การศึกษาของนักวิจัยเกี่ยวกับ อัตราส่วนของขนาดสมองต่อขนาดตัวของสุนัข พบว่า สุนัขฉลาด ไม่ได้มีสมองขนาดใหญ่เสมอไป
การศึกษาเกี่ยวกับ ความฉลาดของสุนัข ที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 รายงานว่า แม้ว่าสุนัขที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อร่วมทำงานกับมนุษย์ หรือใช้งานทุ่นแรง จะแสดงความสามารถที่ซับซ้อนกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็น สุนัขฉลาด กว่าสายพันธุ์อื่นๆ
จากการศึกษาสมองของสุนัขกลุ่มนี้กลับพบว่า สมองของสุนัขที่มีความสามารถหลากหลาย มีขนาดสมองที่หดกระชับมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่กล่าวว่า ถ้าอัตราส่วนระหว่างสมองและขนาดตัวเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลให้ทักษะการใช้ปัญญาซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วย
“จากการศึกษาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ อัตราส่วนขนาดสมองต่อขนาดตัว บ่งบอกถึงความสามารถทางปัญญา แต่ในกรณีของสุนัข ผลลัพธ์กลับแสดงออกในทางตรงกันข้าม” Ana Balcarcel หัวหน้าทีมวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้ และนักชีววิทยาวิวัฒนาการ จากสถาบัน Montpellier Institute of Evolutionary Sciences ประเทศฝรั่งเศส กล่าว
ศึกษา สุนัขฉลาด จากอัตราส่วนระหว่างสมองและขนาดตัวของสุนัข
ทีมของ Balcarcel เริ่มต้นศึกษาเรื่องนี้ด้วยการเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างขนาดสมองกับขนาดตัวของสุนัข โดยวัดขนาดกะโหลกของสุนัขโตเต็มวัย จำนวน 1,682 ตัว จาก 172 สายพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นตัวอย่างที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากนั้น ทีมนักวิจัยได้คำนวนหา “ปริมาตรภายในกะโหลก” ซึ่งหมายถึงขนาดของเนื้อสมองของสุนัข จากนั้นนำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลจากการประเมินพฤติกรรมสุนัข 14 ประการ ซึ่งเป็นการแสดงออกของสุนัขในด้านต่างๆ เช่น ความสามารถในการฝึก พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ ความก้าวร้าว และลักษณะอื่นๆ
“สุนัขสายพันธุ์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์” อย่างไซบีเรียนฮัสกี ซึ่งมนุษย์เพาะพันธุ์ขึ้นมาให้แสดงออกทักษะที่ซับซ้อนเพื่อช่วยทุ่นแรง มีขนาดสมองที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย ส่วนสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านเป็นหลัก อย่างชิวาวา กลับมีสมองขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย
สุนัขสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มฝึกได้ง่ายกว่า มีอัตราส่วนขนาดสมองต่อร่างกายเล็กกว่ามาก โดยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่มนุษย์เคยเลี้ยงไว้ใช้งาน เช่น ไซบีเรียนฮัสกี้ เกรทไพรีนีส และร็อตไวเลอร์ เป็นต้น สายพันธุ์เหล่านี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อทำภารกิจร่วมกับมนุษย์ ทั้งการค้นหา และกู้ภัย การนำทาง และการควบคุมดูแล
งานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า สมองของสุนัขสายพันธุ์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ สามารถควบคุมพฤติกรรม และมีความจำระยะสั้นที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ Balcarcel กล่าวว่า สุนัขที่มีสมองขนาดใหญ่มีเนื้อเยื่อในสมองที่แตกต่างจากสุนัขที่มีสมองขนาดเล็ก
ในงานวิจัยที่ผ่านมาพบหลักฐานที่แสดงว่า สัตว์ที่มีขนาดสมองใหญ่มีความสัมพันธ์กับโอกาสในการรอดชีวิตที่สูงขึ้น รวมไปถึงความสามารถในการประมวลผลของสมองก็สูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การศึกษาครั้งนี้ของ Balcarcel จึงดูขัดแย้งกับข้อมูลที่พบก่อนหน้านี้
