ตัดขนสุนัข ทรงไหนดี? — ความเข้าใจที่ถูกต้อง เมื่อต้องพาน้องหมาไป “เสริมสวย”

เราเชื่อว่า… ไม่มีใครอยาก ตัดขนสุนัข หรือโกนขนจนเกลี้ยง เพื่อให้เขาทุกข์หรอก แต่เพราะเข้าใจไม่ถูก… เลยเผลอทำไปด้วยความหวังดี

มีหมาหลายตัว ขนไม่งอกกลับอีกเลยหลังจากถูกโกน บางตัวกลายเป็นผิวบอบบาง คัน เป็นรังแคง่าย และบางตัวเปลี่ยนนิสัย เพราะอับอายหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย

บทความนี้… จึงไม่ใช่แค่แนะแนวเรื่อง “ตัดขนทรงไหนดี” แต่คือการ “เปลี่ยนมุมมอง” เพื่อเข้าใจว่าขนของหมา ไม่ใช่เรื่องการตกแต่งสวยงามอย่างเดียว แต่คือเกราะธรรมชาติที่ปกป้องเขาอยู่ทุกวัน

🔍 ก่อน ตัดขนสุนัข …ต้องรู้ก่อนว่า “เส้นขนของน้องหมาเป็นแบบไหน?”

ตัดขนสุนัข, การตัดขนสุนัข, เส้นขนและผิวหนังสุนัข, การโกนขนสุนัข,

1. ขนเดี่ยว (Single Coat)

ขนขึ้นเป็นเส้น ๆ เหมือนเส้นผมมนุษย์ ไม่มีชั้นล่างซ่อนอยู่ ขนไม่ผลัดเอง ต้องเล็มหรือโกนตามรอบ
โกนได้ ไม่เสียหาย และเป็นขนที่นิยม “ตัดแต่งเป็นทรง” มากที่สุด ตัวอย่างเช่น พุดเดิ้ล มอลทีส ชิสุ ยอร์กเชียร์ ปอมผสมพุดเดิ้ล

ตัดขนสุนัข, การตัดขนสุนัข, เส้นขนและผิวหนังสุนัข, การโกนขนสุนัข,

2. ขนสองชั้น (Double Coat)

มีขนแข็งด้านนอก และขนนุ่มด้านใน โดยขนชั้นในช่วยกักอากาศเพื่อควบคุมอุณหภูมิ ทำหน้าที่เป็น “ฉนวนธรรมชาติ” ดังนั้น ห้ามโกนเด็ดขาด เพราะขนจะงอกกลับผิดรูป หรือไม่ขึ้นเลย เช่นสุนัขสายพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ชิบะอินุ ปอมเมอเรเนียน และคอร์กี้

ตัดขนสุนัข, การตัดขนสุนัข, เส้นขนและผิวหนังสุนัข, การโกนขนสุนัข,

3. ขนลวด (Wire Coat)

ขนแข็ง หยาบ และหยิกเล็กน้อย มักพบบนเทอร์เรีย ขนประเภทนี้ต้อง “ถอน” (hand stripping) เพื่อให้ขนใหม่แข็งและมี texture ตามสายพันธุ์ ห้ามโกนติดผิว เพราะขนจะขึ้นนิ่ม สีซีด และเสียลักษณะประจำสายพันธุ์ ตัวอย่าง ไวร์ฟอกซ์เทอร์เรีย, แอร์เดล, เวลช์เทอร์เรีย, บอร์เดอร์เทอร์เรีย

การแบ่งกลุ่มหมา เพื่อให้คุณเข้าใจการ ตัดขนสุนัข ของคุณได้ง่ายขึ้น

1. กลุ่มที่โกนขนได้ ปลอดภัย ไม่เสียโครงสร้าง

ขนเดี่ยว เหมือนเส้นผมมนุษย์ ตัดได้เป็นทรงสวย ๆ ตามใจ หมาเหล่านี้ขนไม่ผลัดเอง ถ้าไม่ตัดจะพันกันหรืออับได้ ตัดได้เต็มที่ – ไม่เป็นอันตรายต่อขนหรือผิวหนัง ร้าน grooming นิยมตัดทรง Puppy Cut, Teddy Bear Cut, Kennel Cut

ตัดขนสุนัข, การตัดขนสุนัข, เส้นขนและผิวหนังสุนัข, การโกนขนสุนัข,

ตัวอย่างสายพันธุ์สุนัขในกลุ่มนี้:

  • Poodle
  • Maltese
  • Yorkshire Terrier
  • Shih Tzu
  • Lhasa Apso
  • Havanese
  • Bichon Frise
  • Designer Dogs (Maltipoo, Goldendoodle, Shihpoo ฯลฯ)

**บ้านที่ไม่มีเวลาแปรงขนทุกวัน หรือหมาขี้ร้อนในเมืองไทย เหมาะกับการตัดขนแบบนี้มาก

2. กลุ่มที่ตัดขนได้ แต่ “ไม่ควรโกนติดผิว”

