อายุขัยโดยเฉลี่ยของแมวจะอยู่ระหว่าง 12-17 ปี หรือบางตัวอาจจะอายุยืนยาวกว่านั้น ซึ่งเจ้าของทุกคนก็คงหวังให้แมวอยู่กับเราไปได้ยาวนานที่สุด คงไม่มีใครอยากให้แมวของเราเจ็บป่วย หรือจากไปก่อนวัยอันควร หัวใจสำคัญในการเลี้ยงแมวให้มีอายุยืนยาวคือแมวต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย มาเรียนรู้วิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ ที่มีส่วนช่วยให้แมวมีอายุยืนยาวกัน
1. มีพื้นที่เหมาะกับการเลี้ยงแมวในบ้าน
แมวที่เลี้ยงในบ้านมีแนวโน้วอายุยืนยาวมากกว่า แมวที่เลี้ยงแบบปล่อยออกนอกบ้าน แต่ก่อนเริ่มเลี้ยงแมวในบ้าน เจ้าของควรเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมกับน้องแมว มีบริเวณที่กินอาหาร บริเวณใช้ขับถ่ายวางกระบะทราย และบริเวณพักผ่อน ในแต่ละบริเวณควรอยู่ห่างกัน สะอาดไม่อับชื้น และอากาศถ่ายเทสะดวก เพราะแมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด หากวางถ้วยอาหารถ้วยน้ำ ติดกับกระบะสำหรับขับถ่าย อาจทำให้แมวกินอาหารหรือน้ำน้อยลง นอกจากนั้นแมวยังชอบและสนใจสิ่งที่เคลื่อนไหวไปมาได้ ดังนั้นควรมีบริเวณให้แมวสามารถมองเห็นภายนอกได้ ในขณะเดียวกันจะต้องมีมุมสงบ เป็นพื้นที่ปลอดภัยไว้ให้แมวได้ใช้พักผ่อนนอนหลับ
2. มีของใช้จำเป็นและของเล่นสำหรับเลี้ยงแมว
อุปกรณ์ทั่วไป เช่น ที่ใส่อาหาร ใส่น้ำ กระบะทราย ทรายแมว ที่ตักทราย ถุงขยะสำหรับใส่มูลสัตว์แยกทิ้ง ที่นอน ปลอกคอควรมีป้ายชื่อเบอร์ติดต่อเจ้าของในกรณีที่แมวหลุดออกนอกบ้านหากมีคนเจอจะได้ติดต่อกลับหาเจ้าของได้ และควรเป็นปลอกคอแบบนิรภัย เพราะถ้าแมวกระโดดเกี่ยวกับอะไรปลอกคอนิรภัยจะหลุดออกไม่ดึงรั้งคอแมวให้ห้อยติด
กระเป๋าหรือตะกร้า เพื่อใช้ใส่แมวเวลาพาออกนอกบ้าน หรือพาไปโรงพยาบาลสัตว์ ควรเป็นกระเป๋าหรือตะกร้าที่มีฝาปิดแน่นไม่หลุดออกง่าย เพราะเวลาแมวตกใจจะดีดตัวออกแรง
อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น แชมพูอาบน้ำ ที่เช็ดหู เช็ดตา กรรไกรตัดเล็บแมว และแปรงขนแมว เพื่อช่วยกำจัดขนที่ตายแล้วออก
ของเล่นแมว เช่น ไม้แกว่ง ลูกบอล ตุ๊กตาหนู เพื่อเพิ่มการขยับตัวให้กับน้องแมว รวมถึงคอนโดแมวไว้ให้ปีนป่ายหรือไว้นอนเล่นพักผ่อนได้ เพราะพฤติกรรมแมวชอบอยู่บนที่สูง
ที่ฝนเล็บแมว เป็นของสำคัญมากเพราะถ้าไม่มีที่ฝนเล็บ แมวจะฝนเล็บกับเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ในบ้าน
3. เลือกอาหารให้เหมาะสมกับวัยและสายพันธุ์
การเลือกอาหารให้แมวเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะช่วยดูแลแมวให้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว สำหรับแมวช่วงแรกเกิด ลูกแมวจะกินนมจากแม่แมวเป็นหลัก ในช่วงนี้เจ้าของควรบำรุงแม่แมวเป็นพิเศษ เลือกอาหารที่ให้พลังงานสูง อย่าง Royal Canin Starter Mother & Baby Cat ให้ได้ตั้งแต่แม่แมวช่วงตั้งท้อง จนถึงช่วงให้นมลูกแมว เพื่อให้แม่แมวมีพลังงานเพียงพอในการผลิตน้ำนมออกมา
ลูกแมวช่วงอายุ 1 เดือนครึ่ง – 2 เดือน ลูกแมวเริ่มมีฟันงอกและหย่านม ลูกแมวจะเริ่มปรับตัวจากการกินนม เปลี่ยนมาเป็นเลียกินอาหารเลียนแบบแม่แมว ซึ่ง Royal Canin Starter Mother & Baby Cat สูตรนี้มีสารอาหารครบถ้วนให้พลังงานสูง ยังมีทั้งรูปแบบอาหารเม็ด และอาหารเปียก อาหารเม็ดสามารถดูดซึมน้ำ เปลี่ยนเป็นอาหารกึ่งเหลวได้ ส่วนอาหารเปียกเป็นเนื้อสัมผัสแบบมูส เนื้ออาหารเนียนนุ่ม มีกลิ่นหอม ง่ายต่อการฝึกเลียกิน
ช่วงวัย 2-4 เดือน ช่วงอายุนี้ลูกแมวจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันจะพัฒนาไปอย่างช้าๆ ลูกแมวในช่วงวัยนี้ต้องการอาหารที่ให้พลังงานและโปรตีนสูง แตกต่างจากแมวโตเต็มวัย อาหารยังใช้ Royal Canin Starter Mother & Baby Cat ต่อไปจนครบ 4 เดือนได้ เพราะ อาหารมีโปรตีนคุณภาพสูง (L.I.P.) คัดสรรพิเศษโปรตีนที่ย่อยง่าย สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้สูงกว่า 90% และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ รวมไปถึง EPA และ DHA ที่ช่วยพัฒนาสมองของลูกแมว
ช่วงวัย 4 – 12 เดือน เป็นช่วงสุดท้ายของพัฒนาการในวัยลูกแมวก่อนจะเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายตามสายพันธุ์ของลูกแมวจะเห็นได้ชัดขึ้นในวัยนี้ อาหารสูตรที่เหมาะสม ได้แก่ Royal Canin Kitten หรือ สูตร Kitten ตามสายพันธุ์ เช่น Kitten British Shorthair
แมวแต่ละสายพันธุ์จะมีความต้องการการดูแลเฉพาะจุดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเลือกอาหารให้เหมาะสมกับวัยและสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) เป็นแมวขนาดกลางค่อนไปใหญ่ หัวกลมใหญ่กว้าง จมูกกลมสั้นหน้าผากโค้ง อาหารเม็ด Royal Canin สูตร Kitten British Shorthair ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลูกแมวพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์ อายุ 4-12 เดือน เม็ดอาหารแบบพิเศษทรง Moon ช่วยให้ลูกแมวบริติช ชอร์ตแฮร์กินได้ง่ายและกระตุ้นการเคี้ยวเสริมพัฒนาการของกระดูกและกล้ามเนื้อ ด้วยปริมาณโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุที่เหมาะสม และมีแอลคาร์นิทีนช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ดูแลการย่อยอาหารและการขับถ่าย ปรับอุจจาระให้เป็นก้อนดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งวิตามินอี ลิขสิทธิ์เฉพาะของโรยัล คานิน
4. ดูแลด้านสุขภาพ
เจ้าของควรพาลูกแมวไปตรวจสุขภาพก่อนทำวัคซีน ถ่ายพยาธิทุก 3 เดือน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโดยเข็มแรกควรเริ่มเมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ และเข็มถัดไปเริ่มห่างจากเข็มแรก 2–4 สัปดาห์ การฉีดวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิต้านทานและป้องกันไม่ให้เกิดโรคกับแมว วัคซีนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ Feline core vaccine คือวัคซีนกลุ่มที่จำเป็นต้องทำ ได้แก่ วัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนไข้หัดและหวัดติดต่อในแมว หรือที่เรียกว่าวัคซีนรวมแมว และ Feline optional คือกลุ่มวัคซีนทางเลือก ได้แก่ วัคซีนลิวคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) FIP (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ) FIV หรือ เอดส์แมว และควรพาแมวไปฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำทุกปี รวมถึงตรวจเลือดเช็คสุขภาพเป็นประจำทุกปี หรือตามที่สัตวแพทย์แนะนำ
เมื่อแมวถึงช่วงวัยเจริญพันธุ์ (ช่วงอายุประมาณ 6 เดือน) ควรพาไปทำหมัน การทำหมันให้แมวตัวเมียจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่ การทำหมันให้แมวตัวผู้ช่วยป้องกันโรคมะเร็งอัณฑะและลดโอกาสเป็นมะเร็งตับอ่อนได้ด้วย อีกทั้งการทำหมันยังช่วยลดสัญชาตญาณความก้าวร้าวในตัวแมวได้
การดูแลทำความสะอาดทั่วไป ควนหมั่นดูแลความสะอาดหูด้วยน้ำยาล้างหูอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อเป็นการกำจัดไรในหู (Otodectes cyanotis) และเศษขี้หูที่จะเป็นอาหารของตัวไร ใช้ยาหยดเห็บหมัดเป็นประจำทุกเดือนเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจาก เห็บ หมัด พยาธิภายในทางเดินอาหาร และพยาธิหนอนหัวใจ
5. เอาใจใส่ให้เวลากับแมว
แม้ว่าปกติแล้วแมวจะเป็นสัตว์ที่รักอิสระ แต่การอยู่ในบ้านตลอดเวลาอาจจะสร้างความเบื่อหน่ายให้กับแมวได้เหมือนกัน ใน 1 วันเจ้าของควรใช้เวลาเล่นกับแมวอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง หรืออาจจะแบ่งช่วงเวลาเล่นด้วยเป็นช่วงสั้นๆ ครั้งละ 10–15 นาที การเล่นกับแมวจะช่วยสร้างความบันเทิงให้แมว และเป็นการกระตุ้นให้แมวได้ขยับตัวออกกำลังกาย เราควรให้แมวได้ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้แมวมีน้ำหนักตัวที่พอดี ไม่อ้วนจนเกินไป การดูแลให้แมวมีน้ำหนักที่สมส่วนจะดีกับสุขภาพในระยะยาวและยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากความอ้วนได้ เช่น โรคข้อกระดูกเสื่อม หรือ โรคข้ออักเสบ การใช้เวลากับแมวเป็นช่วงเวลาที่จะสร้างความผูกพันระหว่างแมวกับเจ้าของ และเป็นโอกาสที่เจ้าของจะได้สังเกตว่าแมวมีอาการผิดปกติหรือมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่
การได้รับความรักและการดูแลใส่ใจจะช่วยให้ให้แมวมีสุขภาพดี มีความสุข มีอายุยืนอยู่กับเราไปได้นานๆ
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Royal Canin ได้ตามร้านpet shop ทั่วไปและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- website : www.royalcanin.com/th
- facebook : @RoyalCaninThailand
- Application : Royal Canin Club
- line : Royal Canin Thailand
- Tel : 02 026 2456
โพสต์หน้ายังมีเรื่องราวที่ทาสหมาทาสแมวไม่ควรพลาดอย่าลืมกดติดตามเพจ บ้านและสวน pets