ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บ้านเราเป็นเมืองร้อนใคร ๆ ก็หนีอากาศร้อนไม่พ้น ในสภาพอากาศร้อนจัดแบบนี้ ไม่ได้มีแต่มนุษย์เราเท่านั้นที่รู้สึกร้อนจนทรมานสัตว์เลี้ยงตัวของเราก็รู้สึกร้อนได้ไม่ต่างกัน มาดู วิธีดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในหน้าร้อน กันค่ะ
1 พาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำทุกปี
วิธีดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในหน้าร้อน ที่มีโรคติดเชื้อหลายโรคที่มักพบการระบาด โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้า ด้วยการฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันที่ได้ผลดีที่สุด อย่าลืมตรวจเช็คประวัติวัคซีนให้เรียบร้อยว่า ได้พาสัตว์เลี้ยงไปทำการฉีดกระตุ้นวัคซีนให้ครบ และการตรวจสุขภาพทุกปี จะช่วยให้เรามั่นใจว่าสุขภาพของสัตว์เลี้ยงแข็งแรงดี และยังเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย หรือหากมีความผิดปกติในร่างกายสัตว์เลี้ยงก็จะทำให้รักษาได้ทันที
โปรแกรมวัคซีนในสุนัขและแมว ฉีดให้ครบถ้วนเพื่อสุขภาพที่ดี
2 ห้ามทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ตามลำพังในรถเด็ดขาด
แม้จะว่าแง้มกระจกไว้ก็อาจเสี่ยงถึงตายได้ ลานจอดรถบ้านเราถ้าไม่อยู่ในลานกลางแจ้งก็จะอยู่ใต้ตึกที่ไม่ค่อยมีอากาศระบายถ่ายเท มีผลการศึกษาหลายงานวิจัยที่ยืนยันว่า อุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าภายนอกรถ และการเปิดหน้าต่างทิ้งไว้นั้น ก็ไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิในรถ และในต่างประเทศ เช่น อเมริกา หรืออังกฤษ มีกฎหมายห้ามเจ้าของทิ้งสุนัขหรือแมวไว้ในรถ หากมีใครทำมีโทษถึงติดคุก
3 อย่ามองข้ามเรื่องความชื้นในอากาศ
ดร. แบร์รี่ เคลล็อกก์ (Dr. Barry Kellogg, VMD) ของสมาคมพิทักษ์สัตว์ “Humane Society Veterinary Medical Association” กล่าวว่า “สิ่งสําคัญคือต้องจําไว้ว่า ไม่ใช่แค่อุณหภูมิโดยรอบเท่านั้นที่สำคัญ แต่ความชื้นในอากาศก็ส่งผลต่อสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน หากอากาศอบอ้าวและความชื้นในอากาศสูง เกินไปจะทำให้สัตว์เครียดและไม่สามารถเอาความร้อนในร่างกายออกจากปอดได้ เมื่อร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ได้จะส่งผลให้อุณหภูมิภายในร่างกายพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง โดยอุณหภูมิร่างกายปกติของหมาจะอยู่ที่ 37.5-39.2 องศาเซลเซียส(99.5-102.5 องศาฟาเรนไฮด์) หากหมามีสูงเกินกว่านี้ให้ระวังเกิด ภาวะฮีทสโตรก
4 พยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในวันที่อากาศร้อน
ในวันที่อากาศร้อนจัดให้จำกัดการออกกำลังกายให้เป็นเวลาเลือกเวลาใด้เวลาหนึ่งเช้าหรือเย็น ในช่วงที่ให้สัตว์ออกกำลังกายต้องดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด ปรับลดระยะเวลาของการออกกำลังกายตามอุณหภูมิ และระมัดระวังเป็นพิเศษกับสัตว์เลี้ยงที่มีผิวหนังสีขาว ซึ่งมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่ายกว่า และสัตว์เลี้ยงที่มีจมูกสั้นมักจะมีอาการหายใจลำบาก อุ้งเท้าเป็นบริเวณที่เปราะบางมาก ๆ และเป็นบริเวณที่ร่างกายน้องหมาใช้ระบายความร้อนอย่าให้สัตว์เดินบนพื้นปูนร้อน ๆ หรือบนยางมะตอยร้อนจัด เพราะ อาจจะไหม้อุ้งเท้าของสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้น ควรพาสุนัขไปเดินเล่นบนพื้นสนามหญ้า และไม่ลืมที่จะพกน้ำติดตัวไว้เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขขาดน้ำ
5 อย่าเปิดพัดลมจ่อสัตว์เลี้ยงในเวลาที่อากาศร้อนจัด
ควรหลีกเลี่ยงการเปิดพัดลมจ่อมาที่ใบหน้าหรือตัวน้องหมาตรง ๆ เพราะว่า หมาแมวไม่มีต่อมเหงื่อแบบคน หมาแมวจะระบายความร้อนโดยการหอบเอาความร้อนออกจากปอด การเปิดพัดลมจ่อตัวสัตว์ก็เหมือนการเป่าลมในเตาอบ ยิ่งเป่าก็ยิ่งร้อน ยิ่งทำให้ได้ร่างกายสัตว์ได้รับความร้อนเพิ่มมากขึ้น หากเปิดพัดลมให้เปิดส่าย เพื่อให้พัดลมกระจายความร้อนที่อยู่ในห้องออกไป ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
