แมวกินผลไม้อะไรได้บ้าง

แมวจัดว่าเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารที่เหมาะสมกับแมวจึงประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์เป็นหลัก แล้วถ้าเรานึกสนุกอยากให้แมวลองกินผลไม้ล่ะ จะปลอดภัยกับแมวหรือไม่ และ แมวกินผลไม้ อะไรได้บ้าง

เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ ดังนั้น ระบบทางเดินอาหารของแมวจึงไม่ได้เหมาะสมกับการกินพืช หรือผลไม้ รวมไปถึง ในลิ้นของแมวไม่มีต่อมรับรสหวาน ทั้งแมวป่า และแมวบ้าน จึงไม่สนใจอาหารที่รสหวานมาแต่ไหนแต่ไร อย่างไรก็ตาม แมวก็สามารถกินผลไม้ได้หลายชนิด โดยไม่เป็นอันตราย แต่ต้องกินในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น วันนี้ เราจะไปดูกันค่ะว่า แมวกินผลไม้ อะไรได้บ้าง

ทุกครั้ง ก่อนที่เราจะให้อาหารใหม่กับแมว โดยเฉพาะวัตถุดิบสำหรับอาหารมนุษย์ เจ้าของควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง และเริ่มต้นแนะนำอาหารใหม่ ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ถ้าแมวดูไม่สนใจ หรือไม่กินอาหารใหม่ที่เราแนะนำให้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องพยายามบังคับฝืนใจแมว ถ้าพวกเขายังสามารถกินอาหารหลักได้ตามปกติ

แมวกินผลไม้อะไรได้บ้าง

1. กล้วย
กล้วยเป็นแหล่งของวิตามินบี 6 และซี โพแทสเซียม รวมถึงเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพ เจ้าของสามารเตรียมกล้วยสุกเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 – 2 ชิ้น ให้แมวกินเป็นอาหารว่างได้

แมวกินผลไม้, แมวกินสตรอเบอร์รี่

2. แตงโม
แมวกินแตงโมได้เป็นครั้งคราว ในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น โดยต้องนำเมล็ดออกด้วย แตงโมเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมาก จึงช่วยให้แมวได้รับน้ำเพิ่มขึ้น

3. สตรอเบอร์รี่
แมวสามารถกินสตรอเบอร์รี่ได้ในปริมาณเล็กน้อย ถึงแม้ว่า สตรอเบอร์รี่จะประกอบไปด้วยวิตามินซี โฟเลต โพแทสเซียม และแมงกานีส รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ และไฟเบอร์ แต่ประโยชน์เหล่านี้ไม่สามารถส่งผลต่อสุขภาพของแมวได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก ถ้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องสุขภาพจริง ๆ แมวต้องกินในปริมาณมาก ซึ่งนั่นจะส่งผลเสียต่อร่างกายของแมวมากกว่า

4. บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่
แมวสามารถกินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ได้เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ฟลาโวนอยด์ และไฟเบอร์ รวมถึงวิตามินเอ ซี เค และอี เราสามารถหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนให้แมวกิน เพื่อหลีกเลี่ยงการสำลัก

5. แอปเปิ้ล
ภายในเนื้อและเปลือกของแอปเปิ้ลมีวิตามินซี วิตามินเค และเพกตินสูง รวมไปถึงมีไฟโตนิวเทรียนต์ แมวสามารถได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพจากแอปเปิ้ลได้เช่นเดียวกับมนุษย์ เจ้าของอาจเตรียมแอปเปิ้ลให้แมว ด้วยการหั่นเป็นชิ้น หรือลูกเต๋า พร้อมเนื้อและเปลือกก็ได้ แต่ควรนำเมล็ดออกให้หมดก่อน

6. มะม่วง
ผลไม้รสหวานชนิดนี้เป็นผลไม้ที่เจ้าของแมวหลายท่านชื่นชอบ และยังปลอดภัยต่อน้องแมว แมวกินเนื้อมะม่วงได้ แต่ควรให้พวกเขาในปริมาณน้อย ๆ มาก เพียง 1 – 2 ชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น เนื่องจากในมะม่วงสุกมีปริมาณน้ำตาลสูง

7. สับปะรด
เช่นเดียวกับมะม่วง การเตรียมสับปะรดให้กับแมวควรปอกเปลือกออกให้หมด และกินได้เพีนง 1 – 2 ชิ้นเล็ก ๆ เนื่องจากมีปริมาณน้่ำตาลสูง

8. แคนตาลูป
แมวสามารถกินแคนตาลูปได้ ซึ่งเป็นแหล่งวิตามินซี เบตาแคโรทีน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ผลไม้ชนิดนี้มีแคลอรีค่อนข้างต่ำ และมีกลิ่นที่แมวบางตัวชอบ เตรียมแคนตาลูปด้วยการหั่นเต๋าเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนให้แมว

แมวกินผลไม้, แมวกินสตรอเบอร์รี่

ปริมาณที่แมวควรกินผลไม้ต่อวัน (ถ้าแมวยอมกินนะคะ)

ผลไม้ หรือขนมแมวเลีย จัดเป็นอาหารว่าง หรืออาหารเสริมสำหรับแมว ปริมาณที่แนะนำจึงไม่ควรเกินร้อยละ 2 ของอาหารหลัก ผลไม้เป็นอาหารทดแทนขนมแมวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแมวที่ต้องควบคุมน้ำหนัก เจ้าของสามารถเตรียมผลไม้สดที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ได้ และควรแยกให้จากอาหารหลัก

ข้อควรระวังคือ และเจ้าของควรสังเกตคือ แมวบางตัวอาจมีอาการผิดปกติเมื่อกินผลไม้ โดยแสดงอาการผิดปกติของระบบย่อยอาหาร เช่น อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก และเนื่องจากในผลไม้มีปริมาณน้ำตาลสูง จึงไม่ควรให้แมวที่เป็นโรคเบาหวานกินผลไม้

นอกจากนี้ ผลไม้อบแห้งทุกชนิด ไม่ควรให้แมวกินค่ะ รวมไปถึงน้ำผลไม้ และขนมของมนุษย์ที่มีส่วนผสมของสารเติมแต่งต่าง ๆ เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูงเกินไป จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแมวได้

ผลไม้และอาหารเสริมอื่น ๆ เป็นอาหารที่มีประโยชน์แก่น้องแมวก็จริง แต่เจ้าของควรจัดสรรให้แมวได้กินอาหารหลักอย่างเพียงพอ เพราะในผลไม้ และอาหารเสริม มีสารอาหารไม่เพียงพอเท่ากับในอาหารหลัก และก่อนให้แมวกินอาหารใหม่ ๆ หรือผลไม้ที่แมวไม่เคยกินมาก่อน เจ้าของควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่า อาหารที่น้องแมวจะกินเข้าไปมีความปลอดภัย และไม่ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพค่ะ

ข้อมูลอ้างอิง

The Vets – What Fruit Can Cats Eat?

petMD – Which Fruits Can Cats Eat?


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – แมวกินข้าวโพด ได้หรือไม่