โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ผนึกกำลัง โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ เปิดสาขาใหม่ดูแล สัตว์เลี้ยงพิเศษ อีกขั้นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงทุกมิติ
“โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ” ผนึกกำลัง โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ เปิดสาขาใหม่ บริการดูแล สัตว์เลี้ยงพิเศษ ชูความโดดเด่นร่วมกันของทีมสัตวแพทย์เฉพาะด้าน และเครื่องมืออันทันสมัย
พร้อมให้บริการบนทำเลในเมืองที่เข้าถึงง่าย รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครองว่า สัตว์เลี้ยงพิเศษจะได้รับการดูแลวินิจฉัยรักษาที่ดี ซึ่งเป็นอีกขั้นของการยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงในทุกมิติ ตอกย้ำเจตนารมณ์มุ่งมั่นพร้อมมอบประสบการณ์และบริการที่ดีให้กับผู้ปกครองและลูกรักสัตว์เลี้ยง
ในงานแถลงข่าวเปิดสาขาใหม่บริการดูแลสัตว์เลี้ยงพิเศษ สัตวแพทย์หญิงกฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า “รพส.ทองหล่อ เดินหน้าวิสัยทัศน์องค์กรมุ่งตอบสนองความต้องการของเจ้าของและสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เพื่อดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงในทุก ๆ มิติ
และกล่าวเสริมว่า “ไม่ใช่เพียงแค่สุนัขและแมวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัตว์เลี้ยงพิเศษชนิดอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสัตว์อันดับ 1 ของประเทศไทย และ โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการรักษาสัตว์เลี้ยงพิเศษ (Exotic pet) ในการเปิดตัวสาขาใหม่ ดูแลสัตว์เลี้ยงพิเศษ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงพิเศษให้ได้รับการดูแลวินิจฉัย และได้รับการรักษาที่ดีในระยะทางที่ใกล้ขึ้น
โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ สาขาใหม่ ตั้งอยู่ใน รพส.ทองหล่อ สาขาพระราม 9 ซึ่งเป็นศูนย์ส่งต่อสัตว์ป่วย (Referral center) ที่ใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มีความโดดเด่นในด้านของเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคที่ครบครัน เช่น เครื่อง MRI และ CT Scan เป็นต้น
ในสาขานี้ยังพรั่งพร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากโรงพยาบาลสัตว์ทั้ง 2 แห่ง นับเป็นสาขาแรกของการผนึกกำลังความเชี่ยวชาญที่ร่วมมือกันกับโรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงพิเศษสามารถอุ่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงพิเศษจะได้รับการดูแลวินิจฉัยและรักษาอย่างดีที่สุดจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
“เป้าหมายของการร่วมมือกันของ รพส.ทองหล่อ และ รพส.แอนิมอลสเปซ ในอนาคต เราคาดว่าจะมีการขยายบริการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงพิเศษไปยังสาขาอื่น ๆ ของ รพส.ทองหล่อให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ในเมืองและ หัวเมืองใหญ่ ๆ อีก 2-3 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปีนี้” สัตวแพทย์หญิง กฤติกา กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจ รพส.ทองหล่อ ในปี 2566 นับว่ายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 12-13 โดย ในปี 2024 ยังคงมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการดูแลสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยง
โดยตั้งเป้าให้โรงพยาบาลสัตว์ภายใต้แบรนด์ทองหล่อเป็นศูนย์รับส่งต่อสัตว์ป่วย (Referral center) ให้กับโรงพยาบาลสัตว์พันธมิตรบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงในทุกพื้นที่ได้รับการดูแล และรักษาโรคซับซ้อน หรือฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับโรงพยาบาลสัตว์พันธมิตร โดยทำ M&A หรือ JV ใช้จุดแข็งต่าง ๆ ของ รพส.ทองหล่อ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลากร จัดซื้อ การเงิน บัญชี และเทตโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายไว้ 25-30 สาขา ภายใน 3 ปี
