Advertorial

อาหารที่เหมาะสมกับ ขนาดของสุนัข

การให้อาหารสุนัขที่เหมาะสมกับ ขนาดของสุนัข เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะส่งเสริมให้สุขภาพโดยรวมของพวกเขาสมบูรณ์แข็งแรง สุนัขก็คือสุนัข เมื่อเราพูดถึงเรื่องความต้องการทางด้านโภชนาการแล้ว ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหน อายุ และขนาดตัวเท่าไร ต่างก็ต้องการสารอาหารพื้นฐานที่ครบถ้วนและสมดุล อย่างไรก็ตาม การเลือกอาหารให้กับสุนัขก็มีรายละเอียดเล็กน้อยแต่สำคัญ ที่เจ้าของต้องพิจารณาร่วมด้วย เนื่องจากสารอาหารที่สุนัขได้รับเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพแข็งแรง ดังนั้น การได้รับอาหารที่มีส่วนผสมที่ถูกต้องและเหมาะสม จึงเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของเจ้าของที่ต้องจัดการให้กับสุนัขที่เรารัก เช่น สุนัขในวัยเด็กควรได้รับอาหารสูตรสุนัขวัยเด็ก หรือสุนัขโตเต็มวัย ก็ควรได้รับอาหารสูตรโตเต็มวัย นอกจากนี้ สุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็มีขนาดและน้ำหนักตัวที่ไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการพลังงานขั้นต่ำต่างกัน เจ้าของจึงควรพิจารณาการให้อาหารสุนัขที่สัมพันธ์กับ ขนาดของสุนัข สายพันธุ์ต่าง ๆ ด้วย เริ่มจากวัยลูกสุนัขสายพันธุ์เล็กที่ต้องการพลังงานมาก เนื่องจากมีอัตราการเผาผลาญพลังงานสูง ทำให้ต้องการสารอาหารที่ให้พลังงานมากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ ถ้าลูกสุนัขสายพันธุ์เล็กได้รับพลังงานจากอาหารไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายของลูกสุนัขโดยตรง ในวัยนี้ เจ้าของจึงควรจัดเตรียมอาหารที่ให้พลังงานสูง และแบ่งให้ 3 – 4 มื้อต่อวัน ในขณะที่ลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ที่มีโอกาสเกิดโรคข้อเสื่อมได้ในอนาคต การให้อาหารในลูกสุนัขกลุ่มนี้จึงต้องเป็นอาหารที่ให้พลังงานอย่างเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และมีปริมาณแร่ธาตุที่สมดุล โดยเฉพาะแร่ธาตุฟอสฟอรัสและแคลเซียม ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกของสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เมื่อโตเต็มวัยได้ โดยหลักใหญ่ใจความแล้ว ความต้องการสารอาหารของสุนัขแต่ละตัว ต่างเชื่อมโยงกับความต้องการพลังงานต่อวัน ซึ่งสัตวแพทย์ส่วนใหญ่ใช้เป็นเกณฑ์สำหรับการพิจารณาเรื่องการให้อาหารต่อเนื่องไปจนสุนัขโตเต็มวัย ช่วงโตเต็มวัย คือ ช่วงระหว่างการสิ้นสุดการเจริญเติบโตจนถึงช่วงก่อนสัญญาณแรกของวัยสูงอายุปรากฏขึ้น […]

