แมวไม่ชอบกินอาหารร่วมกับตัวอื่น แม้ว่าจะโตมาด้วยกัน หรือเลี้ยงมาด้วยกันเป็นเวลานาน เบื้องหลังของเรื่องนี้ อาจต้องย้อนกลับไปดูที่บรรพบุรุษแมวบ้านที่เคยอยู่ในป่ามาก่อน
โดยส่วนใหญ่ เรามักจะพบว่า แมวไม่ชอบกินอาหารร่วมกับตัวอื่น โดยเฉพาะในบ้านที่เลี้ยงแมวรวมกันหลายตัว ที่ต้องแยกอาหารใส่ภาชนะให้แมวต่อหนึ่งตัว โดยพวกเขาจะไม่กินอาหารร่วมภาชนะเดียวกัน หรือแม้แต่การเดินไปดื่มน้ำพร้อมกัน
ในธรรมชาติ ญาติพี่น้องของแมวบ้าน อย่างสัตว์ตระกูลแมวทั้งหลาย เราก็จะพบว่า พฤติกรรมการหาอาหาร และกินเหยื่อ จะไม่ทำกันเป็นฝูง ยกเว้น สิงโตตัวเมีย เมื่อแมวป่าล่าอาหารตามธรรมชาติได้ พวกเขาจะลากเหยื่อไปยังบริเวณที่ปลอดภัย หรือในที่หลบซ่อน และกินเหยื่อเพียงลำพัง

ดังนั้น เหตุผลที่ แมวไม่ชอบกินอาหารร่วมกับตัวอื่น อาจเป็นเพราะว่า แมวบ้านที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแมวป่า ยังหลงเหลือพฤติกรรมการกินอาหารเพียงลำพังอยู่ในสายเลือด แม้ว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องล่าเหยื่อเองแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่คุ้นเคยกับการกินอาหารร่วมกับแมวตัวอื่นในบ้าน
นอกจากนี้ แมวบ้านส่วนใหญ่จะชอบกินอาหารในภาชนะที่วางอยู่ในมุมสงบ ปลอดภัย และไม่มีคนเดินไปมาพลุกพล่าน แมวบางตัวชอบกินอาหารในเวลาที่คนไม่อยู่บ้าน หรือตอนกลางคืน ที่สมาชิกในบ้านเข้านอนกันแล้ว เพราะรู้สึกปลอดภัยมากกว่าการกินอาหารตอนที่มีคนอยู่ด้วย
อีกหนึ่งเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนี้ คือ แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีอาณาเขตชัดเจน โดยเราจะเห็นได้ว่า บ้านที่มีแมวอยู่รวมกันตั้งแต่สองตัวขึ้นไป แมวแต่ละตัวจะมีมุมประจำเป็นของตัวเอง และมีการใช้พื้นที่ในบ้านร่วมกันบางส่วนเท่านั้น
ถ้าเราพยายามบังคับให้แมวกินอาหารด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้น
แมวจะเกิดความเครียด และอาจรุนแรงไปถึงขั้นไม่ยอมกินอาหาร ถ้าเจ้าของละเลยปัญหานี้นานจนเกินไป อาจจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของแมวได้
แมวจะกินอาหารร่วมกันเฉพาะในช่วงวัยเด็กเท่านั้น แต่เมื่อโตเต็มวัย พฤติกรรมนี้จะหายไป ความเป็นไปได้อย่างมากที่สุดคือ แมวที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อาจยอมกินอาหารใกล้ ๆ กันได้ แต่จะไม่กินอาหารจากภาชนะเดียวกัน
เรื่องนี้ก็เปรียบเหมือนกับการจัดการทรัพยากรให้เพียงพอต่อแมวในบ้าน ถ้าแมวบางตัวรู้สึกว่า ไม่มีอาหารเป็นของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นเพราะภาชนะใส่อาหารไม่เพียงพอ แมวก็จะไม่ยอมกินอาหาร และอาจมีผลทำให้แมวเกิดภาวะขาดสารอาหาร และเจ็บป่วยได้
แมวไม่ชอบกินอาหารร่วมกับตัวอื่น เพราะความต้องการแตกต่างกัน
แมวแต่ละตัว แม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่ก็มีความต้องการทางโภชนาการ หรือความชอบอาหารที่ไม่เหมือนกัน โดยปัจจัยเหล่านี้อาจรวมไปถึงปัจจัยเรื่องช่วงวัย ขนาดตัว น้ำหนัก กิจวัตรประจำวันของแมวแต่ละตัว และโรคประจำตัวของแมว
ยกตัวอย่างเช่น แมวช่วงวัยเด็กควรได้รับอาหารสูตรแมวเด็ก และไม่ควรกินอาหารสูตรแมวโต เนื่องจากปริมาณสารอาหารสูตรแมวโตไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ที่กำลังเจริญเติบโต เป็นต้น ในทางกลับกัน แมวที่โตเต็มวัยที่สุขภาพแข็งแรงปกติ ก็ไม่ควรกินอาหารสูตรแมวเด็ก เนื่องจากสารอาหารไม่สอดคล้อง และไม่สมดุล กับความต้องการของร่างกาย
นอกจากนี้ น้องแมวที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน หรือโรคภูมิแพ้ ซึ่งโรคเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมโภชนาการตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับอาหารประกอบการรักษาโรค หรือกินอาหารตามที่สัตวแพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้ความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น

วิธีการ และการจัดการ ให้อาหารแมวอย่างเหมาะสม
ผู้เชี่ยวชาญ และสัตวแพทย์ ด้านพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง ได้แนะนำวิธีการหลากหลายวิธี ให้เราสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแมวในบ้านของตัวเอง ดังนั้น เจ้าของแมวจึงควรพิจารณาความพร้อมของตัวเองในการเลี้ยงแมว และเลือกใช้วิธีที่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง
1. จัดตั้งจุดให้อาหารแมวหลายจุด
แมวแต่ละตัวควรมีจุดกินอาหารและน้ำเป็นของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยลดปัญหาทางพฤติกรรมต่าง ๆ ของแมวได้มากมาย โดยสามารถใช้หลักการ n + 1 เมื่อ n = จำนวนแมวในบ้าน เช่น เรามีแมวในบ้านทั้งหมด 3 ตัว จำนวนภาชนะสำหรับน้ำและอาหารควรมี 4 จุด เป็นต้น
2. ตรวจสอบพฤติกรรมการกนของแมวแต่ละตัว
แมวแต่ละตัวมีพฤติกรรมการกินอาหารไม่เหมือนกัน แมวบางตัวกินอาหารเร็ว ส่วนบางตัวกินช้า และเวลาการกินอาหารของแมวแต่ละตัวก็ไม่ตรงกันด้วย ซึ่งแมวทุกตัวจะไม่กินอาหารทั้งหมดภายในครั้งเดียว แต่จะกินทีละนิด และจะกลับมากินซ้ำอีกครั้ง โดยจะมีช่วงเวลาในการกลับมากินอาหารไม่พร้อมกัน เจ้าของจึงควรแยกภาชนะสำหรับใส่อาหาร สำหรับแมวแต่ละตัว
3. ให้อาหารโดยการแยกห้อง
แมวบางตัวอาจไม่ยอมกินอาหารเลย ถ้าพบว่ามีแมวอีกตัว หรือมีคนอยู่ในห้อง ดังนั้น เจ้าของแมวต้องแก้ปัญหา ด้วยการจัดวางชามอาหารไว้คนละห้องกัน โดยอาจจะวางไว้ในห้องครัว หรือในห้องแยกเฉพาะสำหรับแมวบางตัว
โดยสรุปแล้ว เหตุผลที่แมวไม่ชอบกินอาหารร่วมกับแมวตัวอื่น เนื่องจากหลายปัจจัย แมวส่วนใหญ่กินอาหารแบบสันโดษ ซึ่งหมายคึวามว่า แมวอาจเกิดความเครียดได้ ถ้าไม่มีจุดให้อาหารเป็นของตัวเอง ดังนั้น เจ้าของต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยความเข้าใจ และเหมาะสม เพื่อให้แมวทุกตัวเข้าถึงอาหารได้อย่างปลอดภัย และป้องกันปัญหาด้านพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
บทความโดย
ณภัทรดนัย
ข้อมูลอ้างอิง
petMD – How To Feed Cats Separately in a Multi-Cat Home
Catology – Don’t Feed Cats Together!
Class Act Cats – Please Stop Feeding Your Cats Near Each Other
Feline Purrspective – The Behavior of Feeding – Why Separate Cats When Feeding
Hill’s – Tips & Resources for Feeding Your Cat
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – แมวป่า VS. แมวบ้าน
