ฝึกแมวเดินสายจูง ได้หรือไม่ ยากหรือง่าย ไปเรียนรู้พร้อมกันค่ะ

วิธีการ ฝึกแมวเดินสายจูง และสายรัดอก ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ที่ บ้านและสวน PETS จะมาแนะนำในวันนี้ คุณและแมวของคุณก็สามารถเพลิดเพลินในการทำกิจกรรมกลางแจ้งร่วมกันได้

คุณพ่อคุณแม่น้องแมวหลายบ้านอาจเคยรู้สึกว่า น้องแมวของเราคงไม่สามารถออกไปเดินเล่นนอกบ้านพร้อมสายจูงได้เหมือนกับสุนัข แต่ในความเป็นจริงแล้ว “แมวบางตัว” ก็ชอบออกไปเดินเล่นกลางแจ้งเช่นกัน ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความอยากรู้อยากเห็นโลกภายนอกเหมือนกับสุนัข และการฝึกให้แมวได้มีประสบการณ์เดินเล่นนอกบ้าน จำเป็นต้องอาศัยเจ้าของที่มีความพร้อม เนื่องจากการปล่อยแมวไปเดินเล่นนอกบ้านอย่างอิสระเต็มไปด้วยความอันตราย ดังนั้น การฝึกแมวเดินสายจูงจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำกิจกรรมนอกบ้านร่วมกัน

สำหรับเจ้าของที่อยาก ฝึกแมวเดินสายจูง ควรเริ่มฝึกให้แมวมีประสบการณ์กับการออกไปนอกบ้านตั้งแต่อายุ 5 – 6 เดือน เพื่อลดความตื่นกลัว และเป็นการสร้างความคุ้นเคย กับสภาพแวดล้อมนอกบ้าน

ฝึกแมวเดินสายจูง, แมวเดินในสายจูง, การฝึกแมว

ก่อนจะพาแมวออกไปเดินเล่นนอกบ้าน

แม้ว่าการออกไปเดินเล่นนอกบ้านจะให้ความรู้สึกเหมือนการเดินออกกำลังกาย แต่แมวบางตัวไม่ได้ชอบอยู่นอกบ้านเสมอไป แทนที่จะได้เกิดความสุขร่วมกัน กลับกลายเป็นว่า แมวรู้สึกเครียดที่ต้องออกไปข้างนอก และแมวบางตัวก็ไม่ชอบถูกพันธนาการด้วยสายรัดอกและสายจูง

สิ่งสำคัญ คือ เจ้าของแมวต้องมั่นใจมาก ๆ ว่า แมวของเรารู้สึกสบายใจเมื่อได้ออกไปเดินนอกบ้านพร้อมสายจูง

เมื่อมั่นใจแล้ว ให้เริ่มจากการใส่สายรัดอกให้กับแมว และสังเกตพฤติกรรมของแมวขณะที่อยู่ภายในบ้าน ถ้าในครั้งแรก ทำอย่างไรแมวก็ไม่ยอมใส่สายรัดอก ให้เริ่มจากการเอาสายรัดอกมาวางไว้กลางบ้าน หรือในบริเวณที่แมวเข้าถึงได้ง่าย โดยยังไม่ต้องพยายามใส่สายรัดอกให้แมว

จากนั้น เมื่อแมวเริ่มทำความคุ้นเคยกับสายรัดอกด้วยตัวเองแล้ว จึงเริ่มต้นใส่สายรัดอกให้แมว “โดยไม่บังคับ” เพื่อให้แมวมีประสายการณ์เชิงบวกกับสายรัดอก และเมื่อใส่สายรัดอกได้สำเร็จ ให้รางวัลแมวด้วยขนมเล็กน้อย เพื่อให้เกิดแรงจูงใจเชิงบวก และให้พวกเขารู้สึกว่า สายรัดอกไม่ใช่วัตถุอันตราย

อีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าของควรตระหนัก คือ แมวต้องได้รับวัคซีนตามกำหนด เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายนอกบ้านเต็มไปด้วยปรสิต และเชื้อก่อโรค เช่น เห็บ หมัด และโรคติดต่อจากสัตว์ตัวอื่น ๆ การป้องกันด้วยวัคซีนไว้ก่อน จึงเป็นเกราะคุ้มกันที่ดีสำหรับแมวที่ชอบออกไปผจญภัย

5 ขั้นตอน ฝึกแมวเดินสายจูง และสายรัดอก

ฝึกแมวเดินสายจูง, แมวเดินในสายจูง, การฝึกแมว

1. การสื่อสารให้เข้าใจคือจุดเริ่มต้นที่ดี

เมื่อเข้าสู่กระบวนการฝึก เทคนิคบางอย่างอาจคล้าย ๆ กับการฝึกสุนัข นั่นคือ การฝึกด้วยแรงจูงใจเชิงบวก ในการฝึกแมว บางท่านอาจเลือกใช้คลิกเกอร์เป็นเครื่องมือช่วย เมื่อกดคลิกเกอร์ นั่นแปลว่า แมวสามารถทำตามคำสั่งที่เราต้องการได้ และเมื่อสิ้นเสียงคลิกเกอร์ เจ้าของต้องให้รางวัลกับแมวทันที

ในกรณีที่ไม่มีคลิกเกอร์ เจ้าของสามารถใช้คำพูดสั้น ๆ ได้ เช่น “ใช่” “ดี” หรือ “เก่งมาก” โดยใช้หลักการเดียวกันกับการใช้คลิกเกอร์ คือ พูดคำเหล่านี้ เมื่อแมวทำตามคำสั่งอย่างถูกต้อง และเมื่อพูดจบ ก็ให้รางวัลแมวทันที อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้คำพูดในการสร้างแรงจูงใจนี้ ควรเลือกใช้เพียงคำเดียวไปตลอดการฝึก

ในระหว่างการฝึก เจ้าของควรระลึกไว้เสมอว่า แมวใช้เวลาฝึกนานกว่าสุนัข และแมวแต่ละตัวอาจตอบสนองต่อคำสั่งได้แตกต่างกัน หรือไม่ตอบสนองเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด หรือเป็นความล้มเหลวที่เจ้าของต้องรู้สึกเสียใจ

ถ้าเราฝึกพวกเขาตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และทำเต็มที่แล้ว แต่แมวของเราไม่ได้ตอบสนองอย่างที่เราต้องการ ก็เพียงแค่ยอมรับและรักเขาในแบบที่เขาเป็น

2. เลือกใช้สิ่งเร้าที่แมวชอบ

การเลือก Reward หรือรางวัลที่แมวชอบ เป็นหนึ่งในปัจจัยส่งเสริมความสำเร็จในการฝึก แมวบางตัวชอบขนมแมวเลีย แมวบางตัวชอบขนมที่มีลักษณะเป็นเม็ดนุ่ม เจ้าของสามารถเรียนรู้ผ่านการสังเกตได้ว่า แมวของเราชอบรางวัลแบบไหน หรือในบางกรณี พบว่า รางวัลอาจไม่ใช่ขนมแมว แต่เป็นการลูบหัว หรือสัมผัสเบา ๆ จากเจ้าของ

ในวันที่เข้าสู่การฝึก ควรลดอาหารมื้อหลักประมาณ ร้อยละ 10 – 20 จากปริมาณปกติ เพราะแมวจะได้รับพลังงานจากขนมที่เราให้พวกเขาระหว่างการฝึก ถ้าแมวได้รับพลังงานจากอาหารและขนมแมวมากเกินไป อาจนำไปสู่ภาวะโรคอ้วนได้

ฝึกแมวเดินสายจูง, แมวเดินในสายจูง, การฝึกแมว

3. เริ่มจากการฝึกเดินในบ้าน

เมื่อเจ้าของมั่นใจแล้วว่า แมวไม่มีการต่อต้านสายจูงและสายรัดอก ลองพาแมวเดินด้วยสายจูงไปรอบ ๆ บ้าน วิธีนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก และผ่อนคลายมากกว่าที่จะพาแมวออกไปเดินนอกบ้านในทันที

