“สุนัขดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” โดยทีมวิจัยจุฬาฯ

สำเร็จแล้ว! ทีมวิจัยจุฬาฯ เผยผลงานวิจัย “สุนัขดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” ได้ผลถูกต้องแม่นยำ สำเร็จเป็นที่แรกในประเทศไทย พร้อมประจำการท่าอากาศยาน เสริมปฏิบัติการคัดกรอง

การวิจัยดังกล่าวเป็นการนำศักยภาพของสุนัขที่มีความสามารถในการดมกลิ่นดีกว่าคนถึง 50 เท่ามาใช้ในงานวิจัย โดยจะซับเหงื่อบริเวณใต้รักแร้ด้วยสำลีและถุงเท้า เก็บไว้ในห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ แล้วนำสำลีและถุงเท้าดังกล่าวมาใส่กระป๋องเพื่อให้สุนัขดมกลิ่น เมื่อสุนัขได้กลิ่นก็จะนั่งลงทันที เพื่อบอกว่าคน ๆ นี้ติดเชื้อแม้จะไม่แสดงอาการ

โดยคณะวิจัยได้นำสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ทั้ง 6 ตัว ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีโพรงจมูกยาว มีประสาทสัมผัสรับรู้กลิ่นที่ไวและดี อุปนิสัยเป็นมิตรและฝึกง่าย ซึ่งจากการทดสอบสุนัขฝูงนี้มีความแม่นยำในการพบผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการสูงถึง 94.8% เทียบเคียงกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการวิจัยใช้สุนัขตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ อาทิ ฟินแลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย โครงการนี้นับเป็นต้นแบบในการฝึกสุนัขเพื่องานทางการแพทย์ชุดแรกของประเทศไทย ในอนาคตจะมีการต่อยอดฝึกสุนัขเพื่อตรวจโรคอื่น ๆ เช่นโรคเบาหวาน ซึมเศร้า มาลาเรีย และโรคอัลไซเมอร์ ฯลฯ

ซึ่งที่มาของโครงการวิจัย “การใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” นี้มาจากเหตุว่า การตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยอุปกรณ์วัดอุณหภูมิแบบต่าง ๆ เป็นวิธีการคัดกรองเบื้องต้นและได้ผลสำหรับผู้ที่ติดเชื้อและแสดงอาการแล้วเท่านั้น ส่วนผู้ที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ เครื่องมือเหล่านี้ยังไม่สามารถตรวจพบได้ แต่สุนัขที่ได้รับการฝึกมาแล้วสามารถทำสิ่งนี้ได้ โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด

งานวิจัยชิ้นนี้ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน แบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกใช้เวลา 2 เดือน เป็นการทดสอบความสามารถและฝึกสุนัขในการแยกแยะกลิ่นผู้ติดเชื้อได้อย่างแม่นยำ ว่องไว และแน่นอน โดยมีกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และบริษัท พี คิว เอ แอสโซซิเอท จำกัด ร่วมสนับสนุนการเตรียมตัวและฝึกสุนัข
ถัดมาคือการทดลองปฏิบัติจริงที่สนามบิน ท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และฝึกสุนัขให้ดมกลิ่นจากเท้าของคน ส่วนในระยะที่สาม เป็นการวิจัยต่อยอดเครื่องมือคัดกรองรูปแบบใหม่ เช่น เซ็นเซอร์เพื่อบ่งชี้ผู้เข้าข่ายติดเชื้อ และพร้อมประจำการท่าอากาศยาน เสริมปฏิบัติการคัดกรองปกติ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.chula.ac.th/news/44526/
เรียบเรียง : ลีฬภัทร กสานติกุล