ทั้งหมดที่กล่าวมา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการดูแลสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยง รวมถึงยกระดับวิชาชีพสัตวแพทย์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการเข้ารับบริการของผู้ปกครองและสัตว์เลี้ยง ที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทุกสาขา และโรงพยาบาลสัตว์ในเครือ
ด้าน น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ และประธานชมรมสัตวแพทย์ สัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือของทั้ง 2 โรงพยาบาลสัตว์ มาจากความต้องการที่ตรงกันคือ ต้องการให้การดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงพิเศษมีคุณภาพมากขึ้น และพัฒนายกระดับวงการสัตวแพทย์ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น”
โดยมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมจุดแข็งจากทั้ง 2 รพส. พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Know how หรือ Knowledge ที่แต่ละ รพส. มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว
“ทาง รพส. แอนิมอลสเปซ มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ หรือ Exotic pet ส่วน รพส.ทองหล่อ มีความพร้อมในด้านของเครื่องมือที่ทันสมัยและบุคลากรทางการแพทย์ครบครัน และในพื้นที่กรุงเทพชั้นใน แทบไม่มีโรงพยาบาลสัตว์ที่รักษาสัตว์เลี้ยงพิเศษ ดังนั้นการเปิดสาขาใหม่ บริการดูแลสัตว์เลี้ยงพิเศษ บนทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองในครั้งนี้ จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงพิเศษ ให้เข้าถึงการรักษาได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น” น.สพ.เชาวพันธ์ กล่าวเสริม
ปัจจุบัน เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก (Exotic Pet) หรือสัตว์แปลกนั้นนับได้ว่ามีความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในสัตว์กลุ่มกระต่าย และสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูเควี่ ชินชิล่า และอื่นๆ ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มที่มีคนเลี้ยงมากสุด
ในขณะเดียวกัน นกชนิดต่างๆ ที่ปัจจุบัน ผู้คนนิยมเลี้ยงแบบปล่อยบินอิสระเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้ขังในกรงเหมือนที่ผ่านมาซึ่งเห็นได้ว่า การเลี้ยงสัตว์สมัยนี้ไม่ได้จำกัดแค่สุนัขและแมวอีกต่อไป และการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษเหล่านี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากการดูแลสมาชิกในครอบครัว
เทรนด์ดังกล่าวจัดเป็น “รสนิยม” ส่วนตัว เพราะสัตว์ บางประเภทก็ไม่ใช่สัตว์ที่แปลกแบบสุดขั้วเพียงอย่างเดียว แต่กลับเป็นสัตว์น่ารักตัวเล็กที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มนก เต่า หรือ ปลา เช่นเดียวกับกลุ่มกระต่าย และสัตว์ฟันแทะ ทั้งหนูชนิดต่าง ๆ และกระรอก ซึ่งจะมีทั้งสัตว์ที่มีอยู่ในท้องถิ่นหรือเป็นสัตว์แปลกสวยงามที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และเจ้าของสัตว์เลี้ยงพิเศษมักนิยมเลี้ยงสัตว์เหล่านี้แบบลูกรัก ตั้งชื่อน่ารัก และพาไปไหนมาไหนด้วย
จากข้อมูลการสำรวจเกี่ยวกับ “การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นลูกของคนยุคใหม่” สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างคนไทยจำนวน 1,046 คน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเจเนอเรชัน Y ที่มีอายุระหว่าง 24 – 41 ปี ของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เกี่ยวกับประเภทสัตว์เลี้ยงที่คนไทยในกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยง พบว่า นอกจากสุนัขและแมว คนไทยยังนิยมเลี้ยงสัตว์ “เอ็กโซติก” (Exotic Pet) หรือสัตว์แปลก ตามมาเป็นอันดับ 3
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาหารจากแมลงแสนอร่อย ของโปรด Exotic Pets