วันหนึ่งขณะที่เล่นเฟซบุ๊กด้วยความเพลิดเพลินก็เห็นโพสต์ของเพื่อนแจ้งว่าน้องหมาของเค้าเข้าโรงพยาบาล อาการไม่ดีคือมีภาวะอักเสบทั่วร่างกาย ส่งผลให้เลือดตกตะกอนและโลหิตจางรุนแรง จำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือดด่วน จึงขอรับบริจาคเลือดเป็นการด่วน
โดยลงรายละเอียดไว้ว่าต้องการเลือดกรุ๊ป DEA 1.1 Negative ซึ่งก็มีผู้ใจดีพาน้องหมาของตัวเองมา บริจาคเลือด ให้ แต่ผลเลือดตรวจแล้วไม่ตรงตามที่ต้องการจึงใช้ไม่ได้ เราอ่านโพสต์แล้วก็รีบแชร์ทันที ในใจก็อยากพาพี่หมูหมาน้อยของเราไปบริจาคแต่ติดที่ว่าอายุไม่ถึงเกณฑ์ยังบริจาคเลือดไม่ได้
ใจเขาใจเราหากสัตว์เลี้ยงที่คุณรักต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤติที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในกรณีขาดเลือดในการรักษา เช่น จากการผ่าตัดหรืออุบัติเหตุข้างต้น ภาวะโลหิตจาง พยาธิเม็ดเลือด หรือด้วยโรคติดเชื้อรุนแรง คุณจะหาเลือด ให้สัตว์เลี้ยงได้ทันท่วงทีจากที่ไหน…คําตอบก็คือ “ธนาคารเลือด” ของสัตว์เลี้ยง เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดเก็บและสํารองเลือดในรูปแบบผลิตภัณฑ์เลือดชนิดต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะหรือความต้องการใช้เลือดแต่ละประเภท ทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาและพัฒนาความก้าวหน้าของการถ่ายเลือดต่อไป เห็นได้ว่าสัตว์เลี้ยงก็มีความต้องการเลือดเพื่อต่อชีวิตไม่ต่างจากมนุษย์ ผิดกันตรงที่เขาร้องขอเองไม่ได้ ต้องรอมนุษย์ผู้ใจบุญจูงสุนัขและแมวตัวที่แข็งแรงมาบริจาคเลือดให้ธนาคารเลือด หรือบริจาคตามโรงพยาบาลสัตว์ อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าน้องหมาหรือแมวทุกตัวจะบริจาคเลือดได้ เพราะต้องเข้ากฎเกณฑ์ที่กําหนดเอาไว้เสียก่อน ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้
1.สุนัขหรือแมวจะต้องมีสุขภาพดีอายุตั้งแต่ 1-6 ปี ไม่จํากัดเพศและพันธุ์
2.ถ้าเป็นสุนัขต้องหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม ส่วนแมวต้องมากกว่า 5 กิโลกรัม
3.มีประวัติการทําวัคซีนครบ
4.ปราศจากโรคติดต่อทางเลือด เช่น โรคพยาธิเม็ดเลือด โรคแท้งติดต่อในสุนัข โรคพยาธิหนอนหัวใจ และโรคติด เชื้อไวรัสในแมว เป็นต้น
5.ไม่เคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ในระยะ 1-2 เดือน
6.ไม่มีโรคประจําตัวที่ร้ายแรง กรณีที่มีโรคประจําตัว โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน
7.หากเพิ่งฉีดวัคซีนประจําปี ควรเว้นระยะเวลาอย่างต่ำ 3 สัปดาห์ก่อนพาสุนัขมาบริจาคเลือด
8.ไม่มีเห็บ หมัด หรือโรคผิวหนัง
9.สุขภาพฟันดี ไม่มีคราบหินปูน
หมายเหตุ : ในการบริจาค 1 ครั้งจะเก็บเลือดได้ประมาณ 350 มิลลิลิตร ซึ่งเท่ากับ 1 ยูนิต โดยปกติสัตว์เลี้ยงสามารถให้เลือดได้ถึง 10-20 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และสามารถบริจาคได้ทุกๆ 5 เดือน
น้องหมาน้องแมวของใครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมาก็อย่ารอช้า พาเขาไปบริจาคเลือดกันเถอะ เพราะเลือดของเขาที่บริจาคไป สักวันหนึ่งอาจเป็นทางรอดสุดท้ายให้น้องหมาหรือแมวแสนรักของใครสักคน
ป.ล. ตอนนี้น้องหมาของเพื่อนที่โพสต์ได้รับบริจาคเลือดจำนวนครบตามที่ต้องการแล้ว ผลการรักษาผ่านไปได้ด้วยดี พ้นขีดอันตราย รอให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาแข็งแรงตามปกติค่ะ เย้ๆๆๆ
ขอบคุณ:
คุณโหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ และคุณปิ๋ม ประวีณา ทิพย์สุข
ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวและภาพของพี่น้ามาเล่าสู่กันฟังนะคะ
5 ไอเดีย ประตูสัตว์เลี้ยงแสนเก๋ เข้า-ออก-สอดส่อง ได้ตามใจ
สุนัขเซเลบของไทย ที่ทาสหมาไม่ควรพลาด
ตามส่อง “แมวเซเลบ” ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ สาวกทาสแมวห้ามพลาด !