การฝึกลูกหมาขับถ่ายให้เป็นที่ คือการฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้นของการใช้ชีวิตร่วมกัน — เพราะจุดเริ่มต้นของระเบียบ… คือความเข้าใจ ไม่ใช่เสียงดุ
คำนำ — แด่เจ้าของมือใหม่ที่กำลังงงกับ การฝึกลูกหมาขับถ่ายให้เป็นที่
จากคำถามในกล่องข้อความที่ว่า …
“น้องหมาเพิ่งรับมาไม่กี่วันค่ะ ทางฟาร์มบอกว่าฝึกให้บ้างแล้ว แต่พอมาอยู่บ้านเรา… ฉี่มั่วเลยค่ะ ทั้งเตียง ทั้งพรม ทั้งหน้าห้องน้ำ”
“ตอนแรกนึกว่าเขาลืม… แต่พอลองจับจังหวะดูก็ยังไม่ดีขึ้น เลยไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นยังไงดี”
นี่ไม่ใช่คำถามที่แปลกเลยครับ แม้จะเป็นลูกหมาที่เคยฝึกพื้นฐานมาบ้างจากทางฟาร์ม แต่เมื่อเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนกลิ่น เปลี่ยนจังหวะ สำหรับเขาแล้ว… ทุกอย่างคือของใหม่ที่ยังไม่แน่ใจ
เขาไม่ได้ดื้อ…แค่ยังไม่รู้ว่า “ตรงไหนคือที่ของเขา”
บทความนี้จะพาเราค่อย ๆ เข้าใจ วางแผน และสร้างวินัย แบบไม่ต้องใช้เสียงดุ ไม่ต้องท้อ และไม่ต้องรีบครับ

เริ่มจากความเข้าใจก่อน: ลูกหมายังไม่รู้… และเขาก็ยังควบคุมไม่เก่ง
- ลูกหมามักจะขับถ่ายหลังตื่นนอน หลังเล่น หลังอาหาร และก่อนนอน
- พวกเขายังควบคุมกระเพาะปัสสาวะไม่ได้เต็มที่ จึงฉี่บ่อย และไม่แม่นจังหวะ
- การที่เขาเคยฉี่ในฟาร์ม หรือบนแผ่นรองฉี่เดิม ไม่ได้แปลว่าเขารู้ว่าพรมหน้าห้องเราไม่ใช่ที่ฉี่
เราต้องช่วยเขา “จับจังหวะ” และ “ชี้จุด” ให้ชัดเจน…ซ้ำ ๆ อย่างใจเย็น
การฝึกลูกหมาขับถ่ายให้เป็นที่ อย่างละเอียด (ใช้ได้ทั้งฉี่และอึ)
1. กำหนด “ที่ฉี่” ให้ชัดเจน
🌱 เริ่มต้นด้วย “จุดเดียว” ก่อนอื่น คุณต้องเลือก “ที่สำหรับขับถ่าย” ให้ชัดเจนเพียง ‘จุดเดียว’ จะเป็นมุมห้อง ห้องน้ำสัตว์เลี้ยง หรือบริเวณนอกบ้านที่ปลอดภัยก็ได้ แต่ห้ามสลับจุดเด็ดขาดในช่วงฝึกใหม่ เพราะจะทำให้เขาสับสน
- ถ้าฝึกในบ้าน: ใช้แผ่นรองฉี่ ห้องน้ำสุนัข หรือพื้นล้างง่ายเฉพาะจุด
- ถ้าฝึกนอกบ้าน: พื้นดิน หญ้า หรือมุมปลอดภัยนอกบ้าน
ห้ามสลับหลายจุดช่วงฝึก ให้ใช้แค่ จุดเดียว ก่อนจนเขาจำได้
2. จับจังหวะหมาให้อยู่หมัด
⏰ จับจังหวะที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นหลังตื่นนอน หลังอาหารทุกมื้อ หลังเล่น และก่อนนอน คือช่วงเวลาทองที่ลูกหมามักจะขับถ่ายแน่นอน เราจึงควรพาเขาไปยังจุดที่กำหนดไว้ทุกครั้ง โดยใช้คำพูดเดิม ๆ เช่น
“ไปฉี่” หรือ “อึตรงนี้”
เสียงและคำพูดซ้ำ ๆ เหล่านี้จะค่อย ๆ ฝังในสมองเขา
จนในที่สุด เขาจะเดินไปยังจุดนั้นด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องบอก
พาเขาไปที่ฉี่ทันทีหลัง: ตื่นนอน กินอาหาร เล่น งีบ และก่อนนอน
ใช้คำพูดประจำเช่น “ไปฉี่” เพื่อฝังคำสั่งไว้ในสมอง

3. เมื่อฉี่ถูกที่ — ชมทันที
🌟 ถ้าทำถูก…ต้องชมให้ถูกจังหวะ
เมื่อเขาฉี่หรืออึถูกที่ ต้องชมทันที ไม่ใช่หลังจากเสร็จแล้วเดินกลับมา เสียงชื่นชมเบา ๆ อย่าง “เก่งมาก!” หรือ “ดีมากเลยลูก!” ควรมาคู่กับรอยยิ้ม การลูบตัว หรือขนมคำเล็ก ๆ เพื่อให้เขาเชื่อมโยง “พฤติกรรมถูก” กับ “ความรู้สึกดี”
ชมด้วยน้ำเสียงดีใจ “เก่งมากลูก!” หรือ “ดีมากเลย!” พร้อมลูบตัวหรือให้ขนม
ต้องชมระหว่างหรือทันทีที่เขาทำธุระ ไม่ใช่หลังจากเดินออกมาแล้ว
5. ถ้าฉี่ผิดที่ — แก้โดยไม่ดุ
🧽 ถ้าฉี่ผิด…อย่าดุ ให้รีบแก้
หมาไม่ได้ตั้งใจจะทำผิด เขาแค่ไม่เข้าใจว่าอะไรคือผิด หากเขาฉี่ผิดที่ อย่าดุ อย่าจ้องตาแรง ๆ และห้ามเอาหน้าเขาไปจ่อฉี่เด็ดขาด ให้รีบทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำยากำจัดกลิ่น และพาเขาไปยังจุดที่ถูกต้องในทันที แม้จะฉี่เสร็จไปแล้ว
สิ่งสำคัญคือ…ไม่ทำให้เขารู้สึก “กลัวการขับถ่าย” เพราะจะยิ่งแย่ลง
- อย่าดุ อย่าตะคอก อย่าเอาหน้าเขาไปจ่อฉี่
- เช็ดคราบให้สะอาด และใช้สเปรย์กำจัดกลิ่น
- พาเขาไปจุดที่ถูกต้อง แล้วชมถ้าเขาทำถูกในรอบถัดไป
6. สร้างกิจวัตรขับถ่าย
📆 เปลี่ยนเป็นกิจวัตร
การฝึกที่ได้ผลที่สุด คือการเปลี่ยน “สิ่งที่เขายังไม่แน่ใจ” ให้กลายเป็น “สิ่งที่เขาทำจนชิน” หากคุณสามารถพาเขาไปฉี่ตอนเช้า หลังอาหารทุกมื้อ และก่อนนอนอย่างตรงเวลา เขาจะค่อย ๆ สร้างวงจรขับถ่ายที่แน่นอน และเมื่อเขารู้ว่าคุณพาไปตรงเวลาเสมอ เขาก็จะรอได้มากขึ้น
คุณอาจเริ่มจากการจดบันทึกเป็นตารางในสัปดาห์แรก เพื่อดูว่าเขาฉี่/อึช่วงไหน แล้วปรับจังหวะฝึกให้แม่นยำขึ้น
ทำให้เขาคุ้นกับการฉี่เวลาเดิมทุกวัน เช่น เช้า 7 โมง หลังอาหาร 9 โมง เย็น 6 โมง ก่อนนอน 3 ทุ่ม
ใช้ “ตารางขับถ่าย” ในสัปดาห์แรก จะช่วยให้เราเข้าใจจังหวะของลูกหมาแต่ละตัวได้ดีขึ้น

🏡 ฝึกในบ้าน VS ฝึกนอกบ้าน
บ้านที่ดีไม่ใช่บ้านที่ไม่มีฉี่ผิดที่… แต่คือบ้านที่เข้าใจกัน
ลองนึกถึงเช้าแรกของลูกหมาตัวน้อย… คุณปูแผ่นรองฉี่ไว้ตรงมุมห้อง เปิดม่านให้แสงธรรมชาติลอดเข้ามา พาเขาไปมุมเดิมทุกเช้า พร้อมเสียงนุ่มว่า “ไปฉี่นะลูก” เขาดม ๆ แล้วย่อตัวลงอย่างมั่นใจ คุณชมเขาด้วยรอยยิ้ม
นั่นคือ “ฝึกในบ้าน” — เหมาะกับลูกหมา บ้านไม่มีสนาม หรือเจ้าของอยู่คอนโด ข้อดีคือไม่ต้องฝ่าฝน ไม่ต้องออกกลางดึก แต่ต้องสะอาดและเป๊ะเรื่องจุด
อีกภาพหนึ่ง…
คุณถือสายจูง พาหมาออกจากบ้านตอนเช้า
เขาเดินดมมาที่จุดโปรดใต้ต้นไม้ ยกขาอย่างมั่นใจ คุณยิ้ม ชมเบา ๆ แล้วเดินเล่นต่อ
นั่นคือ “ฝึกนอกบ้าน” — เหมาะกับหมาโต และเจ้าของที่มีเวลา
ข้อดีคือเรียนรู้ระเบียบเวลา แต่ต้องตรงเวลา และฝึกสม่ำเสมอแม้ฝนตก
แล้วคุณล่ะ…บ้านของคุณเหมาะกับแบบไหน?
ไม่ต้องรีบเลือกให้ถูก แค่เลือกให้เหมาะกับคุณและหมา…แล้วค่อย ๆ ไปด้วยกัน
ปัญหาที่พบบ่อย
- ลูกหมาเคยฉี่ถูก แต่พอเปลี่ยนบ้าน กลับฉี่มั่วอีก เพราะกลิ่นและสภาพแวดล้อมใหม่ต้องเริ่มฝึกใหม่
- อยู่ดี ๆ หมากลับมาฉี่ผิดที่ อาจมีหมาใหม่เข้าบ้าน เขาเครียด หรือป่วยจนควบคุมไม่ได้
- ฉี่ผิดที่ซ้ำ ๆ ลองตรวจร่างกาย และกลับมาเริ่มจับจังหวะใหม่แบบใจเย็น
การเรียนรู้การขับถ่ายของลูกหมา: เริ่มต้นตั้งแต่ยังลืมตาไม่ขึ้น
ตั้งแต่ แรกเกิดถึง 3 สัปดาห์ ลูกหมายังไม่สามารถขับถ่ายเองได้ตามธรรมชาติ แม่สุนัขจะใช้ลิ้นเลียบริเวณอวัยวะเพศและรูทวาร เพื่อกระตุ้นให้ลูกหมาฉี่และอึ นี่คือสัญชาตญาณที่ทำให้ลูกหมาเริ่มเรียนรู้ว่า “หลังมื้ออาหาร = เวลาขับถ่าย”
เมื่อเข้าสู่ช่วง 3–4 สัปดาห์ ลูกหมาเริ่มเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ระบบประสาทเริ่มพัฒนา เขาจะเริ่มฉี่และอึเองได้ โดยอัตโนมัติหลังตื่นนอนหรือกินอาหาร แต่ยังควบคุมไม่ได้เลย ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ความสามารถในการกั้นอึ-ฉี่ของลูกหมา… เติบโตไปพร้อมวัย
การควบคุมการขับถ่ายของหมา ไม่ได้เกิดจากความจำดี หรือการรู้ว่า “ตรงไหนถูก-ตรงไหนผิด” อย่างเดียว แต่มันคือเรื่องของ “ร่างกายภายใน” ที่ค่อย ๆ เติบโตไปตามวัย คล้ายกับเด็กทารกที่ยังไม่สามารถกลั้นฉี่เองได้ ลูกหมาเองก็ต้องใช้เวลา … กว่าที่กระเพาะปัสสาวะจะขยายตัวพอ กว่าที่กล้ามเนื้อหูรูดจะเริ่มแข็งแรง และกว่าที่สมองจะเริ่มสั่งการให้รอ…แม้จะปวด

ลองนึกภาพ…
ลูกหมาวัย 2 เดือน ตัวกลม ๆ ขาสั้น ๆ วิ่งเล่นอยู่บนพรม ทันทีที่กินข้าวเสร็จ เขาก็นั่งฉี่ตรงนั้นเลย… แบบไม่มีทีท่าเตือน ไม่ใช่เพราะดื้อ แต่เพราะร่างกายเขายัง “ไม่สามารถบอกตัวเองให้รอก่อน” ได้เลย
ในช่วงวัยนี้ เขากั้นฉี่ได้แค่ ราว 2 ชั่วโมง เท่านั้น ถ้าเราหวังว่าเขาจะรอไหวตอนที่เราประชุม หรือออกไปซื้อของครึ่งวัน… นั่นก็เท่ากับเรากำลัง “ตั้งโจทย์ที่เกินวัย” ให้เขาทำ
เมื่อเขาโตขึ้นเดือนละนิด… ความสามารถในการกลั้นก็เพิ่มขึ้นเดือนละชั่วโมง
โดยเฉลี่ยเด็กน้อยวัย 3 เดือน เริ่มกั้นได้ราว 3 ชั่วโมง วัย 4 เดือน กั้นได้ประมาณ 4 ชั่วโมง และเมื่อเข้าสู่ช่วง 6 เดือนขึ้นไป เขาจะเริ่มสามารถกลั้นได้นานพอที่จะนอนกลางคืนยาว ๆ โดยไม่ปวดฉี่กลางดึก
หมาโตเต็มวัย ส่วนใหญ่สามารถกลั้นฉี่ได้ราว 8–10 ชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้น… ก็ไม่ควรปล่อยให้เขารอนานทุกวัน เพราะการกลั้นนานเกินไปจะทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบได้ เหมือนคนเราที่กลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ก็ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน
ดังนั้น… เมื่อเรารู้ว่า “การฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่” ต้องใช้เวลา “พอ ๆ กับที่ร่างกายเขาเติบโต” เราก็จะไม่กดดันเขาเกินไป ไม่คาดหวังเกินวัย แต่จะค่อย ๆ พาเขาไปเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ

🌿 สูตรจำง่าย
“อายุ (เดือน) ≈ ชั่วโมงที่กลั้นได้” เช่น หมา 3 เดือน กลั้นได้ 3 ชั่วโมง หมา 6 เดือน กลั้นได้ 6 ชั่วโมง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการกั้นขับถ่าย
1. ขนาดตัว
สุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิวาวา หรือพูเดิ้ลมินิ มีปริมาณกักเก็บในกระเพาะปัสสาวะน้อย กั้นได้ไม่นานเท่าหมาพันธุ์ใหญ่
2. กิจกรรมและการดื่มน้ำ
ถ้าเพิ่งกิน ดื่ม หรือเล่นหนัก จะกระตุ้นให้ขับถ่ายเร็วขึ้น
3. สุขภาพและอารมณ์
ลูกหมาที่เครียด วิตก หรือมีการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ อาจฉี่บ่อยและกั้นไม่ได้
4. การฝึก
การสร้างกิจวัตร (routine) ที่มั่นคง ทำให้หมาเรียนรู้จังหวะการกลั้นได้ดีขึ้น
🎯 สรุปสำหรับการฝึกในชีวิตจริง
2 – 4 เดือน: ต้องพาออกขับถ่ายทุก 2–3 ชั่วโมง
4–6 เดือน: เริ่มยืดเวลาได้ แต่ควรพาออกก่อนนอนเสมอ
ช่วง 6 เดือนขึ้นไป: พัฒนาเข้าสู่พฤติกรรมของหมาโตเต็มวัย
อย่าคาดหวังว่าหมาจะกลั้นได้เกินวัยของเขา เพราะนั่นไม่ใช่แค่เรื่องการฝึก… แต่มันคือความพร้อมของระบบภายในร่างกายครับ
บทสรุป — ขอแค่คุณอดทนอีกนิด… เขากำลังพยายามเข้าใจคุณ
การฝึกหมาฉี่ให้เป็นที่ ไม่ได้สำเร็จในวันสองวัน แต่มันคือการ “ค่อย ๆ เข้าใจไปด้วยกัน“ ระหว่างคนกับหมา
ลูกหมาไม่รู้ว่าตรงไหนผิด เขาแค่จำได้ว่าตรงนั้นเย็นนุ่ม สบาย กลิ่นเหมือนผ้าเช็ดตัวแม่ เขาไม่ได้ดื้อ เขาแค่ต้องการ “คนที่สอนซ้ำ ๆ ด้วยความใจเย็น”
วันแรกเขาอาจฉี่ผิด วันที่สองอาจยังไม่แน่ใจ แต่เช้าวันที่ห้า…คุณอาจเห็นเขาเดินไปยืนที่มุมเดิม แล้วฉี่ลงบนแผ่นรองที่คุณวางไว้ โดยไม่ต้องบอกอะไรเลย
คืนนี้… ลองเตรียมมุมฉี่ไว้ให้เขา เปิดไฟสลัวไว้ในห้องที่เงียบสงบ พรุ่งนี้เช้า คุณอาจได้รอยยิ้มจากเจ้าตัวน้อย ที่เพิ่งเรียนรู้ว่า…ที่ตรงนั้นแหละ คือ “ของเขา” และ “คุณเข้าใจเขาแล้วจริง ๆ”
บทความโดย
คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – สัญญานมือสำหรับฝึกสุนัข
