้าของควรกังวล หรือไม่ วันนี้ หมอจะพามาหาคำตอบกันค่ะ สาเหตุของพฤติกรรม แมววิ่งไปมาอย่างบ้างคลั่ง หรือ “Zoomies” 1. ระบบประสาทตอบสนองต่อความโล่งเบาสบาย การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยเฉพาะการถ่ายอุจจาระ ต้องอาศัยการหดตัวของลำไส้ และกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งเมื่อหลังจากขับถ่ายเสร็จปแล้ว ระบบประสาทของแมวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารจะส่งสัญญาณว่าการขับถ่ายเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย แมวจึงวิ่งพล่านไปมาเพื่อปลอดลปล่อยพลังความสดชื่น และยังสื่อถึงความสุขแบบสุด ๆ ไปเลย […]

อ่านต่อ

10 สัญญาณ แม่หมาใกล้คลอด

เมื่อ แม่หมาใกล้คลอด … เราควรทำอย่างไร? เมื่อ แม่หมาใกล้คลอด … ลองนึกภาพบ้านที่เคยเงียบสงบ กลายเป็นพื้นที่ที่มีเสียงหายใจถี่ ๆ ดังอยู่มุมห้อง แม่หมาที่เคยนอนเหยียดยาวในตอนบ่าย เริ่มเดินวนรอบห้อง ราวกับกำลังหาทางออกจากความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เธอหยุดแล้วเลียตัวเองเงียบ ๆ เลียอีกครั้ง… จากนั้นจึงขุดผ้าห่มเป็นวงกลม ขยับตัวสองสามที หายใจแรงขึ้น… แล้วหันมามองเราด้วยดวงตาอ่อนล้าแต่ไว้ใจ นี่ไม่ใช่แค่อาการ แต่คือ “ภาษาของแม่” ภาษาที่เธอกำลังบอกเราว่า — “ถึงเวลาแล้ว…ช่วยอยู่ตรงนี้กับฉันได้ไหม” 10 สัญญาณ แม่หมาใกล้คลอด 1. อุณหภูมิที่ลดลง… ก่อนชีวิตจะเริ่มต้นใหม่ แม่หมายังดูปกติดี ไม่มีท่าทีเจ็บปวด แต่หากลองวัดอุณหภูมิร่างกายผ่านทวารหนัก คุณจะพบว่า จากเดิมที่เคย 38.5 องศาเซลเซียส ค่อย ๆ ลดเหลือ 36.5 – 37 องศาเซลเซียส นี่คือสัญญาณเงียบ ๆ ว่า “การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นใน 12–24 ชั่วโมงข้างหน้า” สิ่งที่เจ้าของควรทำ คือ […]

อ่านต่อ

อาการชักในสุนัข

เมื่อเราต้องเผชิญ อาการชักในสุนัข อย่าเพียงแค่ตกใจ แต่ต้องเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังนั่งเล่นกับน้องหมาตัวโปรดอยู่ดี ๆ แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้น ตัวเกร็ง กระตุก น้ำลายฟูมปาก ดวงตาเหลือกขึ้น เชื่อว่าวินาทีนั้น … หัวใจของคุณแทบหยุดเต้นเช่นกัน อาการชักในสุนัข ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ก็ไม่ใช่จุดจบ หากเรารู้เท่าทัน และตั้งสติได้ถูกต้อง อาการชักในสุนัข คืออะไร? “อาการชัก” คือภาวะที่สมองส่งสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติอย่างฉับพลัน ทำให้ร่างกายของสุนัขตอบสนองแบบไม่ควบคุม เช่น ตัวเกร็ง กระตุก หรือล้มลงโดยไม่มีสติชั่วคราว รูปแบบของอาการชัก สาเหตุของ อาการชักในสุนัข อาการชักอาจมีสาเหตุหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 1. สาเหตุทางสมอง (Intracranial) 2. สาเหตุจากภายนอกสมอง (Extracranial) วิธีสังเกตอาการชัก วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีอาการชัก สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ตั้งสติให้ได้ก่อนหมาหยุดชัก” ✅ สิ่งที่ควรทำ ❌ สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด หลังชัก ควรพาไปหาสัตวแพทย์เมื่อไหร่? 💊 แนวทางการรักษา 1. หาสาเหตุและวินิจฉัย 2. การรักษาเฉพาะทาง […]

