ขึ้นชื่อว่าสมุนไพร ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ หรือมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยในการบำรุงรักษา ไม่ว่าจะต่อมนุษย์ หรือ สัตว์เลี้ยงเองก็ตาม โดยเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เราไม่ควรใช้ยาของคน อย่าง พาราเซตามอล ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ในการเยียวยาหรือรักษา เพราะ อาจทำให้เกิดอันตรายตามมาได้
วันนี้ บ้านและสวน Pets จึงมีอีกหนึ่งทางเลือก อย่าง พืชผักสมุนไพร ยาธรรมชาติสำหรับสัตว์เลี้ยง มาแนะนำกันค่ะ แต่ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง ในทุกกรณี เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม และป้องกันการเกิดอาการแพ้ หรืออันตรายด้วยนะคะ
1.สะระแหน่ (Mint)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mentha cordifolia Opiz
วงศ์: Lamiaceae (Labiatae)
เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม ช่วยบรรเทาอาการระบบทางเดินอาหาร ลดอาการอาเจียน ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ ปั่นป่วน อาการเมารถ สำหรับน้องแมวยังช่วยละลายเสมหะ ลดน้ำมูก และช่วยให้รู้สึกสดชื่น อารมณ์ดีได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากเลือกใช้เป็นประเภทน้ำมันหอมระเหยต้องเลือกเป็นเกรดที่สามารถทานได้ นอกจากนี้ยังควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการใช้ในปริมาณที่สูงเกินไปก็อาจมีผลกระทบต่อตับ หรือไตได้เช่นกันนะคะ
2.อบเชย (cinnamon)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cinnamomum verum
วงศ์: Lauraceae
อบเชยในอาหารปริมาณเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มพลังงาน ความมีชีวิตชีวา กระตุ้นการไหลเวียน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงยังช่วยเรื่องการทำงานของสมอง ป้องกันโรคความจำเสื่อม นอกจากนี้ อบเชย ยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อรา เชื้อยีสต์ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อในสุนัขที่มีอาการแพ้ แต่ถ้าหากบริโภคโดยตรงในปริมาณที่มากเกินไป หรือใช้น้ำมันอบเชยกับสัตว์เลี้ยง อาจทำให้มีอาการท้องร่วง อาเจียนสำลัก หายใจลำบาก และเกิดการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจ
3.ขมิ้นชัน (Turmeric)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Curcuma longa L.
วงศ์: Zingiberaceae
มีสารสกัดสีเหลืองส้มที่ เรียกว่า เคอร์คูมินอยด์ (curcuminoids) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory activity) ต้าน และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (anti-bacterial activity) ส่วนน้ำมันขมิ้นชันสามารถออกฤทธิ์ต้านและฆ่าเชื้อราชนิด Trichophyton mentagro phytes และ Microsporum canis จึงนิยมนำมาใช้รักษาสุนัขที่เป็นโรคขี้เรื้อน โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนอง และกำจัดเห็บหมัด โดยการนำไปหมักบนตัวของสุนัข หรือมาแปะบาดแผลสด เพื่อรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น แต่ไม่สามารถใช้รักษาโรคไรขี้เรื้อนในสุนัขได้นะคะ
4.รางจืด (Laurel Clockvine)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Thunbergia laurifolia Lindl.
วงศ์: Acanthaceae
น้ำใบหรือรากรางจืด มีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยบรรเทาอาการไข้ และช่วยการล้างพิษ อย่าง สารเคมี ยาฆ่าแมลง อาการแพ้ยา โดยการนำใบรางจืดมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วคั้นน้ำ กรอกให้สุนัขรับประทาน เพื่อบรรเทาอาการพิษ แต่ถ้าหากได้รับสารพิษในปริมาณมาก หรือสารที่มีความรุนแรงมาก แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์โดยทันทีค่ะ
5.ฟ้าทะลายโจร (Kariyat)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Andrographis paniculata ( Burm.f. ) Wall ex Nees.
วงศ์: Acanthaceae
เป็นสมุนไพรรสขมที่มีฤทธิ์เย็น เป็นสารกลุ่ม Lactone เหมาะสำหรับใช้แก้หวัด แก้ปวด ลดไข้ บรรเทาอาการท้องเสีย ปัสสาวะเข้ม แต่ไม่ควรใช้ในขณะที่ความดันต่ำ เท้าเย็น หูเย็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสรรพคุณ เพื่อใช้ในการดูแลและบรรเทาอาการ แต่ไม่สามารถรักษาโรค หรืออาการโดยตรง โดยเฉพาะโรคไข้หัดแมว หรือโรคลำไส้อักเสบได้นะคะ
6.ขิง (Ginger)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Zingiber officinale Roscoe.
วงศ์: Zingiberaceae
เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ดีต่อระบบทางเดินอาหาร บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน เช่น ไม่สบาย เมารถ ช่วยในการไหลเวียนของเลือด มีประโยชน์ด้านการทำงานของสมอง การต้านมะเร็ง สำหรับสุนัขสูงวัยจะช่วยเรื่องข้อต่อ ข้ออักเสบ บรรเทาอาการปวดข้อได้ แต่ขิงยังมีผลข้างเคียง ทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง ลดความดันเลือด และระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
7.โรสแมรี่ (Rosemary)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Rosmarinus officinalis L.
วงศ์: Lamiaceae
เป็นพืชสมุนไพรเก่าแก่ที่มีกลิ่นหอมเป็นสารกระตุ้นตามธรรมชาติ มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ประกอบด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามิน มักถูกใช้เป็นสารกันบูดตามธรรมชาติในอาหารสุนัข นอกจากนี้ น้ำต้มใบโรสแมรี่ยังดีต่อผิวหนัง เมื่อนำไปอาบน้ำให้สุนัขจะสามารถช่วยลดจำนวนเห็บหมัดให้น้อยลง และช่วยดูแลเส้นขนให้สวย เงางามได้อีกด้วย
*** ข้อควรระวังเมื่อใช้สมุนไพร ยาธรรมชาติสำหรับสัตว์เลี้ยง ***
1.ไม่แนะนำให้ใช้สมุนไพรแทนยารักษาโรค โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงที่ป่วยร้ายแรง หรือมีอันตรายถึงชีวิต
2.สมุนไพรที่เลือกใช้ควรสะอาด ปลอดภัย ปลอดสารเคมี
3.ควรศึกษาอย่างละเอียด และปรึกษาสัตวแพทย์ทุกครั้ง ในทุกกรณี ก่อนเริ่มใช้สมุนไพร