“ปัจจัยที่อาจทำให้สุนัขบ้านแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์อื่นคือ สุนัขบ้านไม่ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ พวกเขาถูกคัดเลือกสายพันธุ์โดยมนุษย์ ซึ่งเป็นการคัดเลือกที่ได้กำหนดลักษณะที่มนุษย์ต้องการเอาไว้แล้ว ดังนั้น สุนัขบ้านจึงอาจวิวัฒนาการอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์” Balcarcel แสดงความคิดเห็น
ในการศึกษาครั้งนี้ของ Balcarcel ยังพบว่า สายพันธุ์สุนัขที่มีขนาดสมองใหญ่กว่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงไว้ภายในบ้าน เช่น ชิวาวา ปอมเมอเรเนียน และยอร์กเชียร์เทอร์เรียร์ มีแนวโน้มที่จะแสดงความกลัว และความก้าวร้าว รวมถึงมีความวิตกกังวลเมื่อต้องอยู่คนเดียว และมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจมากกว่า
เป็นไปได้ว่า สุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็กเหล่านี้ได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อให้เป็นเพื่อนคลายเหงาของมนุษย์ จึงมีลักษณะนิสัยที่ต้องการความรัก และเรียกร้องความสนใจ Balcarcel สันนิษฐานว่า ความกลัว และความก้าวร้าว อาจไม่ได้เป็นเรื่องแย่สำหรับสุนัขตัวเล็กเหล่านี้ เมื่อเทียบกับสุนัขที่ต้องทำงานร่วมกัยมนุษย์ที่เพาะพันธุ์ขึ้นมาเพื่อให้ฝึกได้ง่ายขึ้น
“เราสามารถพูดได้ว่า การพันธุ์สุนัขโดยมนุษย์ เป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงสมองได้จริง ไม่ใช่แค่ลักษณะภายนอกที่เราค้องต้องการเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า ที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนแปลงสมองของสุนัขไปในทางที่มีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน” Balcarcel กล่าว
การศึกษานี้ไม่ได้บอกว่าสุนัขสายพันธุ์ใดฉลาดที่สุด
ในอนาคต Balcarcel และทีมวิจัย วางแผนที่จะศึกษาพัฒนาการของสมองสุนัข และการทำงานของสมองในสุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อขยายความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองที่ควบคุมการทำงานในระดับสูง ซึ่งอาจช่วยให้เราเข้าใจถึงประสิทธิภาพของสมอง และการแสดงออกที่สำคัญของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ได้ดีขึ้น
การศึกษาพัฒนาการของสมองอาจช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสุนัข และการกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ได้ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่งพบว่า อัตราส่วนระหว่างสมองของสุนัขบ้าน (Canis lupus familiaris) มีขนาดเล็กว่าสมองของสุนัขป่า (Canis lupus) ประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย
แต่เมื่อเปรียบเทียบในเรื่องการแสดงทางพฤติกรรม สุนัขบ้านจะแสดงความสามารถด้านทักษะทางสังคมที่ซับซ้อนกว่า เช่น การทำงานร่วมกับมนุษษย์ การติดตาม จ้องมอง และการอ่านภาษากายของมุษย์ เป็นต้น
Balcarcel กล่าวทิ้งท้ายถึงเจ้าของสุนัขทุกตัว ไม่ว่าอัตราส่วนขนาดสมองต่อขนาดตัวของสุนัขของเราจะเล็กหรือใหญ่ ผลการศึกษาครั้งนี้ไม่ได้บ่งชี้โดยตรงต่อสติปัญญาของสุนัขเสมอไป เนื่องจาก “สุนัขแต่ละตัวได้รับการผสมพันธุ์มาเพื่อให้มีความสามารถทางปัญญาที่แตกต่างกัน ดังนั้น แม้ว่าสุนัขของเราจะมีสมองเล็ก แต่ก็มีความพิเศษ และเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของตัวเองที่แตกต่างกัน“
ข้อมูลอ้างอิง
Biology Lettter – Breed function and behaviour correlate with endocranial volume in domestic dogs
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – สุนัขดุร้าย เพราะสายพันธุ์ จริงหรือ ?