ให้คะแนนแลกชีวิตใหม่: โมเดลสร้างโอกาสให้หมาแมวจรมีบ้าน

บนถนนที่เราเดินผ่านทุกวัน อาจมีสายตาจ้องมองเราด้วยความหวัง — สายตาของ หมาแมวจร ที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอาหาร หรือที่หลบฝนไหม

หมาแมวจร บางตัวเคยมีบ้าน บางตัวไม่เคยได้รับแม้แต่ชื่อ แต่สิ่งที่ทุกชีวิตมีเหมือนกันคือ “หัวใจที่โหยหาความรัก”

ประเทศไทยมีหมาแมวจรกว่า 860,000 ตัว (ข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ ปี 2023) และตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้นทุกปี ปัญหานี้ไม่ใช่แค่ภาพสะเทือนใจตามท้องถนน แต่ยังเกี่ยวพันกับสุขอนามัย ความปลอดภัย และความสมดุลของสังคมเมือง การแก้ปัญหาจึงต้องอาศัยทั้งระบบและหัวใจของทุกคน

หลายองค์กรพยายามยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการทำหมัน ฉีดวัคซีน หรือดูแลรักษา แต่ยังมีสัตว์อีกจำนวนมากที่ต้องการการดูแลระยะยาว โดยเฉพาะ “สัตว์พิการ” ที่มักถูกทอดทิ้งและแทบไม่มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ

หมาแมวจร, แมวจรจัด, สุนัขจรจัด

จากถนนสู่บ้าน: เพราะการรับเลี้ยงไม่ใช่แค่แพชชัน แต่คือภารกิจของหัวใจ

เทรนด์ “Adopt don’t shop” กำลังเติบโตในสังคมไทย และไม่ใช่แค่ความสงสาร แต่คือการสร้างโอกาสใหม่ให้ชีวิตหนึ่งชีวิต งานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า สุนัขในกรุงเทพฯ กว่าร้อยละ 46 เคยเป็นหมาจรหรือถูกทอดทิ้งก่อนจะมีบ้านใหม่ สะท้อนการเปลี่ยนจาก “คนรักสัตว์” สู่ “ผู้ดูแลชีวิตสัตว์” อย่างแท้จริง

ในอีกมุมหนึ่ง องค์กรช่วยเหลือสัตว์อย่าง Rescue P.A.W.S. Thailand ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด ผ่านการทำหมัน ฉีดวัคซีนและดูแลรักษา โดยตั้งแต่ปี 2013 ได้ทำหมันสัตว์กว่า 11,000 ตัว และฉีดวัคซีนกว่า 40,000 ครั้ง เพื่อหยุดวงจรการเกิดสัตว์จรในพื้นที่หัวหินและจังหวัดใกล้เคียง

การรับเลี้ยงหนึ่งชีวิตจึงไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตสัตว์นั้น แต่ยังเป็นการช่วยลดปัญหาสัตว์เร่ร่อนในระยะยาว และสร้างสังคมที่มีความเมตตาอย่างแท้จริง

หมาแมวจร, แมวจรจัด, สุนัขจรจัด

รักสัตว์แบบยั่งยืน: เมื่อความเมตตาเริ่มจากการลงมือ

ในยุคที่ “สัตว์เลี้ยงคือสมาชิกครอบครัว” แนวโน้มการเลี้ยงสัตว์ในไทยเติบโตต่อเนื่อง แต่ความรักที่แท้จริงไม่หยุดแค่การมอบความน่ารักหรือสิ่งของ หากคือ ความรับผิดชอบระยะยาว ตั้งแต่การทำหมัน ฉีดวัคซีน ดูแลสุขภาพ ไปจนถึงไม่ทอดทิ้งเมื่อสัตว์ป่วยหรือแก่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาสัตว์จรอย่างยั่งยืน เพราะการจัดการประชากรต้องเริ่มจากการป้องกัน

กรมปศุสัตว์ชี้ว่าแนวทาง “จับ–ทำหมัน–ฉีดวัคซีน–คืนถิ่น” หรือ CNVR (Catch–Neuter–Vaccinate–Return) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมจำนวนสุนัขและแมวจร พร้อมลดความเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้าในชุมชน เมื่อเราขยายมุมมองออกไปถึงสัตว์จร จะเห็นว่า “ความรักที่ยั่งยืน” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงสัตว์ที่เราเลี้ยง แต่รวมถึงการแบ่งปัน การบริจาค และการช่วยเหลือชีวิตที่ยังรอคอยโอกาสเช่นกัน

การให้คะแนน = การให้ชีวิตใหม่

หลายคนอยากช่วย แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ความจริงคือ การ “ให้” ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่โต เพราะแม้เพียงสิ่งเล็ก ๆ ที่ออกมาจากใจ ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตหนึ่งชีวิตได้ การบริจาคคะแนนอาจดูเล็กน้อยในมุมตัวเลข แต่มีความหมายมหาศาลในมุมของชีวิต หลายครั้งที่หมาแมวพิการได้รับการดูแลจนกลับมาเดินได้ หรือได้บ้านใหม่จากผู้ใจดี สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะ “หัวใจของผู้ให้” ที่อยู่เบื้องหลังทุกคะแนน

นี่คือจุดเริ่มต้นของโมเดลใหม่ที่พลิกวิธีคิด “ให้คะแนนแลกชีวิตใหม่” แทนที่จะปล่อยให้คะแนนสะสมจากการใช้จ่าย ถูกใช้แค่แลกของหรือส่วนลด วันนี้คะแนนเหล่านั้นสามารถกลายเป็นโอกาสให้หมาแมวจรได้มีบ้าน ได้รับการรักษา และกลับมามีชีวิตที่มีคุณค่าอีกครั้ง

เคทีซีเปิดโอกาสให้สมาชิกบัตรเครดิต ใช้คะแนน KTC FOREVER บริจาคผ่าน มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินบริจาค 100 บาท สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารหนึ่งมื้อ หรือยารักษาชีวิตหนึ่งขวด เพื่อดูแลสัตว์พิการที่รอความช่วยเหลือ

ในปี 2568 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม เคทีซีได้มอบเงินบริจาคจำนวน 158,200 บาท ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของสมาชิกที่ร่วมส่งต่อความหวัง คะแนนเล็กๆ จากหลายคนรวมกัน กลายเป็น “ปาฏิหาริย์เล็กๆ” ของเพื่อนสี่ขาที่ไม่เคยหมดหวัง เพราะทุกชีวิตคู่ควรกับความรัก และทุกคะแนนสะสมคืออีกหนึ่งลมหายใจ รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.ktc.co.th/promotion/donation/animals/home-handicapped-animals-foundation

โมเดลนี้ไม่เพียงช่วยสัตว์ แต่ยังสร้างเศรษฐกิจแห่งความเมตตา (Compassion Economy) ที่ทุกการใช้จ่ายของคนเมืองเชื่อมโยงกับการสร้างสังคมที่ดีกว่า เพราะการช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเงินก้อนใหญ่ แค่คะแนนที่คุณมี ก็เปลี่ยนโลกของสิ่งมีชีวิตบางตัวได้


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – หนังสือ สัตว์เลี้ยง และเวลเนส กลายเป็นการลงทุนทางใจ