แมวท้องเสียเรื้อรัง ความผิดปกติที่ต้องรีบจัดการ

แมวท้องเสียเรื้อรัง อย่าปล่อยไว้ หรือพยายามรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน เพราะสาเหตุของการท้องเสีย อาจรุนแรงกว่าที่เราคิด

ภาวะท้องเสียในแมว (diarrhea) แบ่งได้เป็น 2 แบบคือ แมวท้องเสียแบบเฉียบพลัน และ แมวท้องเสียเรื้อรัง

ภาวะการท้องเสียแบบเฉียบพลัน คือ การที่แมวมีการขับถ่ายอุจจาระออกมามีลักษณะเหลวกว่าปกติ และมีปริมาณ ความถี่ของการขับถ่ายอุจจาระเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน  มักจะตอบสนองต่อการักษาและไม่มีอาการกลับมาเป็นซ้ำอีก

ภาวะท้องเสียเรื้อรัง (chronic diarrhea) คือ อาการ ถ่ายเหลวที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนานกว่า 3-4 สัปดาห์ ถึงแม้จะมีการรักษาเบื้องต้นแล้วและอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเป็นๆหายๆ  ถือเป็นอาการผิดปกติที่สำคัญที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารหรืออวัยวะภายในอื่น ๆ ในร่างกายที่ต้องหาสาเหตุและได้รับการรักษา เนื่องจากอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของแมวในระยะยาวและการพัฒนาของโรคที่มากขึ้น

ลักษณะอาการท้องเสียจากตำแหน่งความผิดปกติของลำไส้ อาจแบ่งได้เป็น

1. อาการท้องเสียจากความผิดปกติของลำไส้เล็ก (Small intestinal diarrhea) ลักษณะอุจจาระมักปริมาณมาก มีสีซีดหรือมีไขมันปน  อุจจาระอาจมีสีดำเข้ม  แมวอาจมีน้ำหนักลดร่วมด้วย

2. อาการท้องเสียจากความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ (Large intestinal diarrhea) มักจะมีอาการถ่ายบ่อย แต่ปริมาณต่อครั้งน้อย อาจมีมูกเลือดปน และมีอาการเบ่งถ่าย ปวดเบ่ง

ในบางกรณีอาจเกิดความผิดปกติจากลำไส้ทั้ง 2 ส่วนร่วมกันได้ จะเรียกว่า mixed bowel diarrhea

ลักษณะอาการท้องเสียเรื้อรังในแมว

  • ถ่ายเหลว ลักษณะสีอุจจาระผิดปกติ เช่น สีดำ สีเทา สีซีด หรือมีไขมัน
  • อุจจาระมีมูกเลือดสดติดปน
  • ปวดเบ่ง ถ่ายอุจจาระบ่อย
  • น้ำหนักลดลง
  • มีความอยากอาหารลดลงหรือมากขึ้นอย่างผิดปกติ
  • อ่อนเพลีย
  • อาจมีอาเจียนร่วมด้วย
  • ท้องอืด

สาเหตุของท้องเสียเรื้อรังในแมวแบ่งเป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร  และโรคที่ไม่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ความผิดปกติโรคในระบบอวัยวะอื่นๆ  

โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร 

 1. สาเหตุจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร (Infectious disease)

  • เชื้อโปรโตซัวและพยาธิในลำไส้ เช่น Tritrichomonas foetusGiardia spp.CoccidiaToxocara catiAncylostoma spp.
  • เชื้อแบคทีเรีย เช่น Clostridium perfringensCampylobacterSalmnella , E.Coli
  • เชื้อไวรัส เช่น Feline Coronavirus ,  Feline immunodeficiency virus , Feline leukemia virus เป็นต้น

2. สาเหตุจากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ Inflammatory Bowel Disease – IBD

เป็นภาวะอักเสบเรื้อรังของกระเพาะอาการและลำไส้จากการตอบสนองภูมิคุ้มกันผิดปกติ พบได้บ่อยในแมววัยกลางถึงแมวสูงอายุ

3. สาเหตุจากการแพ้อาหาร (Food-responsive enteropathy)

เกิดจากการแพ้อาหารหรือการไวต่อโปรตีนบางชนิด (food allergy/Food intolerance) เช่น การแพ้โปรตีนจากไก่ ปลา ผลิตภัณฑ์จากวัว และกลูเตน เป็นต้น