อ่านต่อ

อาหารสัตว์เลี้ยง แต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไร 

ประเภทของ อาหารสัตว์เลี้ยง ในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครวมถึงให้สัตว์เลี้ยงมีมีความต้องการอาหารที่หลากหลาย ตามหลักการโภชนาการสามารถจำแนก ประเภทของ อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นสามรูปแบบ ประกอบด้วย  ตามหลักโภชนาการ สัตวแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารสัตว์ ไม่สามารถกำหนดได้ว่า อาหารประเภทใดดีที่สุด เพราะอาหารสัตว์แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้น เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรศึกษาข้อดีและข้อควรระวังของอาหารประเภทต่าง ๆ เพื่อการเลือกใช้อาหารสัตว์ได้เหมาะสมมากที่สุด  รายละเอียดของอาหารสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท 1. อาหารเปียก มีความชื้นมากกว่าร้อยละ 60 โดยปกติแล้วจะมีค่าอยู่ระหว่างร้อยละ 70 ถึง 80  อาหารเปียกถือว่าเป็นอาหารที่มีความน่ากินมากที่สุดเมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่น ดังนั้น เมื่อสัตว์เลี้ยงอยู่ในภาวะเจ็บป่วย เบื่ออาหาร กินอาหารยาก หรือต้องป้อนอาหารผ่านสายยาง สัตวแพทย์มักจะเลือกใช้ และแนะนำเจ้าของ ให้อาหารเปียกแก่สัตว์เลี้ยง ข้อดีของอาหารรูปแบบเปียกคือ การส่งเสริมให้สัตว์กินน้ำได้มากขึ้น ถ้าเทียบกันระหว่างน้ำสะอาดกับอาหารเปียก สัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะเลือกกินอาหารเปียก ดังนั้น ในกรณีที่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงกินน้ำเพิ่มขึ้นเช่น กรณีเป็นโรคไต โรคนิ่ว หรือป้องกันการเกิดนิ่ว เป็นต้น การให้กินอาหารเปียกจะส่งเสริมให้สัตว์เลี้ยงได้รับอาหารเพิ่มขึ้น  ข้อควรระวังเมื่อให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารเปียกคือ ถ้าสัตว์เลี้ยงกินอาหารไม่หมดภายใน 30 นาที แนะนำให้ทิ้งอาหารที่เหลือ และล้างภาชนะให้สะอาดทันที เพราะอาหารที่มีความชื้นสูงร่วมกับอากาศร้อนของเมืองไทย ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว […]

อ่านต่อ
ห่างไกลจากเห็บ

วิธีป้องกันสุนัขให้ห่างไกลจากเห็บ หมัด และยุงร้าย

ในช่วงหน้าฝน หรือช่วงที่มีฝนตกบ่อย ๆ เป็นช่วงที่ทำให้สุนัขเสี่ยงต่อการมีปัญหาด้านสุขภาพได้ง่าย เนื่องจากความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะจะทำให้เกิดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงทำให้เกิดการแพร่ขยายพันธุ์ของเห็บ หมัด และยุงได้ดีกว่าฤดูอื่นมากถึง 70% ซึ่งเจ้าสัตว์ตัวเล็กแสนร้ายเหล่านี้ มักจะกลายมาเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ในสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะ ‘โรคพยาธิเม็ดเลือด หรือโรคไข้เห็บ (Canine Blood Parasites)’ โรคยอดฮิตของสุนัขในไทย ที่เมื่อสุนัขโดนเห็บที่มีเชื้อกัดเพียงแค่ครั้งเดียว หรือสุนัขเผลอกัดหรือกินเห็บที่มีเชื้อเข้าไปก็สามารถติดเชื้อได้ สุนัขจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร มีไข้ สีเหงือกซีดกว่าปกติ มีภาวะโลหิตจาง มีจ้ำเลือดออกตามร่างกาย และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีโรคอื่น ๆ ที่มีสาเหตุมาจากเห็บ หมัด และยุงอีกมากมาย อย่างเช่น โรคผิวหนังที่เกิดจากแพ้ยุง โรคพยาธิตัวตืดที่มีหมัดเป็นพาหะ และโรคผิวหนังที่เกิดจากแพ้น้ำลายหมัด รวมถึงโรคพยาธิหนอนหัวใจที่มียุงเป็นพาหะ ซึ่งโรคที่กล่าวมาข้างต้นเหล่านี้ เป็นโรคที่มีความสำคัญส่งผลเสียต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยตรง และบางโรคยังสามารทำให้เสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษา ดังนั้น เจ้าของจึงควรปกป้องสัตว์เลี้ยงที่รักให้ปลอดภัย ห่างไกลจากเห็บ หมัด และยุงร้ายอยู่เสมอ บ้านและสวน Pets ขอแนะนำ FRONTLINE TRI-ACT ผลิตภัณฑ์สำหรับหยดหลังที่ผลิตและคิดค้นโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ […]

