ลองนึกภาพลูกสุนัขตัวเล็กที่เราเคยอุ้มไว้บนตัก กำลังโตขึ้นจนถึงวันที่หัวใจและร่างกายของเขาพร้อมจะบอกว่า “ฉันกำลังจะเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ” แต่ สุนัขติดสัด ไม่ได้มีแค่ร่างกายที่พร้อม แต่เต็มไปด้วยแรงขับตามธรรมชาติที่คนเลี้ยงต้องเข้าใจและจัดการอย่างเหมาะสม
สุนัขไม่ได้ “โตเต็มวัย” แค่เพราะตัวใหญ่ขึ้น แต่เมื่อเขาเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ หรือ สุนัขติดสัด หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Heat (เพศเมียเริ่มเป็นประจำเดือน และเพศผู้เริ่มสนใจกลิ่นฮอร์โมน) ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรมที่เราต้องรับมืออย่างถูกต้อง
โดยทั่วไป
- เพศเมีย จะมีอาการ “เป็นสัด” (Heat) ครั้งแรกประมาณ 6–12 เดือน (พันธุ์เล็กอาจเร็วกว่านี้ พันธุ์ใหญ่หรือยักษ์อาจช้ากว่านี้)
- เพศผู้ มักเริ่มมีพฤติกรรมสนใจเพศตรงข้ามและแสดงอาณาเขตตั้งแต่อายุใกล้เคียงกัน
อาการสำคัญช่วง สุนัขติดสัด (Heat)
เพศเมีย
- มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด อวัยวะเพศบวม แดง
- เลียอวัยวะเพศบ่อย
- อาจหงุดหงิด ชอบอยู่เงียบ ๆ หรือกลับกัน บางตัวจะร่าเริง เรียกร้องเพศผู้
- ช่วงเป็นสัดเฉลี่ยนาน 2–3 สัปดาห์ (ช่วงไข่ตกหรือช่วงที่พร้อมผสมจริงมักอยู่ราววันที่ 9–14)
เพศผู้
- ได้กลิ่นเพศเมียที่กำลังเป็นสัดจากระยะไกลได้หลายกิโลเมตร
- หงุดหงิด กระวนกระวาย อาจหนีออกจากบ้าน
- ตะกุยประตู ปีนรั้ว หรือหอนเสียงดัง

วิธีจัดการกับอารมณ์ และพฤติกรรม สุนัขติดสัด — ไม่ใช่แค่กัก แต่ต้องเข้าใจ
1. เข้าใจธรรมชาติ = ลดความตื่นตระหนกของคน
- ช่วงนี้สุนัขไม่ได้ดื้อหรือก้าวร้าวเพราะนิสัยเสีย แต่เพราะฮอร์โมนเพศทำงานเต็มที่
- เพศผู้จะมีพลังงานล้น หงุดหงิดง่าย กระวนกระวาย และพยายามหาทางเข้าถึงเพศเมียให้ได้
- เพศเมียบางตัวจะเรียกร้องความสนใจเพศผู้ บางตัวกลับเก็บตัวไม่อยากให้ใครเข้าใกล้
- ถ้าเราเข้าใจ เราจะจัดการได้ด้วยความใจเย็นและไม่โทษสุนัขผิด ๆ
2. แยกพื้นที่ให้ชัดเจน ปลอดภัย
ถ้าเลี้ยงรวมเพศผู้–เพศเมีย
- แยกกรงหรือคอกให้แน่นหนา พื้นที่กั้นต้องมั่นใจว่าสุนัขไม่ปีน ไม่ลอด ไม่พังได้ง่าย ๆ
- ถ้าอยู่บ้านเดียวกัน ควรมีอย่างน้อย 2 ห้องหรือ 2 โซนแยก
- ใช้กรงพกพาหรือคอกพับช่วยเสริมความปลอดภัยเมื่อเจ้าของต้องออกไปทำงาน
ถ้าเพศผู้อยู่นอกบ้าน
- รั้วต้องสูงและแข็งแรงกว่าปกติ เพราะเพศผู้มีแรงจูงใจปีนหรือขุดหนีสูง
- ไม่ควรล่ามโซ่ค้างคืน เพราะอาจเสี่ยงเจ็บตัวและยิ่งเพิ่มความเครียด
3. ออกกำลังกายเพื่อลดพลังงานส่วนเกิน
ทำไมถึงสำคัญ เพราะช่วงนี้สุนัขพลังงานล้นจากฮอร์โมน ถ้าไม่ได้ระบายจะยิ่งกระวนกระวาย ทำลายข้าวของหรือทะเลาะกับสุนัขตัวอื่นได้ง่ายขึ้น
วิธีปฏิบัติ:
- พาออกกำลังกายในพื้นที่ปิด (เช่น ลานรั้วรอบ หรือเดินสายจูงตอนที่ไม่เจอสุนัขจรจัด)
- ให้เดินนานกว่าปกติ แต่ไม่หักโหม
- ใช้ของเล่นที่กระตุ้นสมอง เช่น ลูกบอลยางใส่อาหาร Puzzle Treat หรือลูกเห็บแขวนให้กัดเล่น

4. เสริมกิจกรรมสงบอารมณ์
ของขบเคี้ยวที่ปลอดภัย
- หนังวัวดิบแท่งใหญ่ กระดูกตามคำแนะนำสัตวแพทย์ หรือของเล่นยางกัด
- ช่วยให้สุนัขลดความเครียด คลายฟันฟัน ไม่ว้าวุ่น
ใช้กลิ่นธรรมชาติ
- บางบ้านใช้ผ้าห่มหรือผ้าที่คุ้นกลิ่นเจ้าของวางในกรง เพื่อลดความกังวล
- ใช้กลิ่น Essential oil เฉพาะที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์ (ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ)
ฝึกคำสั่งสงบ
- ลองให้ทำ Trick ง่าย ๆ เช่น Sit-Stay-Lie down หรือหา Treat จากมือ ฝึกให้โฟกัสสิ่งอื่นนอกจากกลิ่นเพศตรงข้าม
5. อย่าลงโทษด้วยอารมณ์
เจ้าของหลายคนอาจหงุดหงิดที่สุนัขเห่าหอน ข่วนประตู หรือปีนรั้ว
- อย่าตะโกนหรือตี เพราะจะทำให้สุนัขยิ่งเครียดและสะสมความก้าวร้าว
- ใช้วิธีเบี่ยงเบนพลังงาน ฝึกคำสั่ง และจัดสิ่งแวดล้อมให้ไม่กระตุ้น เช่น ถ้าตัวผู้เห็นตัวเมีย ควรกั้นให้มิดชิดกว่าเดิม
6. รู้ระยะเวลาที่ต้องจัดการ
เพศเมียจะมีระยะเป็นสัดเฉลี่ย 2–3 สัปดาห์
- ระยะไข่ตกมักราววัน 9–14 นับจากวันแรกที่มีเลือดออก
- เพศผู้อาจมีพฤติกรรมรุนแรงไปอีกหลายวัน แม้เพศเมียหมดสัดแล้ว เพราะกลิ่นยังคงหลงเหลือ
ถ้าไม่มีแผนผสมพันธุ์ แนะนำให้คุมเข้มจนมั่นใจว่าฮอร์โมนเริ่มนิ่ง แล้วค่อยคืนสู่ชีวิตปกติ
7. ทำความสะอาดพื้นที่
กลิ่นเลือดช่วงเป็นสัด เป็นตัวกระตุ้นเพศผู้ได้แรงมาก
- เช็ดถูพื้นด้วยน้ำยาที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง
- ล้างของเล่นหรือผ้าปูที่เปื้อนเลือดอย่างสม่ำเสมอ
- เพศเมียบางตัวต้องใส่กางเกงอนามัยสุนัขเพื่อป้องกันเลอะ แต่ควรถอดล้างและเปลี่ยนบ่อย ๆ

การเข้าหา และการอยู่กับสุนัขที่หงุดหงิดช่วงเป็นสัด
หลายคนอาจสงสัยว่า “ช่วงนี้เราควรเล่นกับเขาไหม?” หรือ “ถ้าเขาดูหงุดหงิด เราควรปล่อยไว้หรือปลอบ?” จริง ๆ แล้ว วิธีที่เราจะ “อยู่กับเขา” ให้สบายใจทั้งสองฝ่าย คือการอ่านอารมณ์ และปรับวิธีสัมผัสหรือดูแลให้เสุนัขะกับนิสัยและสัญญาณของแต่ละตัว
อ่านสัญญาณให้ดี
- สังเกตหาง หู ตา ถ้าสุนัขเก็บหาง หลบตา หรือหนี แปลว่าต้องการพื้นที่ส่วนตัว
- บางตัวไม่อยากให้จับท้องหรือสะโพก เพราะอวัยวะสืบพันธุ์บวม
ให้พื้นที่ส่วนตัว
- มีมุมสงบ กรง หรือคอกที่เขารู้สึกปลอดภัย
- ถ้าเพศเมียเซนซิทีฟมาก กั้นคอกให้เงียบสงบ ไม่ให้สุนัขตัวอื่นรบกวน
อยู่ด้วย แต่ไม่รุกล้ำ
- นั่งใกล้ ๆ อย่างสงบ รอให้เขาเข้ามาหาเอง
- ลูบหัวหรือลูบหลังเบา ๆ อย่าลูบท้องหรือก้น เพราะอาจกระตุ้นอารมณ์เพศ
น้ำเสียงและพลังงานสำคัญ
- ใช้น้ำเสียงนิ่ง นุ่ม ไม่สูงหรือตื่นเต้น
- ถ้าเขาหงุดหงิด ให้ถอนตัวออกมาเงียบ ๆ
ไม่บังคับให้เล่น
- บางตัวไม่อยากเล่นเหมือนปกติ ให้เปลี่ยนเป็นกิจกรรมสงบ เช่น นอนเฝ้าข้าง ๆ หรือให้กัดของเล่นแทน
ดูสุนัขตัวอื่นด้วย
- อย่าให้สุนัขตัวอื่นแหย่หรือรุมดมเพศเมียมากเกินไป
- ถ้าเพศผู้จะกัดกันเพราะแย่งเพศเมีย รีบแยกและกั้นด้วยอุปกรณ์ อย่าใช้มือเปล่า

สรุปข้อควรทำสั้น ๆ ในช่วง สุนัขติดสัด
- นิ่ง เข้าใจ ไม่รุกล้ำ
- ให้พื้นที่สงบ
- ใช้น้ำเสียงสงบ
- ลูบเฉพาะจุดที่สุนัขสบายใจ
- ฝึกให้อยู่สงบ
- แยกสุนัขตัวอื่นที่รบกวน
- ถ้าจำเป็น ใช้อุปกรณ์กั้นหรือกรงช่วย
- เพราะแค่คุณนิ่ง สุนัขก็อุ่นใจ
ช่วงนี้คือการทดสอบใจเจ้าของเหมือนกัน ว่าเราจะยังเป็น “พื้นที่ปลอดภัยให้เขา” ได้ไหม
แม้เขาจะงอแง หงุดหงิด หรือแสดงด้านที่เราไม่คุ้นชิน
เมื่อเราคงความสงบนิ่งได้ สุนัขจะค่อย ๆ ไว้ใจ ว่าไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร… เราจะอยู่ข้างเขาเสมอ
และเมื่อพ้นช่วงนี้ไป คุณจะเห็นว่า “ความรักที่เข้าใจ” แข็งแรงกว่าแค่การดูแลชั่วครู่มากนัก 🐾
การป้องกันการผสมพันธุ์ที่ไม่พร้อม (สำคัญที่สุด!)
ห้ามใช้ “ยาคุมกำเนิด” สำหรับสุนัขเด็ดขาด!
- ยาคุมของคนหรือยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับสุนัข อาจมีผลข้างเคียงรุนแรง เช่น มดลูกอักเสบ เนื้องอกเต้านม เสี่ยงถึงชีวิต
- ปัจจุบันสัตวแพทย์มืออาชีพไม่แนะนำเด็ดขาด
ทางเลือกที่ปลอดภัย
- แยกตัวผู้–ตัวเมียออกจากกันให้เด็ดขาด
- ใช้รั้ว กรง คอก หรือสายจูงช่วย
- ถ้าไม่ต้องการผสมพันธุ์ในอนาคต ให้พิจารณาทำหมันถาวรเมื่อร่างกายโตเต็มวัย และปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ
ช่วงเวลาผสมพันธุ์ที่เหมาะสม (สำหรับบ้านที่มีแผนบรีด)
- ไม่ควรผสมในช่วงเป็นสัดครั้งแรก หรือตอนสุนัขยังไม่โตเต็มวัย
- เพศเมียควรอายุ 18 เดือน ถึง 2 ปีขึ้นไป มีรอบสัดสม่ำเสมอ ร่างกายแข็งแรง
- ตรวจสุขภาพ หาโรคพันธุกรรม โรคติดต่อทางเพศ และปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง
บทสรุป — จัดการได้ ด้วยความเข้าใจและรับผิดชอบ
การเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ของสุนัข คือการบอกเราว่าเขากำลังโต แต่การเติบโตนี้ไม่ควรปล่อยไปตามยถากรรม เพราะเพียงความรู้และการจัดการที่ถูกต้อง เราจะช่วยให้พวกเขาผ่านช่วงอารมณ์พุ่งพล่านได้อย่างสงบ ลดโอกาสเกิดปัญหา และหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์ที่ไม่พร้อม
เมื่อคุณเข้าใจธรรมชาติและจัดการได้ด้วยใจที่สงบ คุณกำลังเป็นเจ้าของที่สุนัขไว้ใจได้อย่างแท้จริง
และเมื่อวันหนึ่งพวกเขามองคุณด้วยสายตาที่เชื่อมั่น…คุณจะรู้เลยว่า ความรักครั้งนี้ คือความรักที่เติบโตมาพร้อมกับความรับผิดชอบเสมอ 🐾
บทความโดย
คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – สุนัขตัวผู้มีฤดูผสมพันธุ์ หรือไม่ อย่างไร
