โพรไบโอติกส์สำหรับแมว เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กำลังได้รับความสนใจจากเจ้าของ สัตวแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เจ้าของแมวหลายทานจึงอาจสงสัยว่า โพรไบโอติกส์ดีต่อสุขภาพจองแมวจริงหรือไม่
ในปัจจุบัน โพรไบโอติกส์สำหรับแมว จำเป็นหรือไม่
โพรไบโอติกส์สำหรับแมว คือ จุลินทรีย์ หรือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของแมว ซึ่งนอกจากจะมีน้ำย่อยและเอนไซม์ในการทำหน้าที่ย่อยอาหารที่แมวกินเข้าไปแล้ว ยังมีจุลินทรีย์จำนวนล้านล้านตัวเหล่านี้ ที่มีบทบาทต่อการย่อยและดูดซึมอาหารด้วย
ดังนั้น เมื่อจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารเหล่านี้ขาดความสมดุล เช่น มีจุลินทรยบ์บางชนิดน้อยเกินไป หรือมีจุลินทรีย์ก่อโรคมากเกินไป ก็อาจทำให้แมวเกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้

โพรไบโอติกส์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของแมว ได้อย่างไร
การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์ในทางเดินอาหารของแมวยังมีข้อมูลไม่มากเท่ากับการศึกษาในสุนัข อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่า โพรไบโอติกส์ในทางเดินอาหารของแมว มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพที่ดีของแมว เช่น ช่วยเรื่องการจัดการน้ำหนักตัวได้อย่างเหมาะสม ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพ และฮอร์โมนต่าง ๆ ทำงานได้อย่างปกติ เป็นต้น
ในทางกลับกัน ถ้าในสถานการณ์ที่ลำไส้ของแมวมีจุลินทรีย์ก่อโรคจำนวนมาก ก็จะให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ โดยปัจจัยที่ทำให้จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารแมวเสียสมดุล ได้แก่
- การติดเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหาร
- การกินยาปฏิชีวนะ ในกรณีที่สัตวแพทย์วินิจฉัยแล้วว่า ต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ
- โภชนาการที่แมวได้รับในแต่ละวัน อาจส่งผลต่อชนิดพันธุ์ของจุลินทรีย์มในทางเดินอาหารได้
ความผิดปกติที่มักเกิดขึ้น เมื่อเสียสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร
- ท้องเสีย
- ท้องอืด
- ท้องผูก
- ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพลดลง
- มีภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน
- เกิดความเครียด
- เกิดโรคอื่น ๆ เช่น โรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน และอาการแพ้ เป็นต้น
โพรไบโอติกส์ที่มีประโยชน์สำหรับแมว
จากการศึกษาวิจัย นักวิทยาศาสตร์พบว่า จุลินทรีย์ส่วนใหญ่ที่พบในทางเดินอาหารจของแมว ได้แก่
Bifidobacterium
Enterococcus
Lactobacillus spp
Streptococcus
โพรไบโอติกส์เหล่านี้จะอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของทางเดินอาหาร เช่น Enterococcus จะอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ในขณะที่ Bifidobacterium พบได้ในลำไส้เล็ก ดังนั้น การเลือกผลิตภันฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติกส์ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีจุลินทรีย์อย่างน้อย 2 สายพันธุ์

