เมื่อถึงเวลาต้องพาน้องหมาน้องแมวไปหาหมอ คุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงมักเกิดปัญหาหนักใจ เพราะประสบการณ์การไปหาหมอครั้งแรก จะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของน้องหมาน้องแมวในครั้งถัดไป
หลายครั้งสัตว์เลี้ยงได้รับประสบการณ์ไม่พึงประสงค์ระหว่างการรักษา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมฝังใจ และต่อต้านการไปพบสัตวแพทย์ในครั้งต่อไป หรือทำให้เกิดความเครียดทุกครั้งเมื่อต้องไปพบสัตวแพทย์
ความเครียดในสัตว์เลี้ยงส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงในหลายรูปแบบ ทำให้พฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเปลี่ยนไป หรืออาจเจ็บป่วยมากขึ้นได้
ดังนั้น การช่วยฝึกน้องหมาน้องแมวก่อนการไปพบสัตวแพทย์ จะช่วยลดความเครียด และผ่อนคลายมากขึ้น ส่งเสริมให้พฤติกรรมของลูกรักสัตว์เลี้ยง เอื้อประโยชน์ต่อการรักษาของสัตวแพทย์มากขึ้น
1. ฝึกใส่สายจูง หรือฝึกให้อยู่ในกระเป๋า หรือตะกร้า สำหรับการเดินทาง
สำหรับน้องแมว ควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้ายน้องไว้ล่วงหน้า 2 – 3 วัน ก่อนไปพบสัตวแพทย์ โดยวางตะกร้า หรือกระเป๋าไว้บริเวณจุดที่แมวชอบนอนประจำ เหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน พร้อมกับเปิดฝาทิ้งไว้ และใช้ผ้าห่มหรือของเล่นที่มีกลิ่นแมววางไว้ด้านใน เพื่อให้แมวค่อย ๆ ทำความคุ้นเคย
เมื่อแมวคุ้นเคยกับตะกร้า หรือกระเป๋าแมวจะรู้สึกปลอดภัยทางอารมณ์ และช่วยสร้างความอบอุ่นใจเมื่อต้องเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
เลือกขนาดของตะกร้า และกระเป๋าให้มีขนาดใหญ่กว่าตัวแมวเล็กน้อย และควรมีฝาเปิดด้านบน เพื่อสร้างความสบายตัว และนำตัวแมวออกมาได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่อาจปูแผ่นรองซับไว้เสมอ ในกรณีที่แมวอาจขับถ่ายหรืออาเจียน
สำหรับน้องหมา การฝึกใส่สายจูงตั้งแต่อายุยังน้อยคือกุญแจสำคัญ ในช่วงแรก น้องหมาอาจมีพฤติกรรมต่อต้านให้ค่อย ๆ ฝึกด้วยการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก อย่างการให้รางวัลเมื่อน้องหมาสามารถอยู่ในสายจูงได้ และไม่ให้รางวัลเมื่อน้องหมาเกิดพฤติกรรมต่อต้านเมื่ออยู่ในสายจูง ในฝั่งของคุณพ่อคุณแม่ ความอดทนคือกลไกที่ทำให้การฝึกน้องหมาประสบความสำเร็จ
เลือกสายจูงที่มีความยาวเหมาะสม ไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป และใช้สายจูงทุกครั้งเมื่อพาน้องออกนอกบ้าน เพื่อให้น้องเกิดความคุ้นเคย และเป็นการรักษาพฤติกรรมที่ดีเมื่อน้องหมาอยู่ในสายจูง
2. ฝึกให้สัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน
ด้วยพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ในยุคปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงจึงได้รับการดูแลอยู่ในบ้านที่มีความปลอดภัยตลอดเวลา
ดังนั้น เมื่อสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้านในครั้งแรก พวกเขาจึงเกิดความวิตกกังวล และเกิดความเครียดตามมา ซึ่งส่งผลให้เกิดพฤติกรรมฝังใจของสัตว์เลี้ยง
คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มพาลูกรักสัตว์เลี้ยงออกจากบ้านโดยยังไม่ต้องใช้ยานพาหนะ เริ่มจากบริเวณใกล้ ๆ บ้าน ครั้งละ 5 – 10 นาที หลังจากนั้นเพิ่มระยะเวลา และระยะทางขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกด้วยการให้รางวัล
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกรักสัตว์เลี้ยงให้คุ้นชินกับการเดินทางด้วยยานพาหนะ เริ่มจากพาน้องขึ้นรถที่จอดอยู่นิ่ง ๆ และสังเกตพฤติกรรมของน้อง ๆ ว่า เกิดความวิตกกังวล หรือไม่
จากนั้น เมื่อน้อง ๆ ฝึกขึ้นรถจนไม่แสดงความวิตกกังวลแล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่ขับรถออกจากบ้าน ไปยังพื้นที่บริเวณรอบ ๆ และสังเกตพฤติกรรมอีกครั้ง เมื่อน้อ งๆ ไม่แสดงความวิตกกังวล ให้รางวัลน้องด้วยขนมสุนัข หรือขนมแมวเลีย เพื่อสร้างแรงจูงใจเชิงบวก
การฝึกลักษณะนี้จะช่วยลดความตื่นกลัว เมื่อน้องๆ ต้องออกไปเจอสัตว์เลี้ยง และคุณพ่อคุณแม่จากบ้านอื่นๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในสถานพยาบาลสัตว์
3. ฝึกการไปพบสัตวแพทย์
เมื่อไปถึงสถานพยาบาลสัตว์เลี้ยงครั้งแรก อาจเป็นการตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น ที่ยังไม่สร้างประสบการณ์ความเจ็บปวด และขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์เกี่ยวกับแนวทางการเลี้ยงดูลูกรักสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างสัตว์เลี้ยงกับสัตวแพทย์
การพาน้องหมาน้องแมวไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ นอกเหนือจากการพาไปรักษา เราอาจจะพาน้องไปซื้ออาหาร ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ยาหยอดเห็บหมัดที่โรงพยาบาลแทน ก็จะทำให้น้องรู้สึกคุ้นเคยกับโรงพยาบาลมากขึ้น
ซึ่งเราควรพาน้องหมาน้องแมวไปหาหมอตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งฉีควัคซีนเป็นประจำทุกปี เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องในระยะยาว ซึ่งในขณะนี้ทางโรยัล คานินมีแจกคูปองส่วนลดวัคซีนมูลค่า 100 บาท ให้ฟรี ๆ เพียงสมัครแอปพลิเคชัน Royal Canin Club พร้อมกรอกข้อมูลสัตว์เลี้ยง คูปองส่วนลดวัคซีนจะถูกส่งให้ในเช้าวันถัดไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.royalcanin.com/th/about-us/news/vaccine-coupon-2023
4. วางแผนการไปพบสัตวแพทย์
คุณพ่อคุณแม่ควรนัดกับสัตวแพทย์ล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการรอตรวจที่นานเกินไป เมื่อไปถึงสถานพยาบาลสัตว์เลี้ยง ให้น้องอยู่ในตะกร้า หรือกรงสำหรับการเดินทาง และวางไว้บนเก้าอี้ข้างตัว
ในกรณีของน้องแมว ระหว่างที่นั่งรอตรวจ คุณพ่อคุณแม่อาจใช้ผ้าผืนใหญ่คลุมตะกร้าไว้ ช่วยบดบังสายตาของน้องแมวจากความพลุกพล่าน และช่วยลดความวิตกกังวลของน้องแมวได้
5. เลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่เป็นมิตรต่อแมว
เนื่องจากแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลง และเครียดได้ง่าย สถานพยาบาลหลายแห่งจึงพยายามออกแบบ และปรับปรุงพื้นที่ ให้เป็นมิตรต่อแมวมากขึ้น เช่น สถานพยาบาลสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือแยกโซนสำหรับแมวโดยเฉพาะ เป็นต้น
Cat Friendly Clinic หรือสถานพยาบาลสัตว์สำหรับแมวโดยเฉพาะ ผ่านตามมาตรฐาน International Society of Feline Medicine เป็นรางวัลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
รางวัลนี้แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Gold level, Silver level และ Bronze level โรงพยาบาลสัตว์ที่ได้รับรางวัลจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดความเครียดของแมวเมื่อต้องมาโรงพยาบาล มีความรู้และความเข้าใจในธรรมชาติของแมว มีการให้บริการที่ครบวงจรสำหรับแมว
ยกตัวอย่างบริการ เช่น การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดในแมว บริการผ่าตัดทำหมัน ให้คำแนะนำเรื่องการเลี้ยงดู และด้านโภชณาการที่เหมาะสมตามวัย
มีการจัดการทั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้และมีความเข้าใจแมว
รวมถึงวิธีการจับแมวที่ถูกต้อง มีสถานที่รองรับตอบสนองความต้องการของแมว มีแยกพื้นที่รอตรวจ ห้องตรวจ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับแมว
ดูรายชื่อโรงพยาบาลสัตว์ Cat Friendly Clinic เพิ่มเติมได้ที่ https://catfriendlyclinic.org/cat-owners/find-a-clinic/search/?lat=15.870032&lng=100.992541&address=Thailand
6. ให้รางวัล กำลังใจ และคำชม
คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยให้กำลังใจกับลูกรักสัตว์เลี้ยงได้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการพบสัตวแพทย์ ทั้งน้องหมาและน้องแมวสามารถรับรู้อารมณ์จากเจ้าของได้ผ่านโทนเสียงของคุณพ่อคุณแม่
เลือกใช้โทนเสียงที่อ่อนโยนนุ่มนวล พร้อมกับกอด หรือลูบหัวเบา ๆ และปล่อยให้น้องหมาน้องแมว ใช้เวลาส่วนตัวในพื้นที่ประจำภายในบ้าน จะช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายได้ง่ายขึ้น
ในบางกรณี อาจให้ขนมเป็นรางวัลหลังจากพบสัตวแพทย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นการกระตุ้นแรงจูงใจเชิงบวกให้พวกเขารู้สึกว่า ประสบการณ์การไปพบสัตวแพทย์ไม่ได้เลวร้าย
เพราะสัตว์ก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเรา การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงจะช่วยให้ไม่กลัวและไม่เครียด และยังทำให้รู้สึกสบายใจเมื่อต้องไปพบสัตวแพทย์ในอนาคต
เมื่อสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพจิตใจที่ดีก็จะส่งผลให้มีสุขภาพกายที่ดีตามไปด้วย และช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น
โรยัล คานิน สนับสนุนให้คุณพร้อมเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบ เริ่มง่ายๆด้วยการพาน้องแมวน้องหมาไปหาหมอ หรือ Take Your Pet To The Vet เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะช่วยกันสร้างสังคมสัตว์เลี้ยงสุขภาพดี ส่งต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสุนัขและแมวที่คุณรัก เพื่อให้พวกเขาอยู่กับเราไปได้นาน ๆ