อ่านต่อ

เพราะอะไร ความต้องการทางโภชนาการของสัตว์เลี้ยง จึงเปลี่ยนแปลงตามอายุ

ในขณะที่สุนัขของเราเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กไปสู่โตเต็มวัย และวัยชรา พวกเขาต้องการสารอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัย ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกสารอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยของสุนัขกันค่ะ สุนัขต้องการสารอาหารอะไรบ้าง สุนัขแต่ละช่วงวัยต้องการสารอาหารพื้นฐาน 6 ชนิด เหมือนกับมนุษย์ ได้แก่ น้ำ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ และวิตามิน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำงานพื้นฐานทั้งหมดของร่างกาย ดังนั้น หากสุนัขได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัย พวกเขาก็จะมีสุขภาพโดยรวมที่ดีทั้งภายในและภายนอก ช่วงวัยของสุนัขแบ่งอย่างไร และแต่ละช่วงวัยต้องการสารอาหาร อย่างไรบ้าง การจัดจำแนกช่วงวัยของสุนัขอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดตัวของสายพันธุ์ และสุขภาพของแต่ละตัว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ทั่วไปสำหรับการแบ่งช่วงวัยของสุนัข ได้อธิบายไว้ดังนี้ 1. ช่วงวัยลูกสุนัข สุนัขสายพันธุ์เล็ก จะมีช่วงวัยเด็กถึงอายุประมาณ 10 เดือน สุนัขสายพันธุ์ขนาดกลาง ประมาณ 12 เดือน และสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ช่วงวัยเด็กของพวกเขาจะอยู่ที่ประมาณ 18 – 24 เดือน หรือมากกว่านั้น โดยในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่ลูกสุนัขหย่านมแล้ว ต่อจากนี้ ลูกสุนัขจะได้รับสารอาหารทั้งหมดผ่านอาหาร ซึ่งจำเป็นต้องสอดคล้องกับการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างรวดเร็ว อาหารที่เหมาะสมกับสุนัขช่วงวัยเด็กจึงต้องมีสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล […]

อ่านต่อ

ดูแลสัตว์เลี้ยงให้ตรงจุดด้วยสูตร อาหารเฉพาะสายพันธุ์

แมวแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะเฉพาะโดดเด่นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดและน้ำหนักตัว ลักษณะเส้นขน และกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ทำให้สัตว์เลี้ยงต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน การดูแลพวกเขาด้วย อาหารเฉพาะสายพันธุ์ อาจช่วยให้พวกเขาได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสมมากขึ้น อาหารเฉพาะสายพันธุ์ เป็นอาหารแมวที่ได้รับการออกแบบและพัฒนา โดยคำนึงถึงลักษณะประจำสายพันธุ์ เช่น ความยาวของเส้นขน กิจกรรมในชีวิตประจำวัน และแนวโน้มการเกิดโรคประจำสายพันธุ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพของแมวสายพันธุ์แท้ และเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยความแตกต่างกันของสายพันธุ์ โภชนาการที่เหมาะสมกับพวกเขาจึงช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดี จากความนิยมเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน เจ้าของสัตว์เลี้ยงต่างมีความต้องการอยากดูแลแมวของตัวเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี การเลือกอาหารแมวที่มีคุณภาพสูงจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของแมว ดังนั้น ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเองต่างก็พัฒนาสูตรอาหารต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของเจ้าของแมวอย่างตรงจุดที่สุด เนื่องจากแมวที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ และผู้ผลิตอาหารก็ได้มองเห็นความสำคัญของเรื่องโภชนาการที่สัมพันธ์กับสายพันธุ์ของแมว จึงได้ใช้เวลาหลายปีกับการพัฒนาอาหารเฉพาะสายพันธุ์ร่วมกับสัตวแพทย์ และนักโภชนาการ ผ่านการศึกษาวิจัยลักษณะประจำสายพันธุ์ของแมวว่า แต่ละสายพันธุ์มีความต้องการในเรื่องโภชนาการอย่างไร โดยเรื่องปัญหาสุขภาพเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่ผู้ผลิตอาหารแมวใช้พิจารณาเพื่อพัฒนาสูตรอาหารเฉพาะสายพันธุ์ อย่างสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มเกิดโรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก ผู้ผลิตก็ได้พัฒนาสูตรอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อของแมว นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาหารยังคำนึงถึงโครงสร้างร่างกายของแมวซึ่งมีผลต่อการกินอาหารด้วย เช่น สายพันธุ์แมวหน้าสั้นที่กินอาหารเม็ดได้ค่อนข้างลำบาก ผู้ผลิตอาหารจึงได้พัฒนารูปร่างของเม็ดอาหารให้เหมาะสมกับการกินอาหารของแมวสายพันธุ์หน้าสั้น เพื่อให้พวกเขากินอาหารได้ง่ายขึ้น คุณประโยชน์ของ อาหารเฉพาะสายพันธุ์ ปัจจุบัน เจ้าของสามารถเลือกอาหารเฉพาะสายพันธุ์ที่ตรงกับสายพันธุ์แมวที่ดูแลอยู่ได้มากขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตอาหารสัตว์ได้พยายามคิดค้น และปรับปรุงสูตรอาหารเฉพาะสายพันธุ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างของอาหารเฉพาะสายพันธุ์แมวที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน แมวแร็กดอลล์ แมวแร็กดอลกำเนิดขึ้นครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย […]

อ่านต่อ

เพราะบ้านเป็นพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจและความสุข

ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันที่เปิดรับสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ทำให้ผู้คนกลุ่มนี้มองหาบ้านที่ให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบพื้นที่เพื่อสัตว์เลี้ยงมากขึ้น การเลือกบ้านเพื่ออยู่อาศัยของแต่ละคนอาจมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเราจะมีบ้านสักหนึ่ง บ้านหลังนั้นคงต้องเป็นพื้นที่ที่ตอบสนองวิถีชีวิตของสมาชิกในบ้านได้อย่างดี ปัจจุบันนี้ สัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นหนึ่งสมาชิกสำคัญของครอบครัวกันมากขึ้น การออกแบบบ้านและการให้บริการของผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จึงต้องใส่ใจและทำความเข้าใจพื้นฐานความต้องการของสมาชิกขนฟูด้วย เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ต่างต้องการดูแลน้อง ๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และแน่นอนว่า สัตว์เลี้ยงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน การออกแบบบ้านจึงต้องปลอดภัยและเอื้อต่อการใช้ ชีวิตของพวกเขา สร้างความรู้สึกสบายใจ มีความสุขร่วมกันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยง รวมไปถึง พื้นที่โดยรอบของบ้านต้องมีพื้นที่สำหรับการพาสัตว์เลี้ยงออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัย และช่วยส่งเสริมสวัสดิภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง เช่น มีพื้นที่ให้เจ้าของได้จูงสุนัขออกไปเดินเล่นพักผ่อนหรืออกกำลังกาย และมีบริการพิเศษด้านสุขภาพของสัตว์เลี้ยงร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อที่เป็นพันธมิตรอีกด้วย ด้วยความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในยุคปัจจุบัน แสนสิริ ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวตั้งมาเป็นเวลากว่า 40 ปี จึงได้ออกแบบโครงการที่อยู่อาศัยที่เข้าใจทุกความต้องการของสมาชิกในบ้าน ผ่านการออกแบบบ้านและพื้นที่ส่วนกลางด้วยแนวคิด Design for Future: ดีไซน์เพื่อนาคต ที่เล็งเห็นความสำคัญของการออกแบบ และคุณภาพการบริการ โดยให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุที่ปลอดภัย เช่น วัสดุปูพื้นที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของข้อและกระดูกในสัตว์เลี้ยง สีทาบ้านแบบออร์แกนิก และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ที่ทนต่อการขีดข่วน เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ยังออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ด้วยการเปิดตัว Pet Park ในโครงการนำร่องที่สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา ซึ่งได้คำนึงถึงการอยู่ร่วมกันของเจ้าของและสัตว์เลี้ยง […]

อ่านต่อ

แมวสูงวัย ช่วงวัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

ไม่ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยไปนานแค่ไหน เรามักจะเรียกเจ้าขนฟูของเราว่า “น้องแมว” เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อน้องเข้าสู่ช่วง แมวสูงวัย พฤติกรรมบางอย่างของเขาย่อมเปลี่ยนแปลงไป และต้องการการดูแลเอาใจใส่จากเราเป็นพิเศษ โดยปกติ แมวสูงวัย จะเริ่มนับเมื่อแมวมีอายุประมาณ 7 – 8 ปี ซึ่งเราจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพวกเขาหลายอย่าง อย่างแรกคือ พวกเขาจะนอนนิ่ง ๆ มากขึ้น ไม่กะปรี้กะเปร่า มวลกล้ามเนื้อลดลง ซึ่งส่งผลไปถึงการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันน้อยลง เช่น การกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือแม้แต่การเดินเข้ากระบะทราย รวมไปถึงการเลียแต่งขนตัวเองลดลงตามไปด้วย เกิดปัญหาเรื่องเส้นขนพันกันตามมา นอกจากนี้ ระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของแมวสูงวัย จะเสื่อมถอยลง โดยเฉพาะในแมวอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น โรคข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคไต รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะไม่แข็งแรงเหมือนช่วงวัยหนุ่มสาว คำแนะนำจากสัตวแพทย์สำหรับการดูแลน้องแมวสูงวัยให้มีความสุข 1. สังเกต และรับรู้ ความเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแมว […]

อ่านต่อ

นมทดแทนสำหรับลูกสุนัข : ก้าวแรกที่สำคัญของสุขภาพที่แข็งแรง

สุขภาพของลูกสุนัขในวัยแรกเกิดคือช่วงเวลาสำคัญของชีวิต สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตจึงช่วยให้ลูกสุนัขมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง แม้ว่าสุนัขจะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่ในการเลี้ยงดูลูกสุนัขแรกเกิดตามธรรมชาติอยู่แล้วก็ตาม การดูแลจากเจ้าของสุนัขก็มีส่วนสำคัญในการดูแลลูกสุนัขร่วมด้วยเช่นกัน นมทดแทนสำหรับลูกสุนัข นมแม่คือ แหล่งสารอาหารครบถ้วนสำหรับลูกสุนัข ในช่วงวัยแรกเกิด หรือ the early stages of life ร่างกายของลูกสุนัขยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันก็ยังไม่แข็งแรง จึงเป็นช่วงวัยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย นมแม่สุนัขจึงเป็นอาหารเพียงแหล่งเดียวที่เหมาะสม และมีสารอาหารครบถ้วนที่สุดกับลูกสุนัขวัยแรกเกิด สัตวแพทย์ด้านโภชนาการอาหารให้ความคิดเห็นไว้ว่า “สำหรับลูกสุนัขแล้ว นมแม่สุนัข คือสารอาหารที่จำเป็นที่สุด เนื่องจากประกอบไปด้วย พลังงาน โปรตีน กรดไขมันจำเป็น รวมไปถึงแร่ธาตุ อย่างแคลเซียม และฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกสุนัข” แต่ในกรณีที่แม่สุนัขมีปัญหาเรื่องการให้นม ปัญหาด้านสุขภาพของลูกสุนัข หรือให้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงในช่วงการหย่านม เจ้าของสุนัขจะใช้อาหารชนิดใดทดแทนนมแม่สุนัขได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีสารอาหารที่มีประโยชน์ใกล้เคียงนมแม่สุนัขมากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลมากมายที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกใช้นมแพะ เป็นนมทดแทนแม่สุนัข แต่รู้หรือไม่ว่า แม้ลูกสุนัขจะกินนมแพะได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ส่วนประกอบของสารอาหารในนมแพะนั้น แตกต่างจากนมแม่สุนัขอย่างสิ้นเชิง และยังขาดสมดุลทางโภชนาการที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของลูกสุนัขด้วย ตัวเลือกที่เหมาะสมย่อมมีส่วนช่วยให้ลูกสุนัขแข็งแรงสมวัย ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ทดแทนนมสุนัขมีมากมายหลายรูปแบบให้เลือก แต่สิ่งที่ควรพิจารณามากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนนมสุนัขควรมีสารอาหารใกล้เคียงกับนมแม่สุนัขมากที่สุด โดยเจ้าของสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับส่วนประกอบต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ได้ […]

อ่านต่อ
อาหารเปียก, อาหารแมว, อาหารแมว โรยัล คานิน

อาหารเปียก สำหรับสัตว์เลี้ยง: ความน่ากินที่สัตว์เลี้ยงตัวไหนก็อดใจไม่ไหว

อาหารเปียก หนึ่งในประเภทของอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีรสชาติหลากหลาย และมีความน่ากินสูงเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้ว อาหารเปียก สำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัขและแมว ประกอบไปด้วย ความชื้นระหว่างร้อยละ 70 ถึง 80 อาหารเปียกนอกจากจะมีกลิ่น และรสสัมผัสที่เย้ายวน ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ยังสามารถช่วยเพิ่มน้ำในมื้ออาหารได้อีกด้วย อาหารเปียกจึงมักถูกนำไปใช้ร่วมกับการรักษาของสัตวแพทย์ เนื่องจาก สัตว์เลี้ยงในภาวะเจ็บป่วยมักจะเบื่ออาหาร กินอาหารยาก หรือต้องป้อนอาหารผ่านสายยาง สัตวแพทย์จึงเลือกใช้อาหารเปียกในกระบวนการป้อนยา ซึ่งเป็นการช่วยให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารได้มากขึ้น ปัจจุบัน ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงได้สร้างความหลากหลายทางรสชาติ ส่วนผสม และเนื้อสัