สุนัขดมก้น — ภาษาทักทายที่คนไม่เข้าใจ ควรห้ามหรือควรปล่อย?

ลองนึกถึงภาพเวลาคุณพาสุนัขของตัวเองออกไปเดินเล่น แล้วบังเอิญเจอกับสุนัขอีกตัวเดินผ่านมา ทั้งสองเริ่มชะลอฝีเท้า สบตากันสั้น ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับเข้าหากัน…แล้วจู่ ๆ สุนัขดมก้น กันอย่างจริงจัง

หลายคนที่เห็นภาพแบบนี้เป็นครั้งแรกอาจสะดุ้งใจ บางคนรีบดึงสายจูง บางคนห้ามเสียงแข็ง

เพราะรู้สึกเขิน … หรือกลัวโดนคนข้าง ๆ มองว่า “สุนัขฉันเสียมารยาท”… หรือแค่ไม่แน่ใจว่า “แบบนี้ปล่อยได้ไหม?”

แต่ในโลกของสุนัข…พฤติกรรมแบบนี้คือ “การทักทาย” ที่ลึกซึ้งกว่าการเห่าหรือกระดิกหางเสียอีก

มันคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลตัวตนโดยไม่ต้องพูดสักคำเดียว และในหลายกรณี มันคือ “การทำความรู้จัก” ที่จริงใจและปลอดภัยกว่าการ จ้องหน้ากันตรง ๆ ด้วยซ้ำ

ทำไม สุนัขดมก้น กันเอง

  • ที่บริเวณรอบรูทวารของสุนัขมี ต่อมกลิ่น (anal gland) ซึ่งหลั่งกลิ่นเฉพาะตัวออกมา

กลิ่นนี้เปรียบเหมือน “บัตรประชาชน” ที่บอกข้อมูลทั้งเพศ อายุ สุขภาพ อารมณ์ หรือแม้แต่สถานะฮีทของเพศเมีย

  • การดมก้นจึงเป็นวิธีรู้จักกันที่ ปลอดภัยและได้ข้อมูลมากกว่าการสบตา หรือวิ่งเข้าหากันทันที
  • มันคือ ภาษาสังคมของสุนัข — สุภาพ ซื่อสัตย์ และแม่นยำอย่างเงียบ ๆ

แล้วเจ้าของควรปล่อยให้ดมไหม?

คำตอบไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับ “จังหวะ” และ “ภาษากาย” ของสุนัขทั้งคู่ เจ้าของที่ดีไม่ใช่แค่คนที่รู้ว่าจะห้ามเมื่อไร แต่คือคนที่ อ่านสถานการณ์ได้ทัน ว่าเมื่อไรควรปล่อย และเมื่อไรควรแทรก

และบางครั้ง…สิ่งที่เราคิดว่า “ปล่อยให้เล่นกัน” อาจกลายเป็นความกดดันเงียบ ๆ หรือสิ่งที่เราคิดว่า “เขาไม่ว่าอะไรหรอก” อาจเป็นจุดเริ่มของการระเบิดที่เราคาดไม่ถึงก็ได้

คุณเคยถามตัวเองไหมว่า “ฉันมองเห็นสุนัขของฉันจริง ๆ หรือแค่เห็นว่าเขาเงียบ?”

เมื่อไหร่ที่ควรปล่อยให้ดมกันอย่างธรรมชาติ?

  • ถ้าสุนัขทั้งสองมีท่าทีสงบ ตัวไม่เกร็ง หางอยู่ในระดับกลาง หรือแกว่งช้า ๆ
  • ไม่มีเสียงคำราม หรือการเบี่ยงตัวหนี
  • เดินเข้าใกล้กันช้า ๆ แล้วดมกันในช่วงเวลาสั้น ๆ แล้วแยก
  • ไม่มีแรงไล่ ไม่มีแรงเบียด และไม่มีการพุ่งแบบรวดเร็ว
  • เจ้าของทั้งสองฝ่ายนิ่ง คุมสถานการณ์ได้ ไม่ส่งพลังเครียดหรือเร่งเร้า

ภาษากายของสุนัข ที่เจ้าของควรสังเกต

  • หางต่ำ แกว่งช้า ๆ เป็นวงกว้าง หมายถึง สงบ อยากรู้จัก
  • ตัวหย่อนเล็กน้อย หูเอียง ดมแล้วถอย หมายถึง สำรวจแบบสุภาพ
  • หางตั้ง ตึง ค้าง หมายถึง ตื่นตัว หรือระแวง
  • ตัวแข็ง หน้าตึง หูตั้งตรง หมายถึง พร้อมสู้ หรือไม่สบายใจ
  • จ้องตาไม่กระพริบ หมายถึง ท้าทายหรือเตรียมปะทะ
  • เลียปากตัวเองเร็ว ๆ หมายถึง ขอหยุด ขอให้เบา ๆ หน่อย

เมื่อไหร่ที่ควรเบี่ยงเบนอย่างสุภาพและมั่นคง?

  • สุนัขตัวใดตัวหนึ่งเริ่มแสดงอาการหวาดกลัว ตัวแข็ง หางจุก หรือถอยหนี
  • มีเสียงคำรามต่ำ หรือหันกลับงับ
  • สุนัขพยายามดมหนักเกินไป หรือวนรอบซ้ำ ๆ จนอีกตัวเริ่มอึดอัด
  • พื้นที่คับแคบ คนเยอะ ไม่มีทางหนี หรือสุนัขอยู่ในอารมณ์ไม่มั่นคง
  • สุนัขป่วย เพิ่งผ่าตัด อยู่ในช่วงฮอร์โมนแกว่ง หรือกำลังอ่อนแอ

ถ้าเป็นลูกสุนัขหรือสุนัขต่างขนาดล่ะ?

  • สุนัขที่เด็กมากยังไม่มีทักษะอ่านภาษาสุนัข จึงอาจตีความผิดและโดนสอนแรง
  • สุนัขต่างขนาดอาจดู “นิ่ง” แต่แรงกายต่างกันมาก เช่น สุนัขพันธุ์เล็กโดนดมหรือเบียดแรง ๆ จะตกใจหรือกลัวได้
  • เจ้าของควรช่วยสร้างระยะห่างที่ปลอดภัย และอย่ารีบปล่อยให้เจอกันเร็วเกินไป

คุณเคยให้เวลาสุนัขของคุณได้เรียนรู้เพื่อนใหม่…ในจังหวะของเขาเองไหม?

สถานการณ์ที่เจ้าของมักเข้าใจผิดบ่อย

1. คิดว่าถ้าสุนัขวิ่งตามกัน หรือดมก้นกันซ้ำ ๆ แล้วแยก คือเล่นสนุกเสมอ

ความจริง:

บางครั้งการไล่ ไม่ได้แปลว่าเล่น ถ้าอีกตัวหางจุก ตัวแข็ง ไม่หันกลับมาไล่ตอบเลย อาจแปลว่า “เขากำลังถอยหนี”

วิธีเบี่ยงเบน:

เรียกชื่อสุนัขทันทีด้วยเสียงนิ่ง ถ้าไม่ตอบสนอง เดินเข้าไปคั่นกลางด้วยร่างกาย ใช้ขนมหรือของเล่นดึงความสนใจ แล้วพาเดินแยกออกมาสองสามก้าวเพื่อเปลี่ยนจังหวะอารมณ์

ลองสังเกตครั้งหน้า…สุนัขของคุณ “ไล่” หรือ “ไล่ต้อน”?

