เจ้าแมว เป็นเพื่อนสี่ขาแสนรักของมนุษย์มาแต่ไหนแต่ไร โดยธรรมชาติแมวเป็นสัตว์ที่เป็นนักล่า มีความรักสันโดษ มีความเป็นส่วนตัวสูง และ รักอิสระ จนเราอาจจะคิดว่า แมวนั้นเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงธรรมดา ที่อาจจะไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ แล้วยิ่งดูกิจกรรมในแต่ละวันของเหล่าแมว กิน นอน เล่น ฝนเล็บ นวดเจ้าของบ้างพอเป็นพิธี ประโยชน์ในการเลี้ยงแมว
ซึ่งอาจจะต่างจากสุนัขที่ทั้งเฝ้าบ้านได้ ขอมือได้ สั่งฝึกให้เก็บของได้ เอาใจเจ้านายที่รักได้เก่งกว่า แต่จริงๆ แล้วนั้นวิถีชีวิตความเป็นแมวมันสร้างสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขกับคนเลี้ยงได้อย่างแบบที่เราอาจจะไม่รู้ตัว ค่อยๆซึมซาบทีละนิดๆ แล้ววันนี้ บ้านและสวน Pets จะพาไปเปิดมุมมอง 7 ประโยชน์ในการเลี้ยงแมว ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
1. แมวทำให้เราผ่านช่วงเวลายาก ๆ ในชีวิตไปได้
ในเชิงจิตวิทยานั้น ช่วงเวลาที่ยากยิ่งอย่างหนึ่งของคนเรา คือการสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักไป แมวสามารถรับรู้ถึงความรู้สึก การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ รวมถึงสัมผัสของคนเราได้ การที่เจ้าของได้พูดคุยกับแมว สัมผัสตัวแมว การระบายความรู้สึกให้กับแมว ช่วยในการบำบัดความเจ็บปวดให้หายเร็วขึ้น ระยะเวลาความเจ็บปวดต่อเรื่องนั้นๆลดลง เพราะว่าส่วนหนึ่งแมวจะไม่สามารถซ้ำเติมความผิดพลาด หรือ ตัดสินแบบคนได้ ในต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่น มีแมวที่ทำอาชีพ เป็นแมวนักบำบัด หรือ Cat Therapist ช่วยบำบัดอาการในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคสมองเสื่อม หรือ ผู้ป่วยที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง ดังนั้น แมวจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการบำบัด ที่จะทำให้ความเจ็บปวดภายใน ให้หายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
2. ลดความเสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจวาย
การเลี้ยงแมว ช่วยลดระดับความเครียด ลดความวิตกกังวล การลูบคลำ หรือ การที่แมวมาคลอเคลียส่งผลทำให้เกิดความสงบภายในจิตใจ จากการศึกษาพบว่า ในระยะเวลา 10 ปี เจ้าของแมวมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิต จากอาการหัวใจวาย หรือ โรคหลอดเลือดในสมองน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้เลี้ยงแมวถึง 30% นอกจากนั้น ยังช่วยรักษาระดับความดันโลหิตและลดความเครียดได้ จากการวิจัยของศูนย์ศึกษาการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ของมหาวิทยาลัยมิสซูรีพบว่า การเลี้ยงดู และ เล่นกับแมวช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งเป็น “ฮอร์โมนแห่งความเครียด” น้อยลง จึงส่งผลให้ช่วยรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่สมดุลและช่วยลดความเครียดลงด้วย
3.เสียง purring ของแมว สามารถช่วยลดโรคได้
เสียงการคราง หรือ purring ของแมวจัดอยู่ในช่วงความถี่ 20-140 เฮิรตซ์ เป็นช่วงความถี่ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการหลั่ง ฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ที่รู้จักกันในชื่อ “สารสุข” ในมนุษย์ ซึ่งจะทำให้ช่วยลดความเครียด ลดความดันโลหิต และสามารถใช้รักษาโรคบางอย่างได้ อย่างเช่น ลดอาการหอบหืด ช่วยในการรักษาโรคกระดูก เนื้อเยื่อ ข้อต่อ หรือ แผลให้หายเร็วขึ้น เป็นต้น
4. แมวช่วยสร้างสเน่ห์ในการดึงดูดเพศตรงข้ามได้มากขึ้น
ถ้าคุณเป็นผู้ชายโสด แล้วคุณยังไม่มีเดทซักที ให้คุณเลี้ยงแมว!! มีการสำรวจความคิดเห็นของสตรีชาวอังกฤษ พบว่าร้อยละ 82 บอกว่าผู้ชายที่ชอบเลี้ยงแมวดูมีแรงดึงดูดให้ชอบมากขึ้น และ ผลสำรวจ 90% ของผู้หญิงโสดบอกว่า ผู้ชายที่เลี้ยงแมวนั้นดูเป็นคนน่ารัก สุภาพ และ เป็นมิตร มากกว่าคนอื่นๆ ยิ่งถ้ามีรูปโปรไฟล์คู่กับแมวด้วยแล้วนั้น จะยิ่งมีผลตอบรับที่ดี ผ่านเดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักมาแล้ว หากคุณผู้ชายท่านไหนยังโสดอยู่ อาจจะลองพิจารณาประโยชน์ข้อนี้กันดูอีกที แต่โปรดจำไว้ว่าแมวเป็นสิ่งที่มีชีวิต หากพบคนที่ถูกใจแล้ว เราต้องดูแลน้องแมวไปตลอดช่วงชีวิตของเค้าด้วยเช่นกัน
5.คนเลี้ยงแมวนั้นฉลาด
การสำรวจของเจ้าของสัตว์เลี้ยงชาวอังกฤษในปี 2010 จากมหาวิทยาลัยบริสตอลพบว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของแมวมีระดับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยมากกว่าคนเลี้ยงสุนัข และในปี 2014 มหาวิทยาลัยคาโรล ในรัฐวิสคอนซิน เผยว่า หลังการทดสอบไหวพริบระหว่างผู้ที่เลี้ยงแมวกับสุนัขพบว่า ผู้ที่เลี้ยงแมวมีไหวพริบมากกว่าผู้ที่เลี้ยงสุนัข ซึ่งนักจิตวิทยาเชื่อว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวน่าจะสืบเนื่องมาจาก ผู้ที่เลี้ยงแมวให้ความสนใจในเรื่องรอบ ๆ ตัวมากกว่า ซึ่งเหมือนนิสัยของแมวนั่นเอง
6.แมวเป็นสัตว์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มีงานวิจัยในปี 2009 บอกว่า ถ้าคำนึงถึงการเลี้ยงสัตว์กับผลต่อสิ่งแวดล้อมนั้นพบว่า การที่เราเลี้ยงแมว ปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) น้อยกว่าสุนัขหลายเท่าตัว การดูแล และให้อาหารสุนัขสามารถปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่ากับได้กับรถยนต์หนึ่งคัน ในขณะที่แมวซึ่งเป็นสัตว์ที่กินน้อย และ อาหารที่แมวกินส่วนใหญ่ก็ยังเป็นปลามากกว่าเนื้อสัตว์ และ ข้าวโพด ดังนั้น จึงทำให้มีระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า โดยมีขนาดเทียบเท่ากับลูกกอล์ฟเท่านั้นเอง
7.แมวสามารถทำให้ผู้เลี้ยงเข้ากับคนรอบข้างได้ดีขึ้น
เนื่องจาก เด็กที่เติบโตมาพร้อมกับแมวจะมีการฝึกฝนการวิเคราะห์ความคิด และ ความรู้สึกไปในตัว ซึ่งจากประสบการณ์ดังกล่าวนี่เอง ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถเข้ากับคนรอบข้างได้ดี แถมยังสามารถวิเคราะห์ การกระทำของพวกเขาที่มีอิทธิพลกับคนอื่นได้ด้วย
บทความโดย
สพ.ญ. ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์
Piyawun Phurahong , DVM
สัตวแพทย์ประจำคลินิกโรคแมว โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