สำหรับใครที่เป็นมือใหม่เรื่องการเลี้ยงสัตว์ หรือกำลังหาสัตว์เลี้ยงตัวแรกให้กับเด็ก ๆ อยู่หละก็ หนูแฮมสเตอร์ ก็นับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ง่าย ดูแลไม่ยาก แถมยังขนปุยน่ารัก แค่นั่งมองพวกเขาวิ่งเล่น หรือนอนหลับอยู่ในกรงก็เพลินแล้วหละค่ะ
วันนี้ บ้านและสวน Pets จะพาไปรู้จักกับ วิธีเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ เพื่อนไซส์จิ๋วขนปุกปุยกันค่ะว่ามีวิธีเลี้ยงอย่างไร จะง่ายแบบที่ใจคิดหรือเปล่า แถมยังมีวิธีการเตรียมตัวเพื่อต้อนรับสมาชิกตัวน้อยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกันค่ะ
หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ฟันแทะที่สามารถเพาะพันธุ์ได้มากมายในบ้านเรา ราคาไม่แพง สามารถหาซื้อมาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกได้อย่างไม่ต้องลังเล หนูแฮมสเตอร์มีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกันค่ะ ที่ฮิตกันมากในช่วงแรก ๆ จะเป็นพันธุ์ไจแอนท์ เมื่อเขาโตเต็มที่จะมีขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ หลังจากที่พี่ใหญ่ไจแอนท์ทำความคุ้นชินกับตลาดบ้านเรามาพอสมควรแล้ว พันธุ์อื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กน่าทะนุถนอมก็ทะยอยออกมามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นพันธุ์โรโบ พันธุ์วินเทอร์ไวท์ และพันธุ์นอร์มอลซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเกินครึ่งของพี่ไจแอนท์ แต่ก็ปราดเปรียวและไม่เชื่องเท่า
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลี้ยงสัตว์พวกนี้ก็คือกรง ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ ถ้างบไม่มากนักก็ใช้กรงเหล็กหรือพลาสติกแบบธรรมดา ๆ แต่ถ้าอยากให้ดูแฟนซีกว่าเดิม จะเลือกใช้ชุดกรงพลาสติกสำเร็จรูปที่มีท่อให้หนูวิ่งลัดเลาะไปมาพร้อมทั้งติดเครื่องเล่นพลาสติกเพิ่มเติมดูก็ได้ เมื่อได้กรงที่ต้องการแล้วก็ต้องเลือกบริเวณที่วางให้ดี ๆ แนะนำว่าควรจะตั้งกรงไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ร้อน และไม่โดนแสงแดดส่องโดยตรง มิเช่นนั้นถ้าเกิดแดดเปลี่ยนทิศและลืมย้ายกรง แสงแดดจัด ๆ จะทำให้หนูอาจร้อน และอาจจะโดนอบจนตายได้
ส่วนวิธีการดูแลเพื่อนตัวเล็ก ๆ นี้ไม่ยุ่งยากอะไรเลย ขอเพียงแค่มีถ้วยหรือกระบอกใส่น้ำเล็ก ๆ และอาหารอย่างเมล็ดทานตะวันหรืออาหารสำเร็จรูปสำหรับ ฃหนูแฮมสเตอร์โดยเฉพาะก็ได้ เทอาหารเหล่านี้ใส่ไว้ในกรงได้เลย หิวเมื่อไรพวกมัน ก็จะเดินมากินเอง พอหมดแล้วจึงค่อยเติมใหม่ และไม่ต้องใส่เยอะมาก เพราะหนูเหล่านี้สามารถเก็บเมล็ดทานตะวันจำนวนมากไว้ในกระพุ้งแก้ม เพื่อเป็นเสบียงได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือถ้าอยากจะให้ผลไม้สสลับบ้างก็ทำได้เช่นกันหนูแฮมสเตอร์กินผลไม้ได้หลากหลาย ทั้งแอ๊ปเปิ้ล และฝรั่ง หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด ฯลฯ เพราะไม่ดีต่อสุขภาพของน้องหนูเท่าไรนัก ที่สำคัญควรจะเก็บเศษที่เหลือออกทันทีมิเช่นนั้นแล้วจะเป็นตัวล่อมดให้มารุมกัดหนูได้ง่าย ๆ หลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับเรื่องกลิ่น ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้เลี้ยงในปริมาณมาก ๆ ก็จะไม่ประสบปัญหานี้เพราะวัสดุรองพื้นกรงอย่างขี้เลื่อยนั้นจำเป็นต้อง เปลี่ยนทุกอาทิตย์เพื่อรักษาความสะอาดอยู่แล้ว ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงก็สามารถใส่ทรายให้หนูเข้าไปใช้ทำความสะอาดตัวได้ด้วย หากได้รับการดูแลที่ดีอายุขัยโดยเฉลี่ยของหนูแฮมสเตอร์จะอยู่ราว ๆ 2 – 3 ปี หนูขนาดใหญ่จะมีอายุยืนกว่าเล็กน้อยแม้อายุของหนูแฮมสเตอร์อาจดูสั้นไปนิดเมื่อเทียบกับสัตว์ใหญ่อย่างสุนัขหรือแมว แต่ก็นับว่ามากแล้วสำหรับสัตว์ตัวเล็ก ๆ
เรื่อง : ภวพล ศุภนันทนานนท์
เรียบเรียง : ออ-ร-ญา
