การดูแลสัตว์เลี้ยง

แมวกินไข่ต้ม ได้หรือไม่

แมวกินไข่ต้ม ได้หรือไม่ เป็นข้อสงสัยที่เจ้าของหลาย ๆ ท่าน ที่กำลังมองหาไอเดียเปลี่ยนอาหารมื้อธรรมดาให้มีสีสันมากขึ้น น้องแมวบางตัวมีนิสัยรักการกินเป็นชีวิตจิตใจ ที่เมื่อถึงเวลาอาหารแล้วยังไม่ยอมเทอาหารให้ พวกเขาก็จะร้องเหมียวเหมียวไม่หยุด จนกว่าจะเห็นอาหารอยู่ในถ้วย ในฐานะของเจ้าของ เราก็อยากลองหารสชาติใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความน่ากินให้อาหารเม็ดปกติด้วย และหลายท่านก็สงสัยว่า แมวกินไข่ต้ม ได้หรือไม่ ไข่ต้มมีประโยชน์ต่อแมวอย่างไร แม้ว่าตามหลักโภชนาการ ไข่ต้มสุกจะเป็นแหล่งโปรตีนและไขมันดี แต่แมวเป็นสัตว์กินเนื้อโดยกำเนิด ซึ่งได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นหลัก ไข่ต้มจึงไม่ควรเป็นแหล่งโปรตีนหลักของแมว ดังนั้น ไข่ต้มควรเป็นอาหารเสริมประเภทโปรตีนสำหรับแมวเท่านั้น ในไข่ต้มที่ประกอบไปด้วยไข่แดงและไข่ขาว มีสารอาหารประเภทโปรตีนและไขมันที่มีประโยชน์กับแมว แต่การให้แมวกินไข่ต้มมากเกินไป หรือบ่อยเกินไป ก็อาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องสุขภาพของแมวได้ เจ้าของควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวการให้อาหารเสริม เพื่อทราบปริมาณสารอาหารที่เหมาะสม และเพียงพอต่อหนึ่งวัน ไอเดียเมนูจากไข่ไก่สำหรับน้องแมว นอกจากไข่ต้มแล้ว แมวสามารถกินไข่สุก (สุกทั้งไข่แดงและไข่ขาว) ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไข่ม้วน ไข่ทอดไร้น้ำมัน หรือไข่น้ำ โดยไม่จำเป็นต้องปรุงด้วยเกลือ หรือเครื่องปรุงรสใด ๆ ข้อควรทราบก่อนปรุงเมนูจากไข่ให้น้องแมว สัตวแพทย์ด้านโภชนาการได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า ในไข่แดงจะมีปริมาณไขัมัน เมนูที่ใช้ทั้งได้แดงและไข่ขาว จึงเป็นอาหารที่มีไขมันสูงสำหรับแมว จึงไม่ควรให้น้องแมวกินบ่อยจนเกินไป ส่วนไข่ต้มที่แยกเฉพาะไข่ขาวอาจใช้โรยเป็นท็อปปปิ้งบนอาหารมื้อหลัก หรือให้น้องแมวกินไข่ขาวเป็นขนมได้ และอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าให้แมวกินทั้งไข่แดงและไข่ขาว อย่างไรก็ตาม ในอาหารเม็ดปกติ […]

