อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย — สุนัขที่คนเข้าใจผิดมากที่สุดในโลก

ลองนึกถึงใครสักคนที่มีโครงสร้าง แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพลัง แต่มีหัวใจอ่อนโยน ชอบเล่นกับเด็ก และซื่อสัตย์กับคนที่ไว้ใจ แต่เพราะโครงสร้างภายนอกเขาจึงมักถูกมองว่า “น่ากลัว” และ “อันตราย” ไปก่อนเสมอ นั่นคือชีวิตของ อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier) สุนัขที่ไม่ได้ขอให้เกิดมาดุ แต่คนต่างหากที่ “เลือกเลี้ยงเขาให้ดุ”

อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย (American Pit Bull Terrie) สุนัขนักสู้ในอดีต ที่ต้องการ “เจ้าของนักวางแผน” มากกว่า “เจ้าของนักโชว์พลัง”

ประวัติความเป็นมาของ อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย — จากสนามสู้…สู่บทบาทที่ต้องมีคนเข้าใจ

American Pit Bull Terrier ไม่ใช่สุนัขที่เกิดมาเพื่อกัด และก็ไม่ใช่สุนัขที่เกิดมาเพื่อทุกคน ต้นสายเลือดของเขาย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 19 ในประเทศอังกฤษ

ช่วงเวลานั้น กีฬาโหดร้ายอย่าง bull baiting และ dog fighting ได้รับความนิยม ผู้คนจึงเริ่มผสมพันธุ์ระหว่าง Old English Bulldog (ที่แข็งแรงและอดทน) กับ Terrier สายพันธุ์ต่าง ๆ (ที่ว่องไวและดุดัน) เพื่อให้ได้สุนัขที่ “กล้าสู้ ไม่ถอย และทนเจ็บ” ตามความต้องการของคนในยุคนั้น

อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย, สุนัขสายพันธุ์, พิตบูล,

ในสนามสู้ พวกเขาไม่เคยหันหลังให้คู่ต่อสู้ แต่ทั้งหมดนี้…เป็นการกระทำของมนุษย์ ไม่ใช่เจตจำนงของสุนัขเอง

เมื่อรัฐบาลอังกฤษประกาศห้ามกีฬาเหล่านี้ในปี 1835 หมา “Bull and Terrier” กลุ่มนี้จึงค่อย ๆ หายไปจากเวที แต่ก็มีหลายครอบครัวที่พาสุนัขสายพันธุ์นี้อพยพไปยัง อเมริกา

ที่ดินแดนใหม่ พวกเขาไม่ได้ถูกใช้เพื่อสู้ แต่กลับกลายเป็นสุนัขทำงานในฟาร์ม คอยเฝ้าทรัพย์สิน ล่าสัตว์ หรือจัดการวัวดื้อ วัวหลุด และที่สำคัญที่สุดคือ การเริ่ม “ฝึก” ให้ทำตามคำสั่งของคนอย่างจริงจัง

ที่อเมริกา สุนัขกลุ่มนี้ถูกพัฒนาสายพันธุ์อย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่ลักษณะนิสัย รูปร่าง และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน จนกระทั่งในปี 1898 สมาคม United Kennel Club (UKC) ได้รับรองพวกเขาในชื่อใหม่ว่า American Pit Bull Terrier

โดยคำว่า:
“Pit” มาจากสนามต่อสู้ในอดีต (pit fighting) ที่บ่งบอกอดีตของสายพันธุ์
“Bull” มาจากสายเลือด Bulldog
“Terrier” คือความว่องไวและเด็ดเดี่ยวของฝั่งเทอร์เรียร์
และ “American” คือการยืนยันว่า “อเมริกา” คือดินแดนที่ทำให้สุนัขกลุ่มนี้กลายเป็นพันธุ์แท้ในที่สุด

“พวกเขาไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อโจมตีมนุษย์ แต่ถูกฝึกให้ทำตามที่คนสั่ง และ “หยุด” ได้ทันที ถ้าคนที่ฝึกเขามาดีพอ”

Pit Bull ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงเพื่อโชว์ความกล้า แต่คือสุนัขที่ต้องการเจ้าของที่กล้ารับผิดชอบต่อทุกการกระทำของเขาอย่างแท้จริง

อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย, สุนัขสายพันธุ์, พิตบูล,

มาตรฐานสายพันธุ์ — กล้ามแน่น แต่น้ำหนักใจ…ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม

  • ความสูง: 43–53 ซม.
  • น้ำหนัก: 14–27 กก. (ขึ้นกับโครงสร้าง)
  • ขน: สั้น แน่น ดูแลง่าย
  • สี: ได้ทุกสี ยกเว้น Merle (เมิร์ล)
  • หัว: กว้าง หน้าสั้นเล็กน้อย ขากรรไกรแข็งแรงมาก
  • ลำตัว: กล้ามเนื้อชัดเจน เป็นทรงทรงพลังแต่ไม่เทอะทะ

