แมวชอบกินสิ่งแปลกปลอม ที่ไม่ใช่อาหาร หรือที่เรียกว่า PICA เป็นข้อควรระวังอย่างหนึ่งสำหรับการเลี้ยงแมว ที่ผู้ปกครองควรคอยสังเกต และเฝ้าระวังไม่ให้น้องกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของน้องได้
แมวชอบกินสิ่งแปลกปลอม ที่ไม่ใช่อาหาร เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในแมวบางสายพันธุ์ เช่น แมวไทย แมวเบอร์มีส และแมวตองกีนีส เป็นต้น ซึ่งสันนิษฐานว่า สาเหตุอาจเกิดจากความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมในแมว อย่างไรก็ตาม แมวสายพันธุ์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ก็อาจแสดงพฤติกรรม PICA หรือชอบกินสิ่งของที่ไม่ใช่อาหารได้เช่นกัน
สิ่งแปลกปลอมอะไรบ้าง ที่น้องแมวชอบกิน
จากกรณีน้องแมวส่วนใหญ่ที่กินสิ่งแปลกปลอม แล้วคุณพ่อคุณแม่นำน้องมาหาสัตวแพทย์ พบว่า วัสดุแปลกปลอมส่วนใหญ่ที่ตรวจพบ ได้แก่ พลาสติก เศษผ้า วัตถุที่ผลิตจากยางหรือไม้ กระดาษแก้ว กระดาษแข็ง ทรายแมว โลหะ และก้อนขนของตัวเอง
โดย ช่วงอายุที่พบได้บ่อย คือ ลูกแมวที่อายุน้อยกว่า 3 เดือน จากการสังเกตพฤติกรรมพบว่า ลูกแมวจะเริ่มกัดแทะสิ่งของใกล้ตัว อย่างที่นอนของตัวเอง และพฤติกรรมนี้จะหายไปเมื่อโตขึ้นสู่ช่วงโตเต็มวัย แต่ในแมวบางตัว จะยังคงพฤติกรรมนี้จนกลายเป็นปัญหาทางพฤติกรรม
แล้วเราจะสังเกตได้อย่างไรว่า แมวของเรามีพฤติกรรมกินสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร
ปกติแล้วแมวจะมีการล่าเหยื่อ หรือฝึกซ้อมล่าเหยื่อ ถ้าแมวที่เลี้ยงในระบบปิด น้องอาจจะกัด หรือฉีก วัตถุต่างๆ ภายในบ้าน แต่น้องจะไม่กินและกลืนเข้าไป
สำหรับน้องแมวที่มีพฤติกรรม PICA มักจะกัดและแทะวัตุเหล่านั้นด้วยฟันกรามซี่ใน หลังจากนั้น น้องจะกลืนวัตถุที่เคี้ยวอยู่ลงไป และน้องแมวจะกัด แทะ และกิน สิ่งของที่ชอบอยู่เรื่อย ๆ เช่น ในบางกรณี น้องแมวชอบกินถุงพลาสติก น้องก็จะใช้ปากกัดฉีด และเคี้ยวพลาสติก อยู่เป็นประจำ เพราะน้องอาจรู้สึกชอบรสสัมผัส และมีความสุขกับเสียงในขณะที่ขย้ำพลาสติก
สาเหตุของพฤติกรรม PICA
ทุกวันนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุของพฤติกรรม PICA และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า อะไรคือแรงจูงใจที่น้องแมวชอบกินวัตถุนั้น ๆ รายงานจากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมา พบว่า เมื่อน้องแมวกำลังเคี้ยววัตถุบางอย่างในปาก จะส่งผลให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิดออกมา ทำให้น้องแมวเกิดความรู้สึกมีความสุข และกลายเป็นการเสพติดที่จะเคี้ยวและกินวัตถุเหล่านั้น
ดังนั้น น้องแมวจึงพยายามทำพฤติกรรมนี้ซ้ำ ๆ จนนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ เมื่อเข้าสู่ทางเดินอาหารแล้ว น้องแมวจะขับถ่ายออกนอกร่างกายได้ลำบาก ทำให้เกิดการอุดตันในทางเดินอาหาร หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ เช่น อาเจียน ซึม ไม่ยอมกินอาหาร และบางรายอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออกจากทางเดินอาหาร
ในรายงานบางฉบับพบว่า ลูกแมวที่หย่านมเร็วเกินไป หรือแยกจากฝูงเป็นลูกแมวโดดเดี่ยว มีโอกาสเกิดพฤติกรรม PICA ได้ เนื่องจากไม่มีแม่แมวคอยสอนพฤติกรรมการล่าเหยื่อย่างถูกวิธี จึงทำให้ลูกแมวต้องเรียนรู้วิธีการล่าเหยื่อเอง และกินสิ่งของที่ไม่ใช่อาหารเข้าไป แทนที่จะกัดหรือฉีกเล่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่า ความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้น้องแมวเกิดกพฤติกรรม PICA ได้
การแก้ไขปัญหาพฤติกรรมการกินสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร
กรณีที่เลี้ยงแมวในระบบปิดพบว่า ความเครียดจากการจำกัดพื้น และสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนธรรมชาติของแมว อาจมีผลกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม PICA สัตวแพทย์จึงแนะนำให้ปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสม และให้น้องได้แสดงสัญชาตญาณตามธรรมชาติ เช่น ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับปีนป่ายให้น้องแมว ใช้ของเล่นที่เคลื่อนไหวได้เพื่อให้น้องวิ่งไล่จับ และคุณพ่อคุณแม่ควรใช้เวลาเล่นกับน้องให้มากขึ้น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของน้อง
นอกจากนี้ การปรับอาหารโดยใช้อาหารที่มีเส้นใยสูง และการให้ขนมแท่งแบบนิ่มเพื่อปรับพฤติกรรมการกิน และเสพติดการเคี้ยววัตถุแปลกปลอม ในบางรายอาจใช้น้ำมันยูคาลิปตัส หรือ Bitter Apple ทางบริเวณพื้นผิวของวัตถุ เพื่อให้มีรสชาติไม่พึงประสงค์ แล้วน้องแมวจะเลิกสนใจการกัดแทะวัตถุนั้น เนื่องเป็นรสชาติที่น้องแมวไม่ชอบ ซึ่งการใช้วิธีนี้ได้ผลกับแมวบางตัวเท่านั้น
การรักษาพฤติกรรมการกินสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร หรือ PICA อาจต้องทำควบคู่กับการประเมินสิ่งแวดล้อมที่แมวอยู่ด้วยว่า มีปัจจัยภายนอกอะไร ที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมนี้หรือทำให้เกิดความเครียด ในแมวบางรายอาจจะต้องมีการใช้ยากิน เพื่อปรับพฤติกรรมควบคู่กับการรักษาร่วมด้วย
เรื่อง สพ.ญ.ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์ สัตวแพทย์ โรงพยาบาลแมว PURRfect Cat Hospital
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ แมวซึมและอาเจียน อาการเบื้องต้นของโรคไข้หัดแมว