4. สาเหตุจากเนื้องอกในทางเดินอาหาร (Neoplasia)

เช่น มะเร็ง lymphoma ของระบบทางเดินอาหาร

โรคที่ไม่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ความผิดปกติโรคในระบบอวัยวะอื่นๆ  

1. โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง (chronic pancreatitis)

2. ภาวะตับอ่อนทำงานบกพร่อง (Exocrine pancreatic insufficiency; EPI)

3. โรคตับและถุงน้ำดี (triaditis ในแมว) , โรคเบาหวาน

4. โรคไตวายเรื้อรัง

5. ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (hyperthyroidism)

การตรวจวินิจฉัย แมวท้องเสียเรื้อรัง

การตรวจวินิจฉัยภาวะท้องเสียเรื้อรังต้องมีการตรวจแยกสาเหตุข้างต้นที่ได้กล่าวมา ดังนั้น จึงต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยหลายวิธีร่วมกัน คือ

  • การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด
  • การตรวจอุจจาระ (Fecal examination) เพื่อตรวจหาไข่พยาธิหรือโปรโตซัวด้วยวิธีทางห้องปฏิบัติการ
  • ตรวจเชื้อแบคทีเรีย
  • การตรวจเชื้อไวรัส
  • การตรวจเลือด เพื่อวินิจฉัยแยกแยกโรคในระบบทางร่างกาย
  • ตรวจค่าการทำงานของตับ ไต ตับอ่อน
  • ตรวจฮอร์โมนไทรอยด์
  • การวินิจฉัยการถ่ายภาพรังสี และอัลตราซาวด์ช่องท้อง (Abdominal imaging) เพื่อช่วยประเมินลักษณะผนังลำไส้ ดูการหนาตัว หรือความผิดปกติในช่องท้อง
  • การทำเอกเรย์คอมพิวเตอร์ (CT-scan) ในกรณีที่ต้องการวินิจทางรังสีอย่างละเอียด
  • การตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) ในทางเดินอาหาร เพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาเป็นวิธีมาตรฐานในการยืนยันโรค IBD หรือ lymphoma   

การรักษาและการจัดการภาวะท้องเสียเรื้อรังในแมว

การรักษาภาวะท้องเสียเรื้อรังในแมวจะขึ้นกับสาเหตุหลักที่ตรวจพบ สามารถทำได้โดย

1. คุมการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารในรายที่พบการติดเชื้อ การให้ยาปฏิชีวนะ ยาถ่ายพยาธิ ยารักษาการติดเชื้อโปรโตซัว

2. การปรับอาหาร การทดสอบอาหาร (Dietary management)  เช่น การให้อาหารชนิดที่ย่อยง่าย   การทดสอบอาหารในกลุ่ม

โปรตีนที่ผ่านการย่อย (hydrolyzed diet) นาน 3–8 สัปดาห์  หรืออาหารกลุ่มที่มีไฟเบอร์ละลายน้ำในกลุ่มท้องเสียเรื้อรังที่ตอบสนองต่อไฟเบอร์

3. การให้ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive therapy) ในกรณีที่เป็นโรคระบบทางภูมิคุ้มกันผิดปกติในกรณี IBD หรือ lymphoma เช่น prednisolone หรือ chlorambucil

4. การเสริมวิตามิน B12 เพื่อช่วยการทำงานของลำไส้

5. การเสริมโพรไบโอติกช่วยปรับสมดุลจุลชีพในลำไส้

6. ในกรณีมะเร็งลำไส้ จะต้องวางแผนการจัดการตามชนิดมะเร็งที่ตรวจพบและวางแผนการดูแลในระยะยาว

ภาวะท้องเสียเรื้อรังในแมวไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคในระบบทางเดินอาหารหรือตับอ่อนและอวัยวะอื่น ๆ ที่รุนแรงได้ การวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยสัตวแพทย์ การวางแผนการรักษาและการจัดการอย่างเหมาะสม จะช่วยให้แมวกลับมามีสุขภาพลำไส้และร่างกายที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

บทความโดย
สพ.ญ.ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมว PURRfect Cat Hospital


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – แมวท้องเสีย จากการติดเชื้อโปรโตซัว