อ่านต่อ
แมวแก่, การดูแลแมวแก่

สัตวแพทย์เผย เคล็ดลับการดูแล แมวแก่

การดูแลน้องแมวสุดที่รักของเราไปจนถึงวันหนึ่งที่เขากลายเป็น “แมวแก่” เป็นความปรารถนา และความสุขของทาสแมวทุกคน เมื่อแมวก้าวสู่ช่วงอายุที่มากขึ้น ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่พวกเขาจะเกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา การดูแล แมวแก่ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งหมายถึงการใช้เวลากับพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม และการพาไปพบสัตวแพทย์บ่อยขึ้น อายุขัยโดยเฉลี่ยของแมวบ้านเกือบทุกสายพันธุ์อยู่ที่ประมาณ 13 – 17 ปี และบางสายพันธุ์อาจมีอายุได้มากถึง 22 ปี ดังนั้น ช่วงเวลาที่แมวก้าวสู่ช่วงวัยแก่จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันเกิดครอบรอบอายุ 10 ปีเวียนมาถึง เมื่อน้องแมวเข้าสู่ช่วงวัยแก่ พวกเขาจะทำทุกอย่างในกิจวัตรประจำวันช้าลงกว่าเดิม และมีแนวโน้มที่แมวแก่ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ในฐานะเจ้าของ เราจึงต้องหากิจกรรมบางอย่างที่จำเป็นต่อการส่งเสริมสุขภาพให้กับแมว และตัวเจ้าของก็เป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการดูแลสวัสดิภาพของพวกเขา จัดเวลาเล่นกับแมวเป็นประจำทุกวัน สัตวแพทย์แนะนำว่า เมื่อแมวอายุมากขึ้น พวกเขามักจะไม่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย เจ้าของควรจัดเวลาเล่นกับพวกเขาบ่อยขึ้น แต่ใช้เวลาสั้น ๆ 5 – 7 นาที โดยการใช้ไม้ตกแมว หรือลูกบอลสอดไส้แคตนิป เป็นสิ่งกระตุ้นให้พวกเขาได้ลุกจากที่นอน นอกจากนี้ การสำรวจหนึ่งในสหรัฐอเมริกา พบว่า แมวเด็กสามารถกระตุ้นควากระตือรือร้นของแมวแก่ได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรพิจารณาความพร้อมของคุณให้ถี่ถ้วนและรอบคอบ ก่อนนำลูกแมวตัวใหม่เข้าบ้าน รวมไปถึงคุณต้องรู้จักนิสัยแมวตัวเดิมของคุณอย่างดีด้วย ลองพิจารณาอาหารเสริมสูตรบำรุงกระดูกและข้อ แมวแก่ส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาสุขภาพตามมา โดยเฉพาะ โรคข้ออักเสบ […]

อ่านต่อ

10 ข้อ การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างรับผิดชอบ

สัตว์เลี้ยงทุกตัวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก ดังนั้น การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างรับผิดชอบ จึงเป็นพื้นฐานของทุกคนที่ตัดสินใจอยากเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสักหนึ่งตัว เพราะหนึ่งชีวิตของพวกเขาจะผูกพันอยู่กับเจ้าของไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างรับผิดชอบ ปัจจุบัน การเลี้ยงสัตว์เป็นกระแสที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นทั่วโลก ผู้คนต่างหาเหตุผลมากมายที่อยากรับสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองชื่นชอบเข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน เพื่อหวังจะให้พวกเขาเป็นความสุขทางใจของตนเอง อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างรับผิดชอบ ได้กลายเป็นประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจจากสังคม เนื่องจากจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น บางครั้ง สัตว์เลี้ยงก็ถูกปล่อยปะละเลย จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย สัตว์เลี้ยงหลายล้านตัวต้องเผชิญกับการกลายเป็นสัตว์จร เนื่องจากเจ้าของไม่สามารถเลี้ยงดูได้ตลอดอายุขัย โดยปัจจัยหลักเกิดจากการแบกรับค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่ไหว และอีกปัจจัยหนึ่งคือ เกิดประชากรไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดการทิ้งภาระการดูแลจนกลายเป็นสัตว์จร ดังนั้น การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างรับผิดชอบจึงช่วยส่งเสริมสวัสดิภาพที่ดีแก่ตัวสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ นอกจากนี้ยังช่วยส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมรอบข้าง เหล่านี้คือคำแนะนำที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถปฏิบัติตามได้ทุกวัน เพื่อการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ นำสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ สัตว์แพทย์เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญตลอดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง การได้รับคำแนะนำจากสัตว์แพทย์อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เจ้าของดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างเหมาะสม และการตรวจร่างกายสัตว์เลี้ยงเป็นประจำยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดกับสัตว์เลี้ยงได้ในอนาคต นำสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนตามกำหนด การทำวัคซีนในสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญมากของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของสัตว์เลี้ยง และช่วยส่งเสริมให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยง่าย ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถลดค่าใช้จ่ายการรักษาความเจ็บป่วยของสัตว์ได้ในระยะยาว สร้างอัตลักษณ์ให้สัตว์เลี้ยงของคุณ การสร้างอัตลักษณ์ให้สัตว์เลี้ยง เช่น การใส่ปลอกคอที่ระบุข้อมูลของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ หรือการฝังไมโครชิปใต้ผิวหนังของสัตว์เลี้ยง เป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันวงจรการเกิดสัตว์จร เมื่อสัตว์เลี้ยงของเราหลุดหายออกจากบ้าน ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บนตัวสัตว์จะทำให้ผู้พบเห็นสามารถติดตามหาเจ้าของได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น นำสัตว์เลี้ยงไปทำหมันเมื่อถึงอายุที่เหมาะสม สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีช่วงวัยการเจริญพันธ์ที่แตกต่างกัน การทำหมันจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดประชากรไม่พึ่งประสงค์ ซึ่งตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การจ่ายเงินค่าทำหมันจึงเป็นทางเลือกที่ดี […]

อ่านต่อ