อ่านต่อ

ภาวะ ความดันโลหิตสูงในแมว

ภาวะ ความดันโลหิตสูงในแมว (Feline hypertension) ภาวะความเสี่ยง ที่ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยความเข้าใจ และความใส่ใจในสุขภาพของแมวตั้งแต่วัยเด็ก ภาวะ ความดันโลหิตสูงในแมว (Hypertension) เป็นภาวะที่ค่าความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง โดยพบได้บ่อยในแมวสูงอายุ ในช่วงระยะแรก ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวจะไม่แสดงอาการผิดปกติ แต่เมื่อปล่อยให้เกิดความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ตาบอดเฉียบพลัน ไตวาย มีความผิดปกติในระบบประสาท และเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น นอกจากนี้ ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวมักเป็นภาวะแทรกซ้อน หรือเกิดขึ้นภายหลัง (Secondary hypertension) โดยก่อนหน้านี้ แมวอาจจมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ได้แก่ โรคไตวายเรื้อรัง และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ รู้จักค่าความดันโลหิตของแมว ค่าความดันโลหิตของแมว มีหน่วยเป็น มิลลิเมตรปรอท (mmHg) โดยค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure) คือ ค่าแรงดันภายในหลอดเลือดในขณะที่หัวใจกำลังสูบฉีดเลือดออกจากห้องล่างซ้าย ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยแมวที่มีสุขภาพแข็งแรงปกติ จะมีค่าอยู่ที่ 110 – 160 mmHg และถ้าค่าความดัน […]

อ่านต่อ

แมวมีอาการคัน ความผิดปกติบนผิวหนัง ที่ไม่ควรมองข้าม

แมวมีอาการคัน เป็นอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในแมว โดยแมวมักจะเกา และเลียขนมากกว่าปกติ จนขนบาง หรือในบางรายอาจพบว่า แมวกัดแทะบริเวณผิวหนัง และร่างกายบ่อยครั้ง เมื่อ แมวมีอาการคัน สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการคันในแมวเช่น การติดปรสิตภายนอกที่ผิวหนัง ภาวะภูมิแพ้ การติดเชื้อที่ผิวหนัง รวมไปถึงความผิดปกติทางจิตใจ และปัญหาทางพฤติกรรม เป็นต้น ลักษณะความผิดปกติทางผิวหนังที่พบในแมวและทำให้มีอาการคันคือ ขนบาง และขนร่วงมากกว่าปกติ ขนบางเป็นหย่อม ขนร่วงแบบสมมาตร มีสะเก็ดรังแค พบรอยแดงที่บริเวณผิวหนัง และบางครั้งอาจพบผื่นรอยแดงนูนได้ สาเหตุของโรคผิวหนังที่ทำให้ แมวมีอาการคัน 1. ปรสิตภายนอก ปรสิตภายนอก เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในแมว โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงในระบบเปิด ปรสิตที่ก่อโรคทางผิวหนัวในแมวคือ หมัด (Ctenocephalides felis) เมื่อหมัดกัดบนผิวหนังของแมว จะทำให้เกิดตุ่มผื่น อักเสบ และสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะแพ้น้ำลายหมัด (flea allergy dermatitis; FAD) ได้ ปรสิตที่พบได้บ่อยอีกหนึ่งชนิด คือ ไรขี้เรื้อนแห้ง(Notoedres cati) ทำให้แมวเกิดอาการคัน มีตุ่มแดง สะเก็ดปกคลุม โดยมักพบบริเวณใบหูส่วนปลาย ใบหน้า รอบตา […]

อ่านต่อ

แมวกัดกัน จนเป็นแผล และกลายเป็นหนอง

ปัจจุบัน หลายท่านเลี้ยงแมวในระบบปิดมากกว่าหนึ่งตัว และบางครั้งก็ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ แมวกัดกัน หรือทะเลาะกันจนต่างฝ่ายต่างก็มีบาดแผล ในฐานะเจ้าของเราควรทำอย่างไรเมื่อแมวกัดกันจนเกิดบาดแผล แมวกัดกัน เพราะอะไร แมวบ้านเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีพฤติกรรมอย่างหนึ่งคล้ายกับญาติที่เป็นแมวป่า คือ การสร้างอาณาเขต ดังนั้น เมื่อเราเลี้ยงแมวมากกว่าหนึ่งตัวภายในบ้านหลังเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพบเจอกับเหตุการณ์ แมวกัดกัน หรือทะเลาะข่วนกัน จนเกิดบาดแผล พฤติกรรมการหวงแหนอาณาเขตของแมว ทำให้เกิดการแบ่งพื้นที่ภายในบ้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะแมวที่เคยอยู่ตัวเดียวมาก่อน แล้วมีแมวตัวใหม่เพิ่มขึ้นภายหลัง แมวบางตัวจึงต้องการป้องกันอาณาเขตด้วยการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การขู่ กัด หรือข่วน เพื่อให้แมวอีกตัวออกไปจากพื้นที่ของตนเอง ในธรรมชาติ แมวป่าจะสร้างเขตแดนของตนเองด้วยการทิ้งกลิ่นไว้ เมื่อแมวตัวอื่นผ่านเข้ามา หรือได้กลิ่น ก็มักจะเลี่ยงออกไป และไม่พยายามเผชิญหน้ากัน แต่แมวบ้านที่อยู่ในระบบปิดอาจจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้ยากกว่าในธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อเกิดการเผชิญหน้ากัน การแสดงออกของพฤติกรรมการป้องกันอาณาเขตจึงเกิดขึ้น กลายเป็นสงครามย่อม ๆ ภายในบ้าน ผลที่ตามมาคือ แมวได้รับบาดแผลทางร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อจนแผลอักเสบ และกลายเป็นหนอง นอกจากนี้ ความเสี่ยงต่อการติดโรคร้ายแรงจะเพิ่มขึ้น ถ้าแมวของเราไปกัดกับแมวจรที่ไม่ได้รับวัคซีน อาจจะนำไปสู่การติดโรคเอดส์แมว และลิวคีเมีย โดยส่วนใหญ่ เมื่อแมวได้รับบาดเจ็บจากการถูกกัดหรือข่วน บาดแผลมักจะเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า ลำคอ บริเวณขา โคนหาง […]

อ่านต่อ

How to การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย

หนึ่งในเรื่องพื้นฐาน ที่พ่อแม่แมวมือใหม่ต้องฝึกฝนให้ลูกแมวทำให้ได้คือ การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย เพราะเป็นพัฒนาการที่สำคัญของแมวที่จะเติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี การขับถ่ายของลูกแมวในวัยแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ จะได้รับการกระตุ้นโดยแม่แมว จากนั้น เมื่อเริ่มขับถ่ายเองได้แล้ว พวกเขาจะเรียนรู้และจดจำจากแม่ และพี่น้องในครอกเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แมวบ้านในปัจจุบันได้เข้ามาอยู่ร่วมกับมนุษย์หลังจากหย่านมแล้ว ดังนั้น การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อย่างเรา หากลูกแมวไม่ได้รับการฝึกฝนให้ใช้กระบะทรายอย่างถูกต้องเหมาะสม อาจเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น การปัสสาวะ และขับถ่ายไม่เป็นที่ การอั้นปัสสาวะจนเกิดปัญหาสุขภาพ และการเกิดความเครียดสะสมในลูกแมว จนเกิดเป็นปัญหาด้านพฤติกรรม ดังนั้น พ่อแม่น้องแมวต้องคอยดูแลเรื่องการขับถ่ายของลูกแมวให้เป็นไปอย่างปกติ ขั้นตอนการฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย 1. การเตรียมกระบะทราย ควรเลือกใช้กระบะทรายที่ขอบเตี้ยเพื่อให้ลูกแมวสามารถก้าวเข้ากระบะได้ง่าย ขนาดความยาวของกระบะที่แนะนำคือมีความยาว 1.5 เท่าของความยาวตัวลูกแมว ซึ่งลูกแมวสามารถหมุนกลับตัวได้อย่างสะดวก และเมื่อลูกแมวโตขึ้นจะต้องเปลี่ยนขนาดกระบะให้เหมาะสม 2. ใส่ทรายแมวในกระบะให้มีความสูงที่เหมาะสม เมื่อได้ขนาดกระบะทรายที่เหมาะสมแล้ว ควรใส่ทรายลงไปในกระบะให้มีความสูงอย่างน้อย 3 – 4 เซนติเมตร จากก้นกระบะ ซึ่งเป็นความสูงที่เหมาะสมสำหรับอุ้งเท้าแมว ที่มีความไวต่อการสัมผัส และเหมาะกับพฤติกรรมการกลบอุจจาระ และปัสสาวะของตนเอง ในปัจจุบัน ในท้องตลอดมีทรายแมวหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความ้องการ […]

