ปีใหม่นี้นอกจากการตระเตรียมของขวัญให้คนพิเศษแล้ว สำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างเจ้าเหมียว เราก็มีไอเดียเด็ดมานำเสนอค่ะ… เพาะข้าวสาลี
นอกจากอาหารมื้อหลักของน้องแมวที่บ้านแล้ว เชื่อว่าเจ้าของแทบทุกคนย่อมอยากให้ของว่างกับบรรดาแมวๆที่เลี้ยงไว้บ้าง เพราะนอกจากเจ้าเหมียวจะดีใจที่ได้ของกินเพิ่มแล้ว คนเลี้ยงก็ยังแฮปปี้ที่ได้เห็นพวกมันมีความสุขกับมื้อพิเศษเหล่านี้เช่นกัน เพาะข้าวสาลี
ทุกวันนี้นอกจากขนมแมวและอาหารสำเร็จรูปสำหรับแมวที่จำหน่ายกันตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป หลายคนก็อยากได้วัตถุดิบธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมาเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงตัวโปรดตามกระแสออร์แกนิก หลายคนจึงหัด เพาะข้าวสาลี ให้น้องแมวกินกัน
ถึงแม้ว่าแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ก็สามารถกินพืชเป็นอาหารเสริมได้ เชื่อกันว่าต้นอ่อนของข้าวสาลีมีประโยชน์หลายอย่าง มีทั้งวิตามินและกรดอะมิโนหลายชนิด ที่ช่วยรักษาแผลในลำไส้ ขับพยาธิ ลดกลิ่นของเสียที่ขับถ่ายออกมา ดูดซึมสารพิษ มีไฟเบอร์สูง ช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม
แต่อย่าแปลกใจถ้าให้กินแล้วอีกซักพักน้องแมวจะสำรอก หรือถ่ายออกมาเป็นก้อนขนรุงรังสภาพไม่น่าดู เพราะหญ้าจะไปช่วยกำจัดก้อนขนที่ติดเข้าไปในทางเดินอาหารจากการที่น้องแมวเลียขนตัวเองทุกวัน ซึ่งก็เป็นผลดีอย่างยิ่งโดยเฉพาะน้องแมวขนยาวที่มีปัญหาเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ถ้าใครที่เลี้ยงแมวในบ้านก็ต้องระวังเรื่องนี้กันหน่อย คงต้องหมั่นคอยดูและรีบทำความสะอาดทันทีที่เห็น
สำหรับผู้สนใจเพาะต้นอ่อนข้าวสาลีสามารถทำเองได้ เพราะมีจำหน่ายเป็นแพคเก็จที่มีทั้งเมล็ดข้าวสาลี วัสดุเพาะและถาดเพาะ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือนานๆจึงเพาะสักครั้ง หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงและหน้าเพจซื้อขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงในเฟซบุ้ค มีหลายดีไซน์ให้เลือกสรร แต่ถ้าใครคิดว่าอยากเพาะให้น้องแมวกินบ่อยๆ แนะนำให้ซื้อเมล็ดข้าวสาลีเป็นแพ็คใหญ่ จะประหยัดสตางค์ได้มากทีเดียว
การเพาะต้นอ่อนข้าวสาลีด้วยตัวเอง ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ของที่นำมาให้น้องแมวแสนรักกินนั้นปลอดสารพิษจริงๆ วิธีการเพาะนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยาก แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-5 วัน หลังจากต้นกล้างอกจึงค่อยนำไปวางไว้ให้แมวกินได้ ทั้งนี้ ไม่ควรปล่อยให้ต้นข้าวสาลีแก่เกินเจ็ดวัน เพราะใบจะแข็งและหยาบ กินยาก ควรใช้กรรไกรตัดเล็มต้นเก่าทิ้งครึ่งต้น เพื่อให้ต้นแตกใบใหม่ให้น้องแมวกินได้อีกครั้ง
tips
การเพาะเมล็ดข้าวสาลีนั้นมีอยู่สองวิธี หนึ่งคือใช้ถาดแบน ใส่วัสดุปลูกลงไป แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม และสอง คือใช้ตะกร้าพลาสติก ปูด้วยกระดาษทิชชู่ พรมน้ำให้เปียก แล้วโรยเมล็ดข้าวสาลีที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ผ่านไปหนึ่งคืนเมล็ดจะเริ่มแตกรากและยอดอ่อน จึงย้ายไปวางให้ได้รับแสงรำไรหรือริมหน้าต่าง ราว 4-5 วันจึงนำมาให้แมวกินได้
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจของผักงอกและไมโครกรีน ผักที่เปี่ยมด้วยคุณค่า ทั้งกับคนและสัตว์เลี้ยง ได้ใน Garden&Farm vol.11
เรื่องและภาพ : ภวพล ศุภนันทนานนท์
เรื่องที่น่าสนใจ
- เคล็ดลับเพาะกล้าผักให้งอกสมบูรณ์
- ขั้นตอนการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่งไม้เลื้อย
- โรงเรือนปลูกผักขนาดเล็ก สำหรับพื้นที่จำกัด
l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l