เลือกโพรไบโอติกส์อย่างไร
เมื่อเจ้าของต้องการให้อาหารเสริมโพรไบโอติกส์สำหรับแมว สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ สังเกตอาการของแมวอย่างเข้าใจ ถ้าแมวของเราสามารถกินอาหารและขับถ่ายได้ตามปกติ โดยไม่พบสัญญาณของโรคในทางเดินอาหาร การเพิ่มอาหารเสริมโพรไบโอติกส์ก็ยังอาจจะไม่จำเป็นในช่วงนี้
สำหรับในกรณีที่จำเป็นต้องการเพิ่มอาหารเสริมโพรไบโอติกส์ เช่น หลังจากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ หรือช่วงพักฟื้นจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เจ้าของสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับแนวทางการใช้โพรไบติกส์เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของแมวได้
ในปัจจุบัน ผลิตภันฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติกส์สำหรับแมวมีหลายรูป ทั้ง รูปแบบขนมแมวเลีย ชนิดเม็ด แคปซูล และชนิดผง เจ้าของสามารถเลือกให้เหมาะสมกับความสะดวก และความชอบของแมวได้ และตระหนักไว้เสมอว่า ผลิตภันฑ์เสริมอาหารเหล่านี้ ไม่ใช่ยารักษาโรค และปรึกษาสัตวแพทย์ทุกครั้งหากไม่แน่ใจเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง
โพรไบโอติกส์สำหรับแมว มีผลข้างเคียง หรือไม่
ส่วนใหญ่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาวิจัย และออกแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติกส์มาอย่างละเอียด รวมถึงก่อนวางจำหน่าย ได้มีการตรวจสอบคุณภาพ และความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง โดยองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าโพรไบโอติกส์จะไม่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ก็ตาม แต่โดยทั่วไปแล้ว จะไม่มีผลข้างเคียงในเชิงลบต่อสุขภาพของแมว

วิธีการดูแลสุขภาพลำไส้ของแมว
1. โภชนาการที่ครอบถ้วน หลากหลาย และเหมาะสม
อาหารที่มีคุณภาพเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพโดยรวม โดยการพิจารณาจากช่วงวัย น้ำหนักตัว ไลฟ์สไตล์ และสายพันธุ์ เลือกอาหารแมวที่ประด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน และให้พลังงาน และสารอาหารอย่างเพียงพอในหนึ่งวัน
2. จัดหาน้ำดื่มสะอาดให้แมวทุกวัน
ให้แมวดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ โดยการจัดวางภาชนะใส่น้ำดื่มวางไว้ในจุดที่แมวสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา และอาจใช้เครื่องน้ำพุแมว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้แมวดื่มน้ำมากขึ้น ในกรณีที่แมวไม่ค่อยดื่มน้ำ
3. อาหารมนุษย์ไม่ใช่อาหารแมว
หลีกเลี่ยงการให้แมวกินอาหารมนุษย์ที่มีการปรุงรส รวมไปถึงอาหารของมนุษย์บางชนิดที่เป็นอันตรายกับแมว เช่น หัวหอม กระเทียม องุ่น และช็อกโกแลต เป็นต้น
4. ค่อย ๆ เปลี่ยนอาหาร
ถ้าเจ้าของต้องการให้แมวกินอาหารยี่ห้ออื่น ๆ ควรเริ่มจากการแนะนำให้แมวรู้จักกับอาหารใหม่ทีละน้อย ไม่ควรเปลี่ยนอาหารทันที เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบในทางเดินอาหารของแมวได้
ท้ายที่สุดแล้ว ในยุคที่เจ้าของแมวดูแลแมวอย่างเข้าใจมากขึ้น และเจ้าของแมวส่วนใหย่ก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพของแมวมากขึ้น เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ รวมถึงโพรไบโอติกส์วางจำหน่ายในท้องตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การศึกษาเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์ที่ส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของแมวยังได้รับการศึกษาน้อยมาก โดยเฉพาะเรื่องกลไกการทำงานของโพรไบโอติกส์ต่อสุขภาพทางเดินอาหาร ดังนั้น เจ้าของแมวควรพิจารณาเรื่องการใช้อาหารเสริมอย่างถี่ถ้วน และศึกษาข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติม ก่อนให้แมวกินอาหารเสริมชนิดต่าง ๆ
บทความโดย
ณภัทรดนัย
ข้อมูลอ้างอิง
PubMed – Probiotics and Cat Health: A Review of Progress and Prospects
Cats Protection – Probiotics for cats
Davies The Veterinaries Specialist – Use of Probiotics in cats and dogs Fact Sheet
Hill’s – Probiotics and Prebiotics for Cats
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – พลังแห่งใยอาหาร กับบทบาทในการจัดการโรคในแมว
