นกหงส์หยก (Parakeets) เป็นสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์รู้จักเป็นอย่างดี เดิมนกที่อยู่ในธรรมชาติจะมีอยู่แค่ไม่กี่สี เช่น ขาว เหลือง ฟ้า เขียว แต่ปัจจุบันมนุษย์ได้เพาะพันธุ์จนเกิดสีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหลายสี แต่ละตัวก็มีลวดลายแตกต่างกันไป
แม้ว่าจะมีการนำ นกหงส์หยก ออกจาก ถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลียมาเลี้ยงนานนับร้อยปีแล้ว แต่มันก็ไม่เคยเสื่อมความนิยมลงเลย ในทางกลับกัน ยิ่งเวลาผ่านไป นานเท่าไร ความคลั่งไคล้ในตัวนกชนิดนี้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทำให้มีผู้พัฒนาสายพันธุ์ให้เกิดความแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ เช่น ทางเนเธอร์แลนด์จะเน้นสีที่หลากหลาย แต่ตัวไม่ใหญ่ ส่วนทางอังกฤษ หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า “สายเยอรมัน”นั้น มีจุดเด่นตรงที่ลำตัวใหญ่ หนา บึกบึน บางสายก็ถูกผสมจนได้พวกที่มีขนบนหัวฟูคล้ายหมวกจนดูแปลกตาออกไปจากเดิม ว่ากันว่านกที่ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์พวกนี้จะมีอายุประมาณห้าถึงแปดปี แต่ก็มีบางตัวที่อายุยืนเกินสิบปีอยู่เหมือนกัน
นกหงส์หยกถือเป็นนกที่เลี้ยงได้ไม่ยาก อาหารที่ชอบ ได้แก่ เมล็ดพืชชนิดต่างๆ เช่น ข้าวฟ่างและธัญพืช ซึ่งหาซื้อได้ง่าย มีขายทั้งในร้านอาหารสัตว์และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป โดยให้อาหารเสริมอย่างกระดองปลาหมึกตากแห้ง เพื่อช่วยให้นกมีความ แข็งแรงมากขึ้น เป็นที่รู้กันดีว่านกหงส์หยกนั้นรักสวยรักงาม ผู้เลี้ยงบางคนจึงนิยมใส่ของเล่น รวมทั้งกระจกต่างๆ แขวนไว้กับกรงเพื่อให้ นกได้ส่องอยู่ตลอดเวลา
Tips นกหงส์หยกเป็นสัตว์ที่ชอบเข้าสังคม จึงควรเลี้ยงเป็นคู่หรือเป็นฝูง แต่ต้องเลี้ยงเฉพาะนกหงส์หยกด้วยกันเท่านั้น อย่าเลี้ยงรวมกับนกสายพันธุ์อื่น
เว็บไซต์ฝรั่งบางแห่งอธิบายว่า นกไม่ได้ชอบส่องกระจก แต่นกเหล่านี้เป็นสัตว์สังคมที่ไม่ชอบอยู่ลำพัง ดังนั้นมันจึงคิดว่าในกระจกมีเพื่อนของมันอยู่ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ เจ้าของควรจะเอาใจใส่พวกมันให้มาก และทำให้มันคิดว่าเรา เป็นเพื่อนของมัน มันก็จะหันมาเล่นกับเราแทนที่จะเล่นกับกระจกอยู่อย่างเดียว
นกหงส์หยกสามารถฝึกให้พูดเลียนเสียงต่างๆ และทำให้เชื่องได้ เพียงแต่ต้องนำมาสอนตั้งแต่ยังมีขนาดเล็ก นกที่ฝึกง่ายที่สุด คือนกที่อยู่ในช่วงอายุประมาณหกสัปดาห์ โดยเจ้าของจะต้องค่อยๆ สอนช้าๆ และทำซ้ำๆ ก่อนจะให้อาหารเป็นรางวัลเพื่อทำให้ มันจำ แต่ก็ต้องเผื่อใจไว้ว่านกพวกนี้จะพูดไม่เก่งเท่ากับนกแก้วหรือนกขุนทอง เพียงแต่สามารถพูดได้เป็นคำๆ และมีความฉลาด ไม่เท่ากันทุกตัว หากใครคิดจะเลี้ยงนกหงส์หยก
ขอแนะนำว่าควรจะเลี้ยงในกรงที่มีขนาดใหญ่พอให้นกบินไปมาได้ในระยะสั้นๆ มิเช่นนั้น แล้วนกจะอึดอัดและเกิดความเครียดได้ง่าย และถ้าหากต้องการจะเลี้ยงแค่เอาไว้ฟังเสียงเป็นเพื่อน หรือดูเล่นแก้เหงาโดยไม่ได้ อยากเลี้ยงให้เชื่อง การซื้อนกที่โตแล้วก็เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ไม่ต้องใช้เวลาป้อนอาหารและเป็นภาระในการดูแลมากจนเกินไป
เรื่อง : ภวพล ศุภนันทนานนท์
ทำความรู้จัก กับ เต่าญี่ปุ่น หรือ เต่าแก้มแดง (Red-eared Slider)