สุนัขเป็นโรคผิวหนัง, วิธีรักษา, โรคผิวหนังในสุนัข

สุนัขเป็นโรคผิวหนัง : 10 ปัญหาโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสุนัข

สุนัขเป็นโรคผิวหนัง เป็นหนึ่งในปัญหาด้านสุขภาพของสุนัขที่พบได้บ่อย และเจ้าของหลายท่านก็กำลังมองหาสาเหตุ และวิธีการรักษาที่เหมาะสม

สุนัขเป็นโรคผิวหนัง หรือเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบผิวหนัง ได้จากหลายสาเหตุ และเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคที่สัตวแพทย์กล่าวว่า พบได้บ่อยในสุนัข ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสุนัข จึงช่วยให้เจ้าของสามารถจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง

อาการที่กำลังบ่งบอกว่า สุนัขกำลังเผชิญกับปัญหาโรคผิวหนัง

สุนัขที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมักไม่มีอาการของโรคต่าง ๆ เกิดขึ้นจนสังเกตได้ บนผิวหนังของสุนัขก็เช่นกัน ผิวหนังและเส้นขนของสุนัขที่มีสุขภาพดี ควรมีสัมผัสที่นุ่มลื่น ไม่มีตุ่ม ไม่ลักษณะผิวหนังแห้งจนลอก หรือไม่มีสีแดง โดยสุนัขที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังมักแสดงอาการต่อไปนี้

  • ผิวหนังลอกเป็นเกล็ด
  • มีรอยแดงเป็นวง หรือเป็นจุด
  • ขนร่วง
  • มีกลิ่นเหม็น
  • มีอาการคัน
  • ผิวมัน
  • ตกสะเก็ด
  • มีตุ่มผื่น
  • เป็นแผลพุพอง
สุนัขเป็นโรคผิวหนัง, วิธีรักษา, โรคผิวหนังในสุนัข

10 โรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสุนัข

1. โรคภูมิแพ้

อาการแพ้สิ่งต่าง ๆ เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยบนผิวหนังของสุนัข ตั้งแต่การแพ้ปรสิต อย่างเห็บและหมัด แพ้อาการ ไปจนถึงสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่น เชื้อรา และสารเคมี เป็นต้น

เมื่อสุนัขสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น หรือสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ จะทำให้กลไกในร่างกายต่อต้าน และเกิดอาการคันอย่างรุนแรงตามมา โดยการรักษาเบื้องต้น เจ้าของต้องรีบหาสาเหตุของการแพ้ให้พบก่อน และพยายามไม่ให้สุนัขไปสัมผัส หรือได้รับสิ่งกระตุ้นอาการแพ้ และถ้ามีอาการแพ้รุนแรง ควรรีบไปพบสัตวแพทย์

สุนัขเป็นโรคผิวหนัง, วิธีรักษา, โรคผิวหนังในสุนัข

2. ปรสิตภายนอก

ปรสิตภายนอกที่พบได้บ่อยในสุนัขได้แก่ เห็บ หมัด และไร โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้อน และเอื้อต่อการเจริญเติบโตของปรสิตเหล่านี้ได้ตลอดทั้งปี สุนัขที่มีปรสิตภายนอกตามผิวหนัง จะเกิดอาการคัน และเกา จนบางครั้งผิวหนังผลอก ทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบตามมา การรักษาทำได้โดยใช้ยากำจัดเห็บและหมัดคุณภาพดีอย่างสม่ำเสมอ หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

3. การติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง

การติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังสุนัข สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และสามารถเกิดได้ทั้งช่วงสุขภาแข็งแรง และอ่อนแอ อาการส่วนใหญ่ที่แสดงว่า สุนัขกำลังติดเชื้อแบคทีเรีย คือ มีรอยแดงเฉพาะจุด มีแผลถลอก ตุ่ม หรือน้ำหนอง และขนร่วงในบริเวณที่ติดเชื้อ การรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ บางครั้ง สัตวแพทย์อาจรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือถ้าอาการไม่รุนแรงมาก อาจใช้แชมพูทางการแพทย์ได้ ดังนั้น เจ้าของควรพาไปพบสัตวแพทย์ก่อน เพื่อประเมินการรักษา