เจ้าของควรเริ่มจากใช้เวลาสั้น ๆ ก่อน เพื่อสังเกตพฤติกรรม และค่อย ๆ เพิ่มเวลาการฝึกเดินในสายจูงให้มากขึ้น จนกว่าจะสังเกตได้ว่า เราสามารถควบคุมแมวระหว่างอยู่ในสายจูงได้

จากนั้นค่อยขยับพื้นที่จากในบ้านออกมานอกบ้าน โดยในช่วงแรก พาแมวออกมานอกบ้านเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ สลับกับการกลับเข้าไปในบ้าน และเพิ่มเวลาออกมานอกบ้านให้นานมากขึ้น

4. ฝึกเดินในพื้นที่ใกล้บ้าน

เมื่อแมวเริ่มเรียนรู้สิ่งแวดล้อมภายนอกบ้านได้แล้ว และไม่แสดงอาการเครียดเมื่ออยู่นอกบ้าน เจ้าของควรพาเขาออกไปเดินเล่นในพื้นที่ใกล้ ๆ บ้านก่อน ให้พวกเขาได้สำรวจต้นไม้ใบหญ้า ไม่ควรเร่งรีบพาเขาขึ้นรถออกไปสถานที่ไกล ๆ เพราะการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเร็วเกินไป อาจทำให้แมวรู้สึกเครียด และไม่อยากออกมานอกบ้านในครั้งต่อไปได้

เจ้าของหลายท่านแบ่งปันประสบการณ์ในการเดินเล่นกับแมวว่า ระวังต้นไม้สูง!!! เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่ปีนป่ายต้นไม้ได้เก่งกว่าสุนัข และบางครั้ง การพาเขาลงมาจากต้นไม้ก็ยากกว่าตอนที่เขาขึ้นไป ดังนั้น ถ้าเจ้าของเห็นว่า แมวกำลังจะวิ่งเข้าใส่ต้นไม้สูง ๆ ให้รีบใช้คำสั่งที่ฝึกมา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของแมว

5. เพิ่มระยะทางห่างจากบ้านมากขึ้น

เมื่อสังเกตว่า แมวเริ่มเพลิดเพลินกับกิจกรรมภายกลางแจ้งแล้ว เจ้าของสามารถเพิ่มระยะห่างออกจากบ้านมากขึ้นได้ เริ่มจากการนั่งรถไปรอบ ๆ หมู่บ้าน และสังเกตดูว่า แมวมีอาการตื่นกลัว หรือหลบซ่อน หรือไม่ หรือพาแมวออกไปเดินใน Pet Park และสังเกตว่า เขาตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ อย่างไร

ในระหว่างที่เดินทางออกจากบ้านไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ควรให้แมวอยู่ในการควบคุมของเราตลอดเวลา เพราะสิ่งเร้าภายนอกที่แมวไม่คุ้นเคยอาจกระตุ้นให้แมวตื่นตกใจ และวิ่งเตลิดหนีไปได้ ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

หัวใจของการฝึกสัตว์เลี้ยงไม่ว่าแมวหรือสุนัข คือ ความอดทน และการเสริมสร้างแรงจูงใจเชิงบวก ทั้งเจ้าของและแมว ในระหว่างการฝึก เราอาจเพิ่งค้นพบว่า แมวชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เพราะกระบวนการฝึกแมว แท้จริงแล้ว เป็นการฝึกวินัยเจ้าของไปในตัว ทำให้เราได้สังเกต จดจ่อ และเรียนรู้พฤติกรรมของแมว ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างสองสายพันธุ์

บทความโดย

ณภัทรดนัย

ข้อมูลอ้างอิง

Daily Paws – How to Train a Cat to Walk on a Leash and Harness

San Francisco SPCA – Leash Training (Cats)

Coastal Pet Product inc. – How To Leash Train a Cat

Purina – How to Leash Train a Cat

Anti Cruelty – Leash Training Your Cat


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – How to การฝึกให้ลูกแมวใช้กระบะทราย