อ่านต่อ

แมวมีภาวะไขมันพอกตับ เหมือนในมนุษย์ ได้หรือไม่

เราอาจเคยได้ยินมาบ้าง เกี่ยวกับภาวะไขมันพอกตับในมนุษย์ แล้วในทางฝั่งลูกรักขนฟูของเรา แมวมีภาวะไขมันพอกตับ ได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ค่ะ! แมวมีภาวะไขมันพอกตับ ได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ ภาวะไขมันพอกตับในแมว หรือภาวะที่ตับสะสมไขมันสูงกว่าปกติ (Hepatic lipidosis) เป็นภาวะโรคตับที่พบได้บ่อยในแมว ทำให้เกิดภาวะดีซ่าน ตัวเหลือง ตับวาย และเสียชีวิตได้ โดยส่วนใหญ่ มักพบในแมวที่มีน้ำหนักเกิน หรือแมวอ้วน ที่มีอาการเบื่ออาหาร หรือไม่กินอาหารนานหลายวัน ซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการป่วยโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดความไม่อยากกินอาหาร สำหรับในแมวที่มีน่ำหนักตัวปกติ ก็สามารถเกิดภาวะไขมันพอกตับได้เช่นกัน สาเหตุของเกิดภาวะไขมันพอกตับในแมว โรคไขมันพอกตับในแมวเกิดจากสะสมเซลล์ไขมันจำนวนมากในตับ โดยเซลล์ตับจะถูกแทนที่ด้วยไตรกลีเซอร์ไรด์มากกว่าร้อยละ 50 ของน้ำหนักตับทั้งหมด ส่งผลให้การทำงานของเซลล์ตับลดล งและแสดงความรุนแรงของโรคขึ้นภายหลัง อีกหนึ่งสาเหตุเกิดในแมวที่มีภาวะอดอาหารจะทำให้เกิดการสลายเนื้อเยื่อไขมัน และเกิดไตรกลีเซอร์ไรด์สะสมแทรกในเนื้อตับ อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากโรคอ้วน (Obesity) เนื่องจากการกินอาหารที่มีระดับไขมันหรือโปรตีนสูงเป็นประจำเป็น ซึ่งอาจได้รับสารอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายทำให้ร่างกายมีพลังงานส่วนเกิน และเกิดการสะสมไตรกลีเซอร์ไรด์ในเนื้อตับ นอกจากนี้ เมื่อระดับไขมันในเลือดสูง จะส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวานตามมาอีกด้วย ส่วนปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้เกิดไขมันพอกตับ เช่น การได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดสารอาหาร โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory […]

อ่านต่อ

แมวท้องเสีย จากการติดเชื้อโปรโตซัว

แมวท้องเสีย เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพของแมวที่มักพบได้ค่อนข้างบ่อย และสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร วันนี้ เราจะมาทราบถึงอาการท้องเสียในแมว ที่เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวกันค่ะ แมวท้องเสีย จากการติดเชื้อโปรโตในทางเดินอาหาร หนึ่งในสาเหตุ แมวท้องเสีย ที่พบได้บ่อยคือ การติดเชื้อโปรโตซัว (Protozoa) หรือเชื้อบิด โปรโตซัวเป็นปรสิตชนิดหนึ่ง ที่ติดเข้าสู่ภายในร่างกายของแมว และอาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร บริเวณลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ เมื่อโปรโตซัวก่อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร จะก่อให้เกิดอาการความผิดปกด้านสุขภาพตามมา เช่น ถ่ายเหลว และอาเจียน เป็นต้น เชื้อโปรโตซัวสำคัญที่ก่อโรคในระบบทางเดินอาหารของแมวคือ เชื้อไกอาร์เดีย (Giardia) เชื้อทริโคโมแนส (Trichomonas) และเชื้อคอคซิเดีย (Coccidia) เป็นต้น เชื้อโปรโตซัวบางชนิดสามารถติดต่อสู่คนได้เช่น เชื้อไกอาร์เดีย (Giardia) ทำให้คนเกิดอาการท้องเสียได้เช่นกัน อาการความผิดปกติที่แสดงออกเมื่อมีอาการติดเชื้อ ในขณะที่ โปรโตซัวเข้าไปอาศัยอยู่ในผนังของลำไส้ของแมว เชื้อจะเจริญขึ้นโดยการแบ่งตัว และทำลายบริเวณผนังลำไส้ ทำให้เอนไซม์ชนิดต่าง ๆ ในลำไส้ทำงานผิดปกติ จากนั้นสส่งผลต่อเนื่องไปถึงเรื่องการย่อย และดูดซึมอาหาร แมวที่ติดเชื้อโปรโตซัว แมวจะเริ่มแสดงอาการความผิดปกติหลังจากได้รับเชื้อในช่วงประมาณ 3-10 วัน โดยจะถ่ายเหลว ท้องเสีย ลักษณะอุจจาระอาจมีสีเหลืองอ่อน มีมูกเลือดปน หรือมีไขมันปน […]