4. การติดเชื้อจากยีสต์

การติดเชื้อยีสต์ที่ผิวหนัง มักเกิดขึ้นบนบริเซรที่อับชื้นได้ง่าย เช่น ใบหู ซอกนิ้วเท้า และข้อพับต่าง ๆ เมื่อสุนัขติดเชื้อยีสต์จะมีกลิ่นเหม็น เกิดรอยดำคล้ำ และผิวหนังบริเวณนั้นหนาขึ้น การรักษาสามารถใช้ยาทา ทำความสะอาดผิวหนังที่ติดเชื้อให้แห้งและสะอาด บางครั้งสัตวแพทย์อาจรักษาโดยการให้ยากิน

5. การติดเชื้อราบนผิวหนัง

โรคที่เกิดจากเชื้อราผิวหนัง จะเกิดเป็นวงกลมสีแดงขึ้นบริเวณผิวหนัง และมีสะเก็ด ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือบางกรณีเกิดความคันอย่างรุนแรง การรักษาสามารถใช้ยาทาภายนอก เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

สุนัขเป็นโรคผิวหนัง, วิธีรักษา, โรคผิวหนังในสุนัข

6. ผิวแห้ง

เมื่อผิวหนังของสุนัขขาดความชุ่มชื้น มักจะทำให้ผิวหนังแห้ง และลอกเป็นขุย โดยส่วนใหญ่มักเกิดกับสุนัขที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง หรือบางกรณีอาจกำลังหมายถึง สุนัขได้รับอาหารและโภชนาการไม่เพียงพอ โดยทั่วไปแล้ว การรักษาอาการผิวแห้งทำได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวของสุนัข ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น และ

7. ขนร่วง

อาการขนร่วงของสุนัขสามารถเกิดได้ทั้งตัว หรือขนร่วงเป็นหย่อม ๆ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การแพ้สารกระตุ้นต่าง ๆ ไปจนถึงโรคทางพันธุกรรม ดังนั้น การรักษาส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องไปพาสุนัขไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ เพื่อวินิจฉัย และวางแผนการรักษาอย่างละเอียด

8. มะเร็งผิวหนัง

มะเร็งผิวหนังมรสุนัข ในระยะแรกอาจทำให้สุนัขขนร่วง ผิวหนังเป็นแผลตกสะเก็ด ตามมาด้วยแผลพุพอง และมีก้อนหรือตุ่มบนผิวหนัง หากเจ้าของพบว่า สุนัขเกิดบาดแผลบนผิวหนังที่รักษาไม่หาย และเป็นเรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์ ควรนำสุนัขไปสัตวแพทย์ ถ้าหากสุนัขเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ส่วนใหญ่สัตวแพทย์จะรักษาด้วยการฉายรังสี หรือเคมีบำบัด

9. รูขุมขนอักเสบ

เป็นภาวะที่รูขุมขนของน้องหมาเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อทางผิวหนัง อาการที่พบได้คือ มีแผลพุพอง รอยแดง และสะเก็ดแผลบนผิวหนัง หากพบว่ามีผิวหนังสุนัขอักเสบ หรือรูขุมขนอักเสบ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

10. โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

คล้ายโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในมนุษย์ โรคนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ ตัวอย่างของโรคภูมิค้มกันบกพร่องในสุนัข ได้แก่ เปมฟิกัส และลูปัส โดยสุนัขจะมีอาการขนร่วงตามแนวจมูกและใบหน้า และเกิดแผลเปิด หรือแผลพุพอง ซึ่งการรักษา สัตวแพทย์จะให้ยากดภูมิคุ้มกัน และแนะนำวิธีดูแลสุนัข ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ

ความผิดปกติบนผิวหนังของสุนัขเป็นอาการที่แสดงออกเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงรุนแรง เจ้าของควรสังเกตสุขภาพของผิวหนัง และเส้นขนสุนัข เป็นประจำทุกวัน ด้วยการลูบคลำไปตามลำตัว สังเกตรอยแดง ผดผื่น หรือใช้หวีแปรงขนให้สุนัขสำหรับสายพันธุ์ขนยาว รวมไปถึงใส่ใจเรื่องโภชนาการให้สุนัขได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ

หากพบความผิดปกติเกิดขึ้น และไม่ทรายสาเหตุที่ชัดเจน ให้พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพื่อการรักษาอาการก่อนจะลุกลามเป็นปัญหาด้านสุขภาพ

ข้อมูลอ้างอิง

petMD – 10 Most Common Dog Skin Issues: How To Spot, Diagnose, and Treat

Animal trust – dog skin allergies


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ: สุนัขขนร่วง มากกว่าปกติ เกิดจากอะไร