ขนดูนุ่มและบาง แต่มี undercoat ซ่อนอยู่ ถ้าโกนมากไป ขนอาจเสียรูป หรือกลายเป็นด่าง ๆ ไม่เท่ากัน ควรใช้ clipper เบอร์ยาว ๆ เหลือความยาวขนไว้ประมาณ 6–10 มิลลิเมตร เหมาะกับบ้านที่ต้องการดูแลง่ายขึ้น แต่ยังอยากรักษาลักษณะพันธุ์ไว้

ตัวอย่างเช่น:

  • West Highland White Terrier (Westie)
  • Miniature Schnauzer
  • Scottish Terrier
  • Silky Terrier
  • Cocker Spaniel
  • Cavalier King Charles Spaniel
  • Japanese Chin
  • Chihuahua (ขนยาว)
  • Dachshund (ขนยาว)

**สามารถทำความสะอาดง่ายขึ้นหากเล็มรอบก้น ใต้เท้า หรือหน้าอก

3. กลุ่มที่ห้ามโกน เพราะขนสองชั้น

หมากลุ่มนี้มี “เสื้อคลุมธรรมชาติ” อยู่กับตัว ขนช่วยระบายความร้อน และกันแดด ดังนั้นการโกน เท่ากับการทำลายเกราะป้องกันของร่างกาย แนะนำให้แปรงขนทุกวัน + เล็มเฉพาะจุด (เช่น รอบก้น, ซอกนิ้ว)

ตัวอย่างหมาในกลุ่มนี้:

  • Siberian Husky, Alaskan Malamute, Samoyed
  • Golden Retriever, Labrador Retriever
  • German Shepherd, Belgian Malinois
  • Border Collie, Australian Shepherd
  • Shetland Sheepdog, Rough Collie
  • Shiba Inu, Akita Inu
  • Pomeranian, Spitz ทุกชนิด
  • Corgi (ทั้ง Pembroke & Cardigan)
  • Beagle, Dachshund (ขนสั้น)
  • Chow Chow, Great Pyrenees, Newfoundland

** หลายตัวอาจดูร้อน แต่จริง ๆ ขนช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่าโดนโกน

4. กลุ่มเทอร์เรียที่ “ตัดเพื่อความสวยงามได้” แต่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะ

ขนลวด แข็ง และมี undercoat ขนพวกนี้ต้อง “ถอนขนเก่าออกด้วยมือ” (Hand stripping) เพื่อให้ขนใหม่ขึ้นมาแข็ง สวย และอยู่ทรง การโกนจะทำให้ขนใหม่ขึ้นนิ่ม สีจืด และกลายเป็นขนแบบทั่วไป

**หากเลี้ยงทั่วไปไม่ประกวด สามารถตัดให้สั้นได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการโกนติดหนัง

ตัวอย่างหมาในกลุ่มนี้:

  • Wire Fox Terrier
  • Airedale Terrier
  • Welsh Terrier
  • Border Terrier
  • Cairn Terrier
  • Norfolk / Norwich Terrier
  • Irish Terrier
  • Sealyham Terrier
  • Dandie Dinmont Terrier

** ช่าง grooming ต้องเข้าใจรูปทรงเฉพาะสายพันธุ์ เช่น การตัดเครา ขา คอ ฯลฯ การโกนหรือตัดขนผิดวิธีไม่ใช่แค่ไม่สวย…แต่ส่งผลร้ายต่อหมาโดยตรง

⚠️ ผลเสียของการ ตัดขนสุนัข ผิดวิธี เพราะ “เสริมสวย” ไม่ได้แปลว่า “เสริมสุขภาพ” เสมอไป

1. ขนไม่งอกกลับ หรือกลับมา “ผิดรูป”

เมื่อโกนขนหมาที่มี ขนสองชั้น หรือขนลวด ขนใหม่ที่งอกกลับมาอาจจะ

  • ขึ้น เป็นหย่อม ๆ
  • หยิก กระด้าง หรือพันกันง่าย
  • ไม่ขึ้นเลย ในบางจุด (โดยเฉพาะหมาอายุมากหรือพันธุ์ขนบาง)
  • สีขนจืดลง ซีดลง ไม่เงาเหมือนเดิม

** เคสที่เจอบ่อย Pomeranian หรือ Samoyed ที่ถูกโกนจนขนไม่ขึ้นอีกเลย ต้องใส่เสื้อคลุมไปตลอดชีวิต

2. ผิวหนังบางลง เสี่ยงแดดไหม้ และโรคผิวหนัง

ขนหมา เท่ากับเป็นฉนวนกันแดด กันฝุ่น และกันแมลง ดังนั้นการโกนขนจนเกลี้ยงทำให้หมา:

  • ถูก แสง UV ทำลายผิวโดยตรง
  • ไหม้แดด จนเป็นผื่นแดง ลอก
  • คัน ผิวลอก และเกิด ภาวะแพ้สัมผัส หรือ โรคผิวหนังเรื้อรัง
  • เห็บหมัดซ่อนในรอยแผลได้ง่ายขึ้น

** บางตัวที่อยู่ในบ้านไม่มีแอร์ เมื่อไม่มีขนช่วยป้องกัน ร้อนยิ่งกว่าเดิมจนเกิดฮีทสโตรก

3. ขนเสียสมดุลการควบคุมอุณหภูมิ

หมาไม่เหมือนคน เขาไม่ระบายความร้อนผ่านผิวหนัง แต่ใช้ลิ้น หายใจ และ “ขน” เป็นตัวควบคุม

การโกนขนสองชั้น เท่ากับการทำลายกลไกธรรมชาติ หมาจะระบายความร้อนได้แย่ลง ร้อนเร็ว เหนื่อยง่าย และ เสี่ยงต่อความเครียดจากอุณหภูมิ (heat stress)

4. สูญเสียการสื่อสารและความมั่นใจ

หมาใช้ขนส่วนต่าง ๆ สื่อสาร เช่น

  • หางตั้ง = มั่นใจ
  • ขนหลังลุก = ตื่นเต้น/กลัว
  • ขนฟูหน้าอก/ขา = แสดงตัวตน

เมื่อขนถูกโกนจนหมด บางตัวรู้สึกแปลกแยก

  • ไม่กล้าเดินหรือเข้าสังคม
  • แสดงอาการซึม เงียบ ไม่วิ่ง ไม่ร่าเริง
  • บางตัวถึงขั้น เก็บตัวหรือเครียดเรื้อรัง

5. ขนพันกันง่ายและเป็นสังกะตังเมื่อขึ้นใหม่

ขนที่เคยเรียงเป็นเส้น เมื่อโดนตัดผิดชั้น จะขึ้นใหม่ ไม่เป็นทิศทาง ส่งผลให้เส้นขนพันกันง่าย เกิดสังกะตัง อับชื้น และมีกลิ่น ทำให้บางตัวที่เคยดูแลง่าย กลับกลายเป็นต้องพา grooming บ่อยกว่าเดิม

6. ปิดกั้นการรักษาโรค หรือเพิ่มความเสี่ยงในอนาคต

หมาที่เคยมีปัญหาผิวหนัง อาจต้องเปิดขนเพื่อให้สัตวแพทย์ดู แต่ถ้าโกนผิดหรือบาดผิว จะทำให้:

  • แผลหายช้า
  • เสี่ยงติดเชื้อทุติยภูมิ
  • ต้องเสียเวลารักษานานขึ้น

บางอย่าง “โกนออกไปแล้ว เอากลับมาไม่ได้”

ขนบางตัวไม่งอกอีกเลย ขนบางตัวขึ้นผิดจนต้องตัดใหม่ทุกเดือน สุขภาพผิวของหมา…ไม่ใช่สิ่งที่ควรเสี่ยงเพียงเพราะเข้าใจผิดว่า “ตัดสั้น เท่ากับเย็น”

ไม่ใช่ทุกหมาที่ควรเข้าเครื่องโกน ไม่ใช่ทุกขนที่ควรตัดเหมือนกันหมด

หมาของคุณอาจต้องการแค่แปรงขนวันละ 5 นาที มากกว่าการถูกโกน 5 มิลฯ ด้วยความหวังดีที่ไม่รู้ตัว

❤️ บทสรุป

การตัดขนหมา ไม่ใช่เรื่องของ “ทรงผม” แฟชั่นความสวยงามอย่างเดียว แต่คือเรื่องของ “ธรรมชาติและการปกป้องตัวเอง” ของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง

ขนของหมาไม่ใช่เรื่องของความเกะกะ ไม่ใช่สิ่งที่ควรตัดเพราะร้อน และไม่ใช่สิ่งที่ควรโกนเพราะเราดูแลเขาไม่สะดวก

บางพันธุ์… ตัดได้เต็มที่
บางพันธุ์… ตัดได้บางส่วน
แต่บางพันธุ์… แค่แปรงให้ดี ก็เพียงพอแล้ว

การโกนขนผิดตัว อาจทำให้ขนไม่งอกกลับ ผิวเสีย ร่างกายร้อนเร็ว หรือกระทั่งเสียบุคลิกภาพไปตลอดชีวิต

สิ่งที่หายไปจากใบมีด… อาจไม่ใช่แค่ขน แต่อาจรวมถึง ความมั่นใจ ความสามารถในการปกป้องตัวเอง
และ สิ่งที่ธรรมชาติมอบให้เขาไว้ดูแลตัวเองตั้งแต่เกิด

ก่อนจะบอกช่างว่า “โกนเลยครับ” ลองถามให้แน่ใจอีกครั้งว่า… “หมาของเราขนแบบไหน?” “เขาต้องการความเย็น หรือแค่ต้องการมือเราที่แปรงให้ทุกวัน?”

เพราะหมาไม่สามารถอธิบายอะไรกับเราได้เอง เขาฝากใจไว้กับคนที่พาเขาเข้าร้านนั้น อย่าให้การเสริมสวย… กลายเป็นการพรากสิ่งสำคัญที่สุดที่เขาควรได้รักษาไว้

บทความโดย
คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – สุนัขเป็นโรคผิวหนัง : 10 ปัญหาโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสุนัข