อย่ามองข้ามเมื่อแมวขย้อนก้อนขน

ภาพที่คนเลี้ยงแมวมักจะเห็นเป็นประจำก็คือน้องแมวกำลังนั่งเลียขนตัวเอง ซึ่งบางตัวก็ชอบเลียตัวเองมากๆแบบที่เห็นทีไรก็กำลังนั่งเลียขนอยู่ทุกที

แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการที่แมวเลียขนตัวเองไม่ใช่แค่เป็นการทำความสะอาดร่างกายเท่านั้นแต่ยังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

  • การเลียขนหลังจากที่แมวไปนอนอาบแดดเป็นการรับวิตามินดี (Vitamin D) เข้าร่างกาย 
  • การเลียขนเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ของน้องแมว
  • การเลียขนเป็นการช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย เนื่องจากแมวไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนกับมนุษย์ แมวจึงใช้วิธีการเลียขนให้เปียกแล้วปล่อยให้แห้งเอง
  • เมื่อแมวกำลังรู้สึกเครียดสับสนหรือเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ แมวจะเลียขนตัวเอง
  • ช่วงผลัดขนตามธรรมชาติแมวจะใช้วิธีเลียตัวเพื่อให้ขนหลุดออกไปจากร่างกาย
  • หากเป็นโรคผิวหนัง เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือโรคที่เกิดจากตัวหมัดตัวไรทำให้แมวมีอาการคันผิวหนังแมวจะเลียขนตัวเองซ้ำๆในบริเวณที่คัน

จากสาเหตุต่างๆ ข้างต้นการขย้อนก้อนขน (Hairball) จึงสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในแมวสายพันธุ์ขนสั้นและในแมวสายพันธุ์ขนยาว แมวแต่ละตัวจะมีความถี่ในการขย้อนก้อนขนที่แตกต่างกัน ในบางตัวอาจขย้อนก้อนขนออกมาทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน บางตัวก็ขย้อนก้อนขนเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น แต่ถ้าเทียบกันในแมวสายพันธุ์ขนยาวและสายพันธุ์ขนสั้น แมวสายพันธุ์ขนยาวจะมีอัตราการขย้อนก้อนขนมากกว่าแมวสายพันธุ์ขนสั้นถึง 2 เท่า

เวลาที่แมวเลียตัวเองลิ้นของแมวจะลักษณะเป็นหนามแหลมทำหน้าที่คล้ายหวี ตุ่มหนามถี่ ๆ ที่ลิ้นจะช่วยดักจับสิ่งสกปรกที่ติดตามตัวรวมถึงเซลล์ขนที่ตายแล้วสางออกจากตัว ขนที่หลุดออกมาจากการเลียตัวของแมว แมวจะกลืนขนเหล่านั้นเข้าไปในทางเดินอาหาร ยิ่งในช่วงผลัดขนแมวจะกลืนขนเข้าไปมากกว่าปกติถึง 3 เท่า วิธีที่แมวใช้ในการขับก้อนขนออกจากร่างกายก็คือการอาเจียนหรือคำที่เราคุ้นเคยพูดกันว่า “การขย้อนก้อนขน” ก้อนขนที่ถูกขย้อนออกมาพบได้ทั้งแบบเป็นแท่งยาวๆรีๆหรือเป็นก้อนกลมๆ  และอีกวิธีคือการขับออกมาทางทวารหนัก ขนจะปนออกมาเวลาที่แมวถ่ายหนัก 

แต่ถ้าแมวเลียขนมากเกินไป  หรือมีการสะสมของเส้นขนจำนวนมากจนไม่สามารถขับก้อนขนออกมาจากร่างกายได้ จะทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ถ้าก้อนขนหลุดเข้าไปในช่องคอหอยร่วมกับจมูกจะเกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบหรือหลอดอาหารตีบ วิธีสังเกตอาการคือ แมวมีอาการจาม คลื่นไส้ มีกลิ่นปาก หรือมีน้ำมูก 

หรือในกรณีที่ก้อนขนจำนวนมากสะสมอยู่ที่ระบบเดินทางอาหาร จะนำไปสู่ปัญหา “ก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร” หากปล่อยทิ้งไว้อาจอันตรายถึงชีวิต วิธีสังเกตอาการคือ แมวมีอาการซึม หงอย ไม่ร่าเริง เบื่ออาหาร หรือกินอาหารหรือน้ำน้อยกว่าปกติ มีการจามหรือไอ มีอาการคลื่นไส้พยายามอาเจียนแต่ไม่มีอะไรออกมา จนแมวเริ่มมีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย หากแมวมีอาการเหล่านี้ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด

วิธีการดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร การดูแลเรื่องอาหารของแมวถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะปกติแมวจะเป็นสัตว์ที่ชอบกินเนื้อสัตว์ การให้อาหารที่มีไฟเบอร์หรืออาหารที่มีกากใยในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น Royal Canin สูตร Hairball Care นี้เหมาะสำหรับแมวโตทุกสายพันธุ์อายุ 1 ปีขึ้นไป ที่ช่วยดูแลปัญหาเรื่องก้อนขน (Hairball) โดยเฉพาะ เวลาที่แมวอาเจียนหรือขย้อนก้อนขนออกมาบ่อยๆ อาจส่งผลให้ร่างกายจะสูญเสียอิเล็กโทรไลต์ หรือเกิดภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย ซึ่งอาหาร Royal Canin Hairball Care มีไฟเบอร์ชนิดไซเลียมเป็นไฟเบอร์จากธรรมชาติ 100% มีคุณสมบัติช่วยดักจับเส้นขนในทางเดินอาหารไม่ให้สะสมและลดการรวมกันเป็นก้อนขน ทำให้แมวขับก้อนขนออกทางอุจจาระได้ดีมากขึ้นถึง 2 เท่า ภายใน 14 วัน ด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ยังช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุ และดูแลระบบทางเดินปัสสาวะ หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยในแมวได้อีกด้วย

นอกจากอาหารที่ให้แล้ว ยังรวมถึงวิธีการดูแลด้านอื่นๆที่จะช่วยลดปัญหาการขย้อนก้อนขน คือ การดูแลด้านจิตใจของแมว ไม่ทำให้แมวเกิดความเครียด วิตกกังวล เพราะความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แมวเลียขนบ่อยมากขึ้น การดูแลด้านสุขภาพร่างกายของแมว ใส่ยากำจัดหมัด เห็บหรือไร อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงการไม่ปล่อยให้เป็นโรคผิวหนังต่างๆ และแปรงขนให้แมวอย่างสม่ำเสมอ เป็นการช่วยให้ขนที่ตายหลุดออกจากตัวแมว ลดการกลืนขนเข้าไปนั้นเอง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดปัญหาการขย้อนก้อนขนหรือก้อนขนอุดตันให้เกิดขึ้นน้อยลง

สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Royal Canin ได้ตามร้านpet shop ทั่วไปและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

website : www.royalcanin.com/th
facebook : @RoyalCaninThailand
Application : Royal Canin Club (https://bit.ly/AppRoyalCaninClub
Line :  Royal Canin Thailand 
Tel : 02 026 2456

โพสต์หน้ายังมีเรื่องราวที่ทาสหมาทาสแมวไม่ควรพลาดอย่าลืมกดติดตามเพจบ้านและสวน pets : https://www.facebook.com/BaanlaesuanPets