2. เห็นสุนัขดมหางกันสั้น ๆ แล้วคิดว่าไม่เป็นไร ทั้งที่อีกฝ่ายเริ่มเลียปาก เบี่ยงตัว หรือแสดงสัญญาณว่า “ไม่โอเค”

ความจริง:

สุนัขหลายตัว “ทน” เงียบ ๆ และยังไม่ระเบิดทันที แต่หากสุนัขดมหนักหรือดมบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ความอดทนอาจหมดในเสี้ยววินาที

วิธีเบี่ยงเบน:

เรียกสุนัขของเราให้ออกมาจากการถูกดม (โดยเฉพาะถ้าเขาคือฝ่ายถูกกระทำ) ใช้การเดินเข้าไปเบี่ยงตัวเองระหว่างสองตัวอย่างนุ่มนวล อย่าดุหรือออกคำสั่งเสียงดัง ให้ใช้ขนมหรือเสียงเบา ๆ เพื่อชวนออกมาอย่างมีเกียรติ

คุณเคยเห็นสุนัขเลียปากเร็ว ๆ หลายครั้งไหม? เขาอาจกำลังขอให้เราช่วยอยู่เงียบ ๆ ก็ได้

3. เชียร์ให้สุนัขเข้าไปเล่นหรือดมหากัน ทั้งที่พื้นที่รอบข้างอึดอัด ไม่มีทางหนี

ความจริง:

การอยู่ในมุมอับโดยไม่มีทางออก ทำให้สุนัขบางตัวรู้สึก “โดนกด” โดยเฉพาะถ้ามีคนล้อม สายจูงตึง หรือสุนัขอีกตัวพลังเยอะ

วิธีเบี่ยงเบน:

เปลี่ยนตำแหน่งสุนัขให้อยู่นอกมุมตัน อย่าเชียร์ให้เข้าใกล้กัน ถ้าสภาพแวดล้อมยังไม่เอื้อ เดินพาออกห่างพร้อมรอยยิ้ม พูดคุยเบา ๆ แล้วค่อยให้เขาเจอกันใหม่ในพื้นที่เปิด

เคยสังเกตไหมว่า เวลาคุณยิ้ม ผ่อนคลาย…สุนัขของคุณก็หายเกร็งไปเอง?

สิ่งที่เจ้าของไม่ควรทำ

  • ห้ามด้วยเสียงสูง หรือดึงสายจูงแรงเมื่อเห็นสุนัขดมก้นกันแบบสงบ
  • คิดว่า “ไม่กัดก็แปลว่าโอเค” ทั้งที่อีกฝ่ายแสดงภาษากายชัดว่ากำลังอึดอัด
  • เชียร์ให้สุนัขเข้าไปเล่นเร็วเกินไป โดยไม่ให้เวลาเขาอ่านกันก่อน
  • มองข้ามสัญญาณเล็ก ๆ อย่างการเลียปาก หยุดหาง หรือเบี่ยงตัว

บทสรุป

ภาษาของสุนัขไม่ใช่สิ่งที่เราควรแปลให้เป็นภาษาคนเสมอ แต่ควรเรียนรู้ที่จะ ฟัง…แม้ไม่มีเสียง

ควรเรียนรู้ที่จะเห็น แม้ไม่มีปฏิกิริยา และควรเรียนรู้ที่จะเข้าใจ แม้เขาจะยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือ

สุนัขที่กล้าเดินเข้าไปดมก้นใคร แปลว่าเขากำลังเปิดใจ และเจ้าของที่เข้าใจภาษานั้น คือคนที่พาสุนัขเข้าสังคมได้อย่างสง่างามและปลอดภัย

ดังนั้น คำถามที่ว่า

“สุนัขดมก้น ควรห้ามหรือควรปล่อย?” จึงไม่ใช่คำถามที่ต้องตอบว่า “ได้” หรือ “ไม่ได้”

แต่อยู่ที่ว่า … คุณเข้าใจลูกสุนัขของคุณพอจะรู้ไหมว่า ตอนนี้เขาอยากรู้จักใคร หรืออยากให้เราช่วยพาเขาออกมา

เรื่องโดย : คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – ต่อมเหม็นของสุนัข – เรื่องที่หลายคนยังเข้าใจผิด