เหมือนนักมวยระดับแชมป์ที่พร้อมวิ่งมาราธอน — ทั้งอึด ทั้งเร็ว ทั้งแกร่ง แต่ทั้งหมดนี้ “ต้องอยู่ในมือคนที่ฝึกควบคุมได้เท่านั้น” ไม่เช่นนั้นพลังนี้อาจย้อนกลับมาทำร้ายเขาเองหรือคนรอบข้าง

นิสัย — ซื่อสัตย์… แต่ต้องการกรอบที่มั่นคงมากกว่าความรักอย่างเดียว

American Pit Bull Terrier เป็นสุนัขที่ จงรักภักดีต่อเจ้าของมาก แต่
ความรักของเขาไม่เพียงพอ หากเจ้าของไม่มีวินัยหรือไม่สามารถเป็นผู้นำได้อย่างแท้จริง

ขี้เล่นกับคนที่เขาไว้ใจ แต่ไม่ใช่สุนัขที่เหมาะกับทุกบ้าน
อ่อนไหวกับพลังอารมณ์ของคนเลี้ยง ถ้าคุณไม่นิ่ง เขาก็จะไม่นิ่ง
มี drive (แรงขับ) สูงมาก ต้องการระบายพลังอย่างต่อเนื่อง
ฉลาด และพร้อม “ท้าทาย” หากเจ้าของไม่ชัดเจน
เป็นมิตรกับคนได้ แต่ต้อง “เข้าสังคมอย่างมีแผน”
ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับสุนัขอื่นโดยไม่มีการคุม เพราะเขา “มีความมั่นใจในตัวเองสูง”

“สุนัขพันธุ์นี้ “ไม่ได้อ้อน” แบบที่บางคนเข้าใจ และ “ไม่เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงด้วยความเอ็นดูอย่างเดียว”
ถ้าคุณไม่มีกรอบชัดเจน ไม่ตั้งกฎตั้งแต่วันแรก…Pit Bull จะสร้างกฎขึ้นมาเอง

โรคประจำสายพันธุ์ — แข็งแรง แต่ไม่ใช่สุนัขเหล็ก

  1. โรคผิวหนังจากภูมิแพ้ (Allergic Dermatitis)
  2. สะโพกเคลื่อน (Hip Dysplasia)
  3. ภาวะไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism)
  4. Demodectic Mange (ไรขี้เรื้อนจากพันธุกรรม)
  5. โรคหัวใจบางชนิด เช่น Aortic Stenosis

แม้จะดูแข็งแรง แต่เขาต้องการการดูแลสุขภาพที่ต่อเนื่อง และต้องไม่ถูกมองว่า “ไม่ต้องดูแลก็อยู่ได้” เพราะความแข็งแรงของเขาไม่ใช่เกราะป้องกันความละเลย

อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย, สุนัขสายพันธุ์, พิตบูล,

สถานที่เลี้ยง อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย — ไม่ใช่สุนัขที่ควรถูกขัง… แต่ก็ไม่ใช่สุนัขที่ปล่อยอิสระ

เขาคือสุนัขพลังสูง ไม่ใช่สุนัขเลี้ยงไว้ดูเล่น ไม่ใช่สุนัขเลี้ยงในกรงรอวันหยุด และไม่ใช่สุนัขไว้โชว์แล้วจูงถ่ายรูป

Pit Bull ต้องการพื้นที่ปลอดภัยที่มีกรอบ มีการเคลื่อนไหว และมีเจ้าของอยู่ใกล้ ๆ อย่างมีบทบาทเสมอ

  • ห้ามเลี้ยงในห้องแคบหรือคอนโดหากไม่มีเวลาเดินทุกวัน
  • พื้นที่อย่างน้อย 10–20 ตร.ม. ต้องปลอดภัย มีรั้วสูง 1.8 เมตรขึ้นไป
  • ต้องมีการออกกำลังกายทุกวัน ไม่ใช่แค่ปล่อยออกมาวิ่งเอง
  • ห้ามปล่อยเดินอิสระ แม้จะเป็นสุนัขที่ “ไม่เคยกัดใครเลย” เพราะความผิดพลาดเกิดขึ้นในครั้งเดียวได้เสมอ

“พื้นที่ไม่ต้องใหญ่ที่สุด แต่เจ้าของต้องใหญ่พอในใจสุนัข…ทุกวัน”

คนที่เหมาะสม — ไม่ใช่คนที่รักสุนัข… แต่คือคนที่รู้ว่าความรักต้องมาพร้อมวินัย

เขาไม่ใช่สุนัขเท่ ๆ ที่ใครก็จูงได้ แต่คือสุนัขที่ “จะเท่…ต่อเมื่อเจ้าของนิ่งกว่าเขาเสมอ”

Pit Bull ต้องการเจ้าของที่สามารถรับผิดชอบชีวิตของเขาได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพราะความชอบส่วนตัว

อเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย, สุนัขสายพันธุ์, พิตบูล,

ลักษณะเจ้าของที่เหมาะสม

  • มีเวลา – และใช้เวลานั้นกับสุนัขอย่างตั้งใจ
  • ใจเย็น แต่น้ำเสียงชัด กิริยานิ่ง
  • ไม่ฝึกด้วยการตะคอก แต่ก็ไม่ปล่อยตามใจ
  • เข้าใจพฤติกรรมสุนัข และรู้จักสังเกต
  • มีประสบการณ์กับสุนัขพลังสูง หรือพร้อมเรียนรู้จริงจัง
  • ไม่ใช้สุนัขเพื่อเสริม ego เช่น อยากเท่ อยากโชว์

“Pit Bull ไม่เหมาะกับคนที่ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้” เพราะคุณต้องนิ่งกว่าเขาเสมอ…แม้ในวันที่คุณเองก็เหนื่อยมาก

การออกกำลังกาย — ไม่ใช่แค่ให้เหนื่อย แต่ต้อง “ฝึกใจ” ให้เขาอยู่กับคุณด้วยความเคารพ

Pit Bull ต้องใช้พลังอย่างมีทิศทาง เพราะถ้าคุณไม่ชี้ทิศให้เขา เขาจะเลือกเอง — และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหา

กิจกรรมแนะนำ:

  • เดินเร็ว 30–60 นาทีทุกวัน โดยเจ้าของต้องเป็นฝ่าย “กำหนดจังหวะ”
  • เล่น tug of war ด้วยคำสั่ง เช่น “เริ่ม”, “พอ”, “ปล่อย”
  • ฝึกคำสั่งเชื่อมต่อ เช่น รอ–เอา–กลับมา
  • ว่ายน้ำ หรือวิ่งบนลู่วิ่ง (หากฝึกมาแล้ว)
  • ซ่อนของ ดมกลิ่น ใช้สมองแทนพลังล้วน ๆ

“พลังที่ไม่ได้ถูกใช้อย่างมีวินัย…จะย้อนกลับมาในรูปของพฤติกรรมที่ควบคุมไม่ได้”

ควรทำ & ไม่ควรทำ

✅ ควรทำ:

  • ฝึกคำสั่งพื้นฐานตั้งแต่เล็ก
  • สร้างกิจวัตรที่ชัดเจน
  • พาเข้าสังคมในที่ควบคุมได้
  • รักษาระเบียบ และความนิ่งของเจ้าของ

❌ ไม่ควรทำ:

  • เลี้ยงแบบละเลยคิดว่า “เขาไม่เคยกัด”
  • ให้เล่นกับหมาอื่นโดยไม่มีคนควบคุม
  • ฝึกแบบขู่ ตี หรือปล่อยให้ “เล่นแรงเกินขอบเขต”
  • จูงหมาไปโชว์โดยไม่ประเมินสถานการณ์

ทำไม Pit Bull ถึงมักมีข่าว “กัดคน”?

คำตอบตรงไปตรงมา:

ไม่ใช่เพราะพันธุกรรมของสุนัข…แต่เพราะคนเลือกเลี้ยงเขาผิดวิธี

สาเหตุที่พบบ่อย:

  1. คนเลี้ยงไม่รู้ภาษากายสุนัข
  2. ฝึกผิด หรือไม่ได้ฝึกเลย
  3. พลังไม่ได้ถูกปลดปล่อยอย่างเหมาะสม
  4. ใช้สุนัขเป็น “ตัวแทนความกล้าหาญ” แทนการฝึกฝนจริง
  5. ปล่อยให้สุนัขโตเอง โดยไม่สร้างกรอบและวินัย

บทสรุป — เขาไม่ผิดที่มีพลัง…แต่เราผิดถ้าไม่เข้าใจพลังนั้น

American Pit Bull Terrier ไม่ใช่สุนัขที่ผิดพันธุกรรม แต่เป็นสุนัขที่ต้องการ “เจ้าของที่เข้าใจเขาตั้งแต่วันแรก” ไม่ใช่คนที่หวังว่าเขาจะเรียนรู้เองเมื่อโต

“เขาอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกบ้าน แต่สำหรับบ้านที่เข้าใจ เขาจะเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์เกินกว่าที่คุณคิด”

บทความโดย

คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – สุนัขสายพันธุ์บอกเซอร์ (Boxer)