อ่านต่อ

หูแมว กับความผิดปกติที่พบได้บ่อย ๆ

หูแมว เป็นสัญลักษณ์ของความน่ารักในการสร้างคาแรกเตอร์แมวในการ์ตูน และภาพยนตร์หลายเรื่อง ส่วนในชีวิตจริง หูแมวก็เป็นอวัยวะสำคัญ ที่เหล่าทาต้องดูแลเป็นประจำ ส่วนต่าง ๆ ของ หูแมว หูแมว เป็นอวัยวะที่สำคัญมากกว่าการทำให้เราตกหลุมรักและหลงใหล ใบหูที่ตั้งอยู่เหนือกะโหลก ทำหน้าที่รับคลื่นเสียงที่เดินทางผ่านอากาศ และยังเป็นจุดสังเกตการแสดงออกทางพฤติกรรมบางประการ ถัดเข้าไปเป็น รูหู ซึ่งแบ่งเป็น หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน คล้ายกับในมนุษย์ โดยส่วนใหญ่แล้วความผิดปกติเกี่ยวกับหูมักเกิดขึ้นที่ใบหู และหูชั้นนอก เช่น มีอาการคันบริเวณใบหู มีไรหู และมีคราบสปกปรก เป็นต้น นอกจากนี้ โรคเกี่ยวกับหูของแมวยังพบได้อีกหลายโรค วันนี้ จะมาทราบไปพร้อม ๆ กันค่ะว่า โรคเกี่ยวกับหูที่พบได้บ่อยในแมว มีอะไรบ้าง ความผิดปกติเกี่ยวกับหูที่พบได้บ่อยในแมว 1. ความผิดปกติที่เกี่ยวของกับใบหู 2. ความผิดปกติที่เกี่ยวของกับรูหูชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน สัญญาณอาการที่บ่งว่าแมวมีปัญหาในช่องหู หากน้องแมวมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ให้สงสัยว่า อาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับช่องหู ควรพาไปตรวจเช็คกับสัตวแพทย์ เพื่อวินิฉัยหาสาเหตุ และวางแผนการดูแลรักษากันนะคะ บทความโดยสพ.ญ.ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมว […]

อ่านต่อ

ใช้แสงเลเซอร์เล่นกับแมว ได้หรือไม่ ?

เจ้าของแมวหลายท่านอาจจะเคย ใช้แสงเลเซอร์เล่นกับแมว เพื่อกระตุ้นให้แมววิ่งไล่ และพยายามจับแสงให้ได้ แต่ทราบหรือไม่ว่า การเล่นกับแมวด้วยแสงเลเซอร์อย่างผิดวิธี อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ใช้แสงเลเซอร์เล่นกับแมวต้องเข้าใจธรรมชาติของแมว โดยทั่วไป การเล่นของแมวมักเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการล่า ซึ่งประกอบไปด้วยชุดพฤติกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การเฝ้ามองเหยี่อ สะกดรอยตาม ไล่ล่า จับตะปบ และกินเหยี่อ เพราะฉะนั้น การเล่นกับแมวให้ตอบสนองความต้องการตามธรรมชาติ คือการเล่นที่ตอบสนองพฤติกรรมเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน แล้วการ ใช้แสงเลเซอร์เล่นกับแมว ล่ะ ตอบสนองพฤติกรรมการล่าของแมว หรือไม่ หากเรากลับมาพิจารณาลักษณะการใช้แสงเลเซอร์เล่นกับแมว จะพบว่า การเล่นกับแมวด้วยแสงเลเซอร์ สามารถกระตุ้นพฤติกรรมบางอย่างในกระบวนการล่าได้ คือ การจ้องเฝ้ามอง การสะกดรอยตาม การไล่ล่า ในขณะเดียวกัน อีกสองพฤติกรรมที่เหลือ คือการจับ และกินเหยื่อ จะไม่เกิดขึ้นในกรณีของการเล่นด้วยแสงเลเซอร์ ดังนั้น การใช้แสงเลเซอร์เล่นกับแมวจึงมีโอกาสที่จะทำให้แมวเกิดความสับสน โดยเฉพาะในแมวที่มีแนวโน้มเกิดความเครียดได้ง่าย เพราะไม่ว่าจะพยายามเท่าไรก็ไม่สามารถจับแสงลเซอร์ได้เลย นั่นหมายความว่า แมวไม่มีโอกาสแสดงพฤติกรรมการจับตะปบเหยื่อที่ประสบความสำเร็จ และไม่ได้มีพฤติกรรมการกินเหยื่อเกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นบ่อย ๆ ก็จะทำให้แมวเกิดความเครียดในระดับที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์ และอาจทำให้เกิดเป็นปัญหาทางด้านพฤติกรรมได้ด้วยเช่นกัน ถ้าอยากเล่นกับแมวด้วยแสงเลเซอร์ ต้องเล่นอย่างไร จากผลการศึกษาวิจัยที่ผ่านมา พบว่า […]

อ่านต่อ

แมวตาบอด เราจะสังเกตสัญญาณอันตรายนี้ได้อย่างไร

แมวตาบอด อาจเกิดขึ้นได้สองกรณี คือ การมองเห็นค่อย ๆ ลดลง หรือเกิดการตาบอดแบบเฉียบพลัน แต่โดยทั่วไปแล้ว การสังเกตความผิดปกติเกี่ยวกับสายตาของแมว อาจไม่ใช่เรื่อง่ายสำหรับเจ้าของเสมอไป แมวตาบอด หรือเริ่มส่งสัญญาณความผิดปกติเรื่องการมองเห็น สังเกตได้อย่างไร ตามธรรมชาติของแมว ประสาทสัมผัสในการรับเสียงและการรับกลิ่นของแมว ดีกว่าประสาทสัมผัสเรื่องการมองเห็น ดังนั้น ในช่วงแรก เมื่อแมวเริ่มมีความผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น เจ้าของจึงอาจสังเกตได้ยาก แต่เมื่อความรุนแรงของอาการรุนแรงจนไปถึงขั้น แมวตาบอด เจ้าของจึงสามารถพบความผิดปกติได้อย่างชัดเจน ส่วนในกรณีของแมวตาบอดเฉียบพลัน อาจแสดงอาการอย่างชัดเจนมากกว่า เช่น เดินชนสิ่งกีดขวาง หรือการเคลื่อนที่ผิดปกติ เมื่อเราพบว่า แมวกำลังสูญเสียการมองเห็น จึงควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อรักษาก่อนที่อาการจะรุนแรง สัญญาณความผิดปกติทางสายตาของแมว พฤติกรรมที่บ่งบอกว่าแมวกำลังสูญเสียการมองเห็น สาเหตุส่วนหใญ่ที่ทำให้แมวตาบอด 1. ภาวะความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงส่งผลทำให้เส้นเลือดบริเวณจอประสาทตาได้รับความเสียหาย จนเกิดเลือดออกบริเวณจอประสาทตา และเกิดอาการตาบอดเฉียบพลัน ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวอาจมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ เป็นต้น 2. โรคติดเชื้อที่ตา การติดเชื้อที่บริเวณเยื่อบุตา กระจกตา หรือบริเวณใบหน้า หากการติดเชื้อรุกรามมากขึ้น อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสูญเสียการมองเห็นในแมวได้ […]

อ่านต่อ

ภาษากายของแมว กำลังบอกอะไรกับเรา

ภาษากายของแมว เป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง ที่ใช้แสดงออกถึงสภาวะอารมณ์ของแมวในเวลานั้น การทำความเข้าใจภาษากายของแมว อาจทำให้เราอยู่ร่วมกับแมวได้อย่างราบรื่น และมีความสุข ท่าทางของแมว และ ภาษากายของแมว ก่อนจะรู้จัก ภาษากายของแมว อาจจะต้องย้อนไปทำความเข้าใจธรรมชาติของแมวกันก่อน แมวเป็นสัตว์ที่มักจะอาศัยอยู่เพียงลำพัง และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างสันโดษ ซึ่งแตกต่างจากพฤติกรรมของสุนัขที่ส่วนใหญ่อยู่รวมกันเป็นฝูง ดังนั้น แมวจึงมีรูปแบบการสื่อสารในสปีชีส์เดียวกัน และต่างสปีชีส์ อย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม แมวยังสามารถแสดงออกทางภาษากายบางอย่าง ที่สามารถสะท้อนถึงสภาวะอารมณ์ และความรู้สึกของแมว ในช่วงเวลานั้น ๆ ได้ เจ้าของจึงมีบทบาทในการทำความเข้าใจภาษากายของแมว เพื่อให้ทราบถึงความรู้สึกในช่วงเวลาต่าง ๆ และเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การอยู่ร่วมกันระหว่างเจ้าของกับแมวเป็นไปอย่างราบรื่น และลดแนวโน้มที่จะเกิดความขัดแข้งระหว่างคนกับแมวได้มากที่สุด วิธีสังเกตภาษากายของแมว ตามหลักการโดยทั่วไป จะสังเกตภาษากายของแมว ที่แสดงออกผ่านบริเวณใบหน้า ศรีษะ และลักษณะท่าทางโดยรวม โดยเฉพาะส่วนของใบหน้าและศรีษะ เป็นบริเวณที่สังเกตได้ง่ายที่สุด ในส่วนศรีษะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของใบหู ถ้าแมวกำลังรู้สึกผ่อนคลาย ใบหูจะตั้งตรง และอาจหมุนไปตามแหล่งกำเนิดเสียง โดยอาจจะหันใบหูแต่ละทางก็ได้ (A0B0 ในรูปที่ 1) ในทางตรงกันข้าม ถ้าแมวกำลังรู้สึกไม่ดี หรือมีอารมณ์เชิงลบ ใบหูจะลู่ลง (A0B1 และ A0B2) หรือใบหูกางออกทางด้านข้างทั้งสองข้าง […]

อ่านต่อ

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเรื้อรังในแมว

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเรื้อรังในแมว อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยก่อให้เกิดความรุนแรงในระดับที่รักษาได้ ไปจนถึงรักษาให้หายขาดไม่ได้ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเรื้อรังในแมว คืออะไร Chronic upper respiratory tract disease (URT) หรือ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเรื้อรังในแมว คือ ความผิดปกติที่เกี่ยวกับบริเวณโพรงจมูก และบริเวณโพรงจมูกที่เชื่อมไปถึงคอหอย โดยหนึ่งในโรคโรคที่พบได้บ่อยคือ โรคโพรงจมูกอักเสบเรื้อรังในแมว (Chronic rhinitis) ซึ่งมักพบอาการน้ำมูกไหลเรื้อรัง หรือเป็น ๆ หาย ๆ ส่วนใหญ่เกิดได้จากหลายหลายสาเหตุ และเป็นโรคที่ต้องใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน หรืออาจจะรักษาไม่หายขาด อาการของโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเรื้อรัง สาเหตุของโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเรื้อรังในแมว 1. การติดเชื้อไวรัส (Virus infection) การติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ เช่น การติดเชื้อ feline herpes virus (FHV) และ feline calicivirus (FCV) ซึ่งเป็นเชื้อในกลุ่มที่ก่อให้เกิดโรคหวัดแมว โดยเฉพาะการติดเชื้อในแมวเด็กและแมวโตเต็มวัย การติดเชื้อไวรัสเหล่านี้ในระยะเฉียบพลันทำให้เกิดการอักเสบของโพรงจมูก อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างถาวรของเยื่อบุโพรงจมูก และเกิดการอักเสบเรื้อรังตามมา ทั้งเนื้อเยื่อและกระดูก เมื่อโครงสร้างในโพรงจมูกเสียหาย ก็มักทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตามมา โดยการติดเชื้อไวรัส […]

อ่านต่อ