ประวัติสายพันธุ์
ชิบะ อินุ (柴犬 : Shiba Inu) เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นทั้ง 6 สายพันธุ์ มีความคล่องแคล่วว่องไวซึ่งเข้ากับภูมิประเทศที่เป็นภูเขาได้เป็นอย่างดี แต่เดิมชิบะอินุถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้เหมาะกับการล่าสัตว์ โดยมีลักษณะที่คล้ายกับสุนัขพันธุ์อาคิตะ (Akita) แต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า และเป็นหนึ่งในสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ไม่กี่สายพันธุ์ที่อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มาของชื่อ
“อินุ” เป็นคำภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สุนัข แต่ที่มาของคำว่า “ชิบะ” ที่เติมไว้ข้างหน้านั้นมีที่มาไม่ชัดเจน คำว่า ชิบะ หมายถึง “พุ่มไม้” ในภาษาญี่ปุ่นและหมายถึงชนิดของต้นไม้หรือไม้พุ่มที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง จึงทำให้บางคนเชื่อว่าชิบะได้รับการตั้งชื่อตามความคิดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเนื่องมาจากการเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้หรือเพราะสีที่พบมากที่สุดของชิบะอินุมีสีแดงคล้ายกับพุ่มไม้ อย่างไรก็ตามในภาษาท้องถิ่นนากาโนะคำว่า ชิบะ ก็สามารถแปลว่า “เล็ก” ได้ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าสุนัขมีขนาดตัวที่เล็กจึงทำให้คำว่า ชิบะอินุ บางครั้งก็ถูกแปลความหมายว่าเป็น “สุนัขพุ่มไม้ตัวน้อย”
ลักษณะทางกายภาพ
ชิบะเป็นสุนัขรูปร่างกะทัดรัด มีกล้ามเนื้อที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี โดยเพศผู้และเพศเมียมีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพศผู้สูงประมาณ 14 นิ้วครึ่งถึง 16 นิ้วครึ่ง (35–43 ซม.) โดยวัดจากส่วนที่สูงที่สุดของหลัง เพศเมียสูงประมาณ 13 นิ้วครึ่งถึง 15 นิ้วครึ่ง (33–41 ซม.) ขนาดที่เป็นที่ต้องการ คือ ค่ากลางของแต่ละเพศ น้ำหนักเฉลี่ยของขนาดที่ต้องการอยู่ที่ประมาณ 23 ปอนด์ (10 กิโลกรัม) สำหรับเพศผู้และ 17 ปอนด์ (8 กิโลกรัม) สำหรับเพศเมีย
ชิบะมีขน 2 ชั้น โดยขนชั้นนอกมีลักษณะแข็งและตรง ส่วนขนชั้นในจะนุ่มและหนา มีขนสั้นแม้กระทั้งบนใบหน้า, หู, และขา ขนชั้นนอกที่ยื่นออกจากร่างกายมีความยาวประมาณ 1 นิ้วครึ่งถึง 2 นิ้วโดยวัดความยาวจากส่วนที่สูงที่สุดของหลัง ขนหางยาวเล็กน้อยและตั้งขึ้นม้วนเป็นพุ่ม ชิบะอาจจะมีสีขนเป็นสีแดง, สีดำและสีแทนหรือสีงาแดง (ตรงโคนจะเป็นสีแดงส่วนปลายขนจะเป็นสีดำ) และขนชั้นในที่มีสีครีม, สีน้ำตาลอมเหลืองหรือสีเทา ชิบะอินุอาจจะมีขนสีครีมซึ่งเป็นข้อด้อยหลักและไม่ควรนำไปขยายพันธุ์ เนื่องจากลายที่ต้องการซึ่งเรียกว่า “urajiro” (裏白) นั้นจะไม่ปรากฏให้เห็น “Urajiro” แปลว่า “สีขาวด้านล่าง” โดย urajiro (สีขาวจนถึงสีครีม) ต้องมีอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ทั้งหมดคือที่ด้านข้างของบริเวณรอบปาก, บนแก้ม, ด้านในหู, ใต้คาง, ข้างใต้คอบริเวณด้านในของขา, บนท้องและด้านในของหาง ปกติจะพบสีแดงได้ที่คอ, ที่อกด้านหน้าและหน้าอก ส่วนสีดำและสีงาโดยทั่วไปจะพบเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมทั้งสองด้านของอกด้านหน้า
มาตราฐานสายพันธุ์ญี่ปุ่น
มีความกล้าหาญ, ความอัธยาศัยดี, มีความมั่นใจในตนเองและดูดีตามธรรมชาติ โดยธรรมชาติแล้วชิบะเป็นสุนัขที่รักความเป็นอิสระและจะระแวดระวังภัยจากคนแปลกหน้า แต่จะมีความรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ซึ่งบางครั้งอาจพบว่าชิบะสามารถแสดงความก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่นได้
คำว่า “กล้าหาญ” (悍威 kan’i), “อัธยาศัยดี” (良性ryōsei) และ “ความร่าเริง” (素朴 soboku) เป็นการตีความชิบะที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีการกล่าวถึงเป็นจำนวนมาก
ชิบะเป็นสายพันธุ์ที่รักความสะอาดและมักจะทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่สะอาดอยู่เสมอ จึงมักจะเลียอุ้งเท้าและขาเหมือนกับแมว โดยทั่วไปเวลาชิบะออกไปข้างนอกเพื่อไม่ให้ขนสกปรกมันจะหลีกเลี่ยงการเหยียบแอ่งที่เป็นโคลนและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ลูกสุนัขชิบะมีความง่ายต่อการฝึกให้ขับถ่ายนอกบ้าน บ่อยครั้งพบว่าชิบะสามารถไปขับถ่ายเองได้เพียงเจ้าของนำมันไปไว้นอกบ้านหลังมื้ออาหารและหลังจากตื่นก็เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับหรับการฝึกสอนชิบะให้รู้จักวิธีการขับถ่ายให้เป็นที่
ลักษณะที่สังเกตได้ของสายพันธุ์นี้คือสิ่งที่เรียกว่า “shiba scream” เมื่อได้รับการกระตุ้นหรือเมื่อไม่พอใจ สุนัขจะสร้างเสียงกรีดร้องที่ดังและแหลมสูง สุนัขอาจเปล่งเสียงลักษณะเดียวกันในช่วงเวลาที่มีความสุขมาก เช่น การกลับมาของเจ้าของหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานหรือเมื่อได้พบกับบุคคลที่สุนัขชื่นชอบ
อายุขัย
โดยทั่วไปอายุขัยของชิบะอินุอยู่ในช่วงระหว่าง 12-15 ปี
ลักษณะนิสัย
ชิบะอินุเป็นสุนัขที่ฉลาดและรักอิสระ เจ้าของบางคนต้องใช้ความพยายามในการฝึก เพื่อให้เชื่อฟังคำสั่ง เช่นเดียวกับในสุนัขส่วนใหญ่การเข้าสังคมของลูกสุนัขสามารถส่งผลกระทบต่อการแสดงออกทางอารมณ์เป็นอย่างมาก สุนัขสายพันธุ์เก่าแก่โดยส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะรักอิสระและมีความเฉลียวฉลาด ตัวอย่างเช่น ชิบะอินุ ชิบะควรอยู่ในสายจูงเสมอ เว้นแต่ว่าจะอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยเพราะชิบะชอบที่จะวิ่งไล่สัตว์ที่ตัวเล็กกว่า
การเข้ากับเด็ก
ชิบะอินุเป็นสุนัขที่ดีของครอบครัวตราบใดที่พวกมันได้ผ่านการฝึกการเชื่อฟังและฝึกการเข้าสังคมอย่างเหมาะสม ชิบะเข้ากับเด็ก ๆ ที่เข้าใจวิธีโต้ตอบกับสุนัขและปฏิบัติต่อพวกมันด้วยความเมตตาและความเคารพ อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ สิ่งสำคัญคือเด็ก ๆ จะต้องได้รับการดูแลอยู่เสมอเมื่ออยู่กับสุนัข
การดูแล
การออกกำลังกาย
ถึงแม้ว่าชิบะอินุจะมีขนาดตัวที่เล็ก แต่ก็เป็นสุนัขที่มีความกระตือรือร้น การที่จะรักษาสุขภาพของชิบะอินุรวมถึงทำให้สุนัขมีอารมณ์ดี ชิบะจึงต้องการการออกกำลังกายอย่างหนักในแต่ละวัน พาชิบะไปเดินเล่นวันละหลาย ๆ ครั้ง และให้มั่นใจว่าสุนัขมีเวลาที่มากพอสำหรับการวิ่ง
เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วชิบะอินุมักจะไม่เป็นมิตรกับสุนัขตัวอื่น ๆ การพาสุนัขไปที่สวนสาธารณะ เพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ จึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ดังนั้นจึงแนะนำให้ชิบะได้อาศัยอยู่ในบ้านที่มีสนามขนาดใหญ่ และมีรั้ว
เพื่อให้แน่ใจว่าชิบะจะไม่รู้สึกเบื่อ ให้หาของเล่น และเกมจำนวนมากแบบที่มีลักษณะการโต้ตอบให้พวกมัน เพียงแค่ชิบะได้วิ่งไล่ลูกบอลในสนามหญ้าเช่นเดียวกันกับได้แก้เกมปริศนาของของเล่นมันก็มีความสุขแล้ว
อาหาร
อาหารที่แนะนำให้สำหรับชิบะอินุคืออาหารที่มีคุณภาพสูงในปริมาณ ½ – 1 ½ ถ้วยในแต่ละวัน โดยแบ่งออกเป็นสองมื้อ สำหรับอาหารเม็ดสำหรับชิบะให้หาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่ามีเนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนหลัก
นอกจากนี้พยายามหลีกเลี่ยงอาหารสุนัขที่มีสวนผสมหลักเป็นข้าวสาลี, ข้าวโพด, หรือถั่วเหลือง รวมถึงอาหารจำนวนมากที่เป็นผลพลอยได้มาจากส่วนผสมเหล่านั้น
โรคประจำสายพันธุ์
- โรคผิวหนัง
- โรคภูมิแพ้ (Allergies)
- โรคระบบประสาท
- ภาวะวิตกกังวลต่อการแยกจาก (Separation Anxiety)
- โรควิตกกังวล (Anxiety)
- โรคลมชัก (Epilepsy)
- โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder)
- โรคระบบทางเดินหายใจ
- ภาวะน้ำเหลืองคั่งในช่องอก (chylothorax)
- โรคระบบต่อมไร้ท่อ
- ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism)
- โรคระบบโครงกระดูก ข้อต่อ และโครงสร้าง
- โรคสะบ้าเคลื่อน (luxating patella)
- โรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ (hip dysplasia)
- โรคตา
- ต้อหิน (glaucoma)
- ต้อกระจก (cataracts)
- โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy : PRA)
- มะเร็ง
- โรคมะเร็ง (cancer)
เรื่อง : ธันยพร แท่นนอก