6 หาที่พักใต้ร่มไม้ และเตรียมน้ำสะอาดให้เพียงพอ
ในช่วงหน้าร้อนทุกครั้งที่พาหมาออกไปข้างนอก หาที่พักที่มีหลังคาหรือร่มไม้กำบังเเสงเเดด ที่ที่อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก ช่วงอากาศร้อนหมาจะมีความต้องการน้ำมากกว่าปกติ ควรเตรียมน้ำสะอาดให้เพียงพอ หรือถ้าอากาศร้อนมาก ๆ ให้ใส่น้ำแข็งในน้ำและควรหมั่นสังเกตถ้วยน้ำอย่าให้น้ำหมด และควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้น้องหมาท้องร่วง
7 หากพาหมาไปว่ายน้ำ อย่าปล่อยให้หมาอยู่ในสระว่ายน้ำโดยไม่มีใครดูแล
อีกวิธีที่ช่วยน้องหมาคลายร้อน คือ การพาไปว่ายน้ำเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดฮิตของเหล่าคนรักหมาในตอนนี้ การพาไปว่ายน้ำนอกจากจะช่วยคลายร้อนแล้วยังเป็นการออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างให้กล้ามเนื้อทุก ๆ ส่วนแข็งแรง การว่ายน้ำทุกครั้งต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าของหรือครูฝึก เมื่อน้องหมาเริ่มเหนื่อย หอบ ควรให้น้องหมาพัก ไม่ฝืน หรือยื้อให้น้องหมาว่ายน้ำนาน ๆ แค่เพียง 20-30 นาทีพอแล้ว อย่าลืมเช็คให้ใส่เสื้อชูชีพให้น้องหมาทุกครั้งก่อนลงสระ ไม่ว่าจะเป็น น้องหมาสายพันธุ์เล็กหรือสายพันธุ์ใหญ่ ห้ามให้หมากินน้ำจากสระ และเมื่อว่ายน้ำเสร็จอย่าลืมล้างน้ำคลอลีนออกจากตัวหมา เพื่อเป็นการป้องกันหมาเลียเอาน้ำคลอรีนและสารเคมีอื่น ๆ เข้าไป
8 คอยสังเกตอาการ และศึกษาอาการของโรคฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยงไว้
ฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดดในสัตว์เลี้ยง เป็นโรคที่พบได้มากสุดในช่วงหน้าร้อน โรคนี้อาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้หากเจ้าของไม่ทันสังเกตอาการ สัตว์เลี้ยงกลุ่มเสี่ยงโรคนี้ ได้แก่ กลุ่มที่เป็นโรคอ้วน หรือ กลุ่มสูงอายุ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัวมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ กลุ่มสุนัขพันธุ์หน้าสั้น กลุ่มสุนัขขนหนาหรือขนยาว จะพบได้มากกว่าในกลุ่มสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่ขนยาวมากกว่าพวกสายพันธุ์ขนสั้น และสายพันธุ์ที่มีโครงหน้าสั้น เช่น บูลด็อก หรือปั๊ก และในแมวพันธุ์เปอร์เซีย Exsotic นอกจากสุนัขและแมวแล้ว สัตว์อื่น ๆ ก็เป็นโรคนี้ได้เช่นกัน เช่น หนู กระต่าย โรคฮีทสโตรกเป็นภาวะที่ร่างกายของสัตว์สูญเสียความสามารถในการระบายความร้อนออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายของสัตว์เลี้ยงไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลกระทบให้การทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ เสียหาย ตัวร้อนจัด หากวัดอุณหภูมิจะมีอุณหภูมิมากกว่า 40 องศา ทั้งนี้การวัดอุณหภูมิในสัตว์เลี้ยงให้วัดจากทวาร สัตว์เลี้ยงมีอาการหอบ หายใจไม่ทัน อ้าปากหายใจรุนแรงกว่าปกติ สังเกตที่ลิ้นและเหงือกจะพบว่ามีสีแดงจัด แต่ถ้าอาการรุนแรงลิ้นและเหงือกอาจจะมีสีซีด หากมีอาการฮีทสโตรกรุนแรง สัตว์เลี้ยงจะมีอาการอ่อนเพลีย ซึม น้ำลายยืด ในบางรายอาจจะมีอาการเบลอ จำเจ้าของไม่ได้ หรือดุร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และอาจจะล้มลงนอน ชัก หรืออาจหมดสติไป อาการเหล่านี้หากทิ้งไว้นานไม่รีบรักษาอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต
9 เตรียมตัว เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
เช่น หากเกิดไฟฟ้าดับ เตรียมแผ่นรองนอน Cooling Pad ไว้ แผ่นเจลที่ช่วยระบายความร้อนจากตัวน้องหมา หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาปูบนพื้นหรือที่นอนของน้องหมา เพื่อช่วยระบายความร้อน
วิธีดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในหน้าร้อน เหล่านี้ จะช่วยคลายร้อนและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนได้ค่ะ
ที่มา : humanesociety.org