สุนัขตด บางครั้งก็อาจเป็นเรื่องน่าขำสำหรับเจ้าของ แต่บางครั้งการแสดงอาการร่วมบางอย่าง อาจกำลังบอกเราถึงปัญหาสุขภาพของพวกเขาได้
จากประสบการณ์ที่อยู่กับสุนัขมากว่าสิบปี เราผ่านมาหมดแล้ว ทั้งหัวเราะกับ สุนัขตด ดังปังเหมือนปืนกลของหมาซน ๆ และน้ำตาซึมกับตดที่เป็นสัญญาณของโรคร้ายที่เราเคยมองข้าม
สุนัขไม่สามารถบอกเราด้วยคำพูดได้ เขาจึงใช้ร่างกายสื่อ “ภาษา” ให้เราได้รู้ ทั้งกลิ่น เสียง ความถี่ — ทั้งหมดนี้เล่าเรื่องร่างกายเขาได้มากกว่าที่คิด

ทำไม สุนัขถึงตด บ่อย
1. นิสัยกินเร็ว
เช่น บูลเทอเรียที่บ้านเรา กินเหมือนมีใครไล่ตามอยู่ตลอด กลืนอาหารพร้อมอากาศเยอะ ทำให้เกิดแก๊สมาก จึงตดบ่อย
2. พันธุ์จมูกสั้น (บูลด็อก, ปั๊ก, เฟรนช์บูลด็อก)
หายใจพร้อมกลืนลมแม้ตอนปกติ ยิ่งกินอาหารก็ยิ่งกลืนลมเพิ่ม
3. อาหารไม่ถูกกับระบบย่อย
- อาหารไขมันสูง
- โปรตีนคุณภาพต่ำ
- ผักและถั่วบางชนิด เช่น บร็อคโคลี, กะหล่ำปลี และถั่วเหลือง เป็นต้น
4. การเปลี่ยนอาหารเร็วเกินไป
ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้ยังไม่ทันปรับตัว
5. โรคในระบบย่อย
แพ้อาหาร, พยาธิในลำไส้, ลำไส้อักเสบ

วิธีสังเกตว่าตดเป็นเรื่องปกติหรือไม่
1. สังเกตความถี่
- ปกติ: ตดเป็นครั้งคราว วันละไม่กี่ครั้ง
- น่ากังวล: ตดแทบทุกชั่วโมง หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
2. สังเกตกลิ่น
- ปกติ: กลิ่นแรงเล็กน้อย อยู่ไม่นาน
- น่ากังวล: กลิ่นแรงฉุนผิดปกติ จนคนในบ้านสะดุ้งทุกครั้ง
3. สังเกตอาการร่วม
- ท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว
- อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด
- ซึม ไม่เล่นเหมือนปกติ
4. สังเกตเวลาที่ตด
- ถ้าตดบ่อยเฉพาะหลังอาหาร อาจเกี่ยวกับอาหารหรือการกิน
- ถ้าตดทั้งวันแม้ไม่ได้กิน อาจมีปัญหาในระบบย่อยลึกกว่านั้น
วิธีปฏิบัติลดการตดของสุนัขหมา
1. จัดการเรื่องอาหาร
- เลือกโปรตีนคุณภาพสูง ย่อยง่าย (ไก่ลอกหนัง, ปลา, ไข่ต้ม)
- ลดอาหารไขมันสูง และเลี่ยงผัก/ถั่วที่ก่อแก๊ส
- ค่อย ๆ เปลี่ยนอาหารใหม่ ใช้เวลาอย่างน้อย 7–10 วัน
2. ลดการกลืนลม
- ใช้จานชะลอกิน (Slow feeder)
- แบ่งอาหารเป็น 2–3 มื้อเล็ก
- ไม่ให้แข่งกินกับหมาตัวอื่น
3. ออกกำลังกายหลังมื้อ
- เดินช้า ๆ 5–10 นาที หลังมื้อหลัก
- หลีกเลี่ยงการวิ่งหรือเล่นแรงทันทีหลังอาหาร
4. เสริมจุลินทรีย์ดี
- โปรไบโอติกสำหรับสุนัข (ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้)
- ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดการเกิดแก๊ส
5. จดบันทึก
- บันทึกชนิดอาหาร เวลากิน อาการหลังมื้อ
- ใช้เป็นข้อมูลบอกสัตวแพทย์ได้อย่างชัดเจน

สุนัขตด แบบไหน ที่ต้องพาไปหาหมอทันที
- ตดบ่อย และมีอาการร่วมกับท้องเสีย หรืออาเจียน ต่อเนื่องเกิน 24 ชั่วโมง
- น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
- มีเลือดหรือเมือกในอุจจาระ
- ซึม ไม่กินน้ำ ไม่กินอาหาร
- ท้องป่องตึงผิดปกติ
บทสรุปเรื่อง สุนัขตด
สุนัขตดไม่ใช่เรื่องน่าขำขันอย่างเดียว แต่คือสัญญาณที่เจ้าของต้องอ่านให้ขาด ถ้าเป็นเรื่องธรรมชาติ ก็ปรับอาหารและพฤติกรรมการกินได้ แต่ถ้ามีอาการผิดปกติร่วม — อย่ารอ อย่าเดา ให้สัตวแพทย์ช่วยดูตั้งแต่แรก
เพราะสุดท้าย…สิ่งที่หมาต้องการไม่ใช่บ้านที่ไร้กลิ่น แต่คือบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก และเจ้าของที่พร้อมปกป้องเขาทุกครั้งที่เขากำลังบอกว่า “ฉันไม่สบาย”
บทความโดย
คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – การฝึกลูกหมาขับถ่ายให้เป็นที่ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน
