สุนัขในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการการดูแลด้านสุขภาพและคุณค่าทางโภชนาการสารอาหารนั้นแตกต่างกันไปตามอายุ ขนาดตัว สายพันธุ์และกิจวัตประจำวันของสุนัข วิธีดูแลสุขภาพสุนัข
ช่วงวัยเด็ก วัยแรกเกิด – 1 เดือน ในช่วงแรกเกิด ลูกสุนัขจะยังมองไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียง แต่รับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้จากการสัมผัสและดมกลิ่น ลูกสุนัขจะเริ่มลืมตาเมื่อมีอายุประมาณ 10 – 14 วัน ในช่วงวัยนี้ความต้องการพื้นฐานของลูกสุนัขจะมีแค่นอน ร้องเมื่อหิวนม และขับถ่าย เป็นช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษเพราะลูกสุนัขยังไม่มีภูมิต้านทานในร่างกายและร่างกายยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ สารอาหารหลักที่สำคัญสำหรับลูกสุนัขแรกเกิดคือ “น้ำนมเหลืองจากแม่สุนัข” หรือ Colostrum (โคลอสตรุ้ม) ร่างกายของแม่สุนัขจะผลิตออกมาในช่วงประมาณ 1-3 วันแรกหลังคลอด ลูกสุนัขควรได้รับนมน้ำเหลืองจากแม่สุนัขภายใน 1-3 วันแรกหลังจากเกิด โคลอสตรุ้มเป็นน้ำนมที่มีโปรตีนสูงกว่าน้ำนมปกติรวมถึงมีวิตามินต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสารอาหารที่ครบถ้วนและเป็นแหล่งภูมิคุ้มกันหลักของลูกสุนัขแรกเกิด จะช่วยเสริมสร้างร่างกายลูกสุนัขให้แข็งแรงขึ้น วิธีดูแลสุขภาพสุนัข
หากแม่สุนัขไม่มีน้ำนมหรือมีน้ำนมไม่เพียวพอ เจ้าของควรดูแลลูกสุนัขในช่วงนี้ด้วยการป้อนนมตามปริมาณที่ลูกสุนัขต้องการ ให้ใช้ขวดนมที่ออกแบบมาสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ หรือใช้ไซริงค์ขนาดเล็กค่อย ๆ ป้อน อย่าดันน้ำนมเร็วเกินไปเพราะอาจจะทำให้ลูกสุนัขสำลักน้ำนมลงปอดได้ หลังจากป้อนนมแล้วให้ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายใช้สำลีสะอาดชุบน้ำอุ่น ๆ บีบหมาด ๆ เช็ดถูบริเวณหน้าท้อง รอบก้นและรอบอวัยวะเพศ รวมถึงดูแลความสะอาด และควบคุมอุณหภูมิบริเวณที่ให้ลูกสุนัขอยู่ให้อยู่ประมาณ 29.5 ถึง 32°C
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องบำรุงแม่สุนัขเป็นพิเศษ ควรเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูง อย่าง Royal Canin STARTER Mother & Babydog ให้ได้ตั้งแต่แม่สุนัขช่วงตั้งท้อง 6 สัปดาห์ขึ้นไปถึงช่วงให้นม เพื่อให้เขามีพลังงานเพียงพอในการผลิตน้ำนม
เมื่อลูกสุนัขอายุครบ 1 เดือน หลังหย่านม อาจเริ่มต้นเปลี่ยนฝึกทานอาหารแทนนม ด้วย Starter Mousse ที่เนื้ออาหารละเอียด ย่อยง่าย แล้วค่อย ๆ เริ่มปรับเป็นอาหารเม็ด เพราะโดยทั่วไปลูกสุนัขมักเลียนแบบการกินอาหารตามแม่อยู่แล้ว โดยอาหารสูตร Starter ได้ถูกออกแบบให้มีสารอาหารที่ตรงกับความต้องการของลูกสุนัขแล้ว ยังช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการกินอีกด้วย เพราะเม็ดอาหารถูกออกแบบมาให้ดูดซึมน้ำได้ง่าย สามารถปรับเป็นอาหารกึ่งเหลวได้ โดยเอาน้ำเปล่าสะอาดผสมอาหารเม็ดให้นิ่ม ๆ เพื่อให้ลูกสุนัขกินได้ง่ายขึ้น แบ่งให้กินวันละ 3-5 มื้อ เพราะช่วงวัยนี้มีความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและพัฒนาการอย่างรวดเร็ว
ช่วงวัย 2-4 เดือน ในช่วงนี้ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากแม่เริ่มลดลง ขณะเดียวกับภูมิคุ้มกันที่สร้างเองของลูกสุนัขก็ยังไม่สูงพอ จึงควรพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพ ถ่ายพยาธิ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโดยเข็มแรกควรเริ่มเมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ และเข็มถัดไปเริ่มห่างจากเข็มแรก 2–4 สัปดาห์และควรได้รับการฉีดวัคซีนหลักกระตุ้นซ้ำทุกปี หรือตามที่สัตวแพทย์แนะนำ การฉีดวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิต้านทานและป้องกันไม่ให้เกิดโรคกับลูกสุนัข และควรดูแลความสะอาดลูกสุนัขเป็นประจำ เจ้าของอาจเริ่มอาบน้ำให้ลูกสุนัขเมื่ออายุเกิน 2 เดือนเพราะร่างกายเริ่มมีพัฒนาการที่มากขึ้น นอกจากการทำวัคซีนแล้ว เราควรเลือกอาหารที่ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกสุนัข การเลือกอาหารในช่วงวัยนี้ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับพัฒนาการของร่างกายตามช่วงวัย ขนาดตัว สายพันธุ์ และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และต้องมีคุณค่าทางโภชนาการ มีปริมาณสารอาหารที่จำเป็นต่อลูกสุนัขให้เติบโตได้เต็มที่สมวัย
แนะนำอาหารลูกสุนัข Royal Canin MINI INDOOR PUPPY ชนิดเม็ด สำหรับลูกสุนัขพันธุ์เล็กเลี้ยงในบ้าน เหมาะกับช่วงอายุ 2-10 เดือน สูตรนี้ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งมีวิตามินอี วิตามินซี ทอรีน ลูทีน เบต้า-แคโรทีน ช่วยดูแลระบบทางเดินอาหารให้ปลอดภัย มีโปรตีนคุณภาพสูงย่อยง่าย(L.I.P.) คาร์โบไฮเดรตย่อยง่าย และใยอาหารที่เหมาะสม ช่วยปรับอุจจาระให้เป็นก้อนดี ลดกลิ่นและปริมาณมูลลง และให้พลังงานสูงเหมาะกับเจริญเติบโตของร่างกาย และช่วยให้ขนและผิวหนังสวยสุขภาพดีด้วยกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 Eicosapentaenoic acid (EPA) และ Docosahexanoic acid (DHA)
ช่วงวัยเด็ก 4 – 12 เดือน ในช่วงนี้การเจริญเติบโตและพัฒนาการต่าง ๆ เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะมีขนาดใดหรือสายพันธุ์ใดก็ตาม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของลูกสุนัขจะเห็นได้ชัดขึ้น เป็นช่วงสุดท้ายของพัฒนาการในวัยลูกสุนัขก่อนจะเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย การเติบโตเป็นสุนัขโตเต็มวัยจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาดตัว สุนัขที่มีขนาดหรือสายพันธุ์ใหญ่ใช้เวลาในการเจริญเติบโตมากกว่าสุนัขขนาดเล็ก สามารถแบ่งออกได้ 5 ขนาด ได้แก่
- พันธุ์จิ๋ว เช่น ชิวาวา, พุดเดิ้ลทอย, ปอมเมอเรเนียน หรือมีน้ำหนักโตเต็มวัยต่ำกว่า 4 กิโลกรัม มักจะเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยเมื่ออายุ 10 เดือน – 8 ปี
- พันธุ์เล็ก เช่น เชทแลนด์ชีพด็อก, ปั๊ก, มินิชเนาเซอร์, หรือมีน้ำหนักเมื่อถึงช่วงโตเต็มวัย5 – 10 กิโลกรัม เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยเมื่ออายุ 10 เดือน – 8 ปี
- พันธุ์ขนาดกลาง เช่น ชิบะ อินุ, ไทยบางแก้ว, บ๊อกเซอร์ หรือมีน้ำหนักเมื่อถึงช่วงโตเต็มวัย 11 – 25 กิโลกรัม เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยเมื่ออายุ 12 เดือน – 7 ปี
- พันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, ไจแอนด์ อลาสกัน มาลามิวท์, เยอรมัน เชฟเพิร์ด หรือมีน้ำหนักเมื่อถึงช่วงโตเต็มวัย 26 – 44kg กิโลกรัม เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยเมื่ออายุ 15 เดือน – 5 ปี
- พันธุ์ยักษ์ เช่น เกรทเดน, นิวฟาวน์แลนด์, ทิเบตัน มาสทีฟฟ์ หรือมีน้ำหนักเมื่อถึงช่วงโตเต็มวัยตั้งแต่ 45 กิโลกรัมขึ้นไป เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยเมื่ออายุ 18/24 เดือน – 5 ปี
แม้สุนัขพันธุ์ใหญ่และพันธุ์ยักษ์จะใช้เวลาในการเข้าช่วงโตเต็มวัยนานกว่าสุนัขพันธุ์เล็ก แต่สุนัขพันธุ์เล็กกลับมีความต้องการสารอาหารมากกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่เพราะมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าพันธุ์ใหญ่ทำให้มีอัตราการเผาผลาญพลังงานสูงกว่า สารอาหารที่ต้องการจะเน้นให้พลังงานและโปรตีนสูงเป็นหลัก ลูกสุนัขในช่วงนี้ต้องการแคลเซียมในอาหารมากกว่าสุนัขโตเต็มวัยเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตทางร่างกาย และอยู่ในช่วงสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ของร่างกาย จะเห็นได้จากการที่มีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว
ช่วงโตเต็มวัย อายุ 1-8 ปี เป็นช่วงที่สุนัขเติบโตเต็มที่ สุนัขเมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยลักษณะรูปร่างตามสายพันธุ์จะเห็นได้อย่างชัดเจน และจะเริ่มแสดงนิสัยเฉพาะของสายพันธุ์ ช่วงวัยนี้ระดับการเผาผลาญน้อยกว่าวัยลูกสุนัข
การเคลื่อนไหวและความต้องการในการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะเริ่มน้อยลง
ควรพาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในวัยนี้ให้ปรับการกินจากวันละ 3-4 มื้อเป็นกินวันละ 2 มื้อ อาหารที่เหมาะสมต้องเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สมดุลให้พลังงานเหมาะสม เจ้าของควรระวังไม่ให้สุนัขอ้วนเกินไป ในช่วงวัยนี้โรคที่ต้องระวังมักเป็นโรคติดต่อต่างๆ ที่มาจากปรสิต เช่น เห็บ หมัด หรือยุง รวมไปถึงโรคติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย หรือไวรัสโดยเฉพาะโรคร้ายแรงอย่างโรคพิษสุนัขบ้า ที่ยังคงมีการระบาดในประเทศไทย การฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำทุกปีจะช่วยลดความรุนแรงของโรคติดเชื้อบางชนิดได้ เช่น ไข้หัดสุนัข หรือลำไส้อักเสบ นอกจากนั้น เจ้าของควรถ่ายพยาธิให้กับสุนัขอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน
ช่วงสูงวัย อายุประมาณ 8 ปีขึ้นไป สำหรับสุนัขพันธุ์เล็กจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยช้ากว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ ในพันธุ์กลางจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยที่อายุประมาณ 7 ปี แต่สุนัขพันธุ์ใหญ่จะเข้าสู่ช่วงสูงวัยที่อายุประมาณ 5 ปี เมื่อสุนัขเข้าสู่ช่วงสูงวัยจะต้องดูแลด้านสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะร่างกายจะเริ่มเสื่อมลง โรคส่วนใหญ่ที่เจอมักเป็นปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อ สายตา และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ปัญหาตามข้อต่อต่าง ๆ อาจเกิดจากทั้งน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ตาเป็นต้อเกิดจากเลนส์ตาเสื่อมตามวัยหรือ อาจเป็นสัญญานของการเกิดโรคเบาหวาน และอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน เจ้าของควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน พาไปออกกำลังกายเบาๆ แต่สม่ำเสมอ เช่น ว่ายน้ำ เดิน หรือวิ่งเบา ๆ จะช่วยสริมสร้างกล้ามเนื้อและภูมิคุ้มกัน ในวัยนี้จะมีความอยากอาหารลดลง อาจมีอาการเบื่ออาหาร เพราะเมื่ออายุมากขึ้นในแต่ละวันกิจกรรมต่างๆของสุนัขก็จะลดลง ทำให้ปริมาณแคลอรี่ที่ต้องการต่อวันจะลดลงตามไปด้วย และระบบการเผาผลาญที่ช้าลง สุนัขสูงวัยจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนสูง ดังนั้นสุนัขควรได้รับอาหารที่เหมาะสมกับวัย มีสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารที่เพียงพอ เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีชีวิตได้อย่างยืนยาว
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Royal Canin ได้ตามร้าน pet shop ทั่วไปและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
website : www.royalcanin.com/th
facebook : @RoyalCaninThailand
Application : Royal Canin Club (https://bit.ly/AppRoyalCaninClub)
line : Royal Canin Thailand
Tel : 02 026 2456
โพสต์หน้ายังมีเรื่องราวที่ทาสหมาทาสแมวไม่ควรพลาดอย่าลืมกดติดตามเพจบ้านและสวน pets : https://www.facebook.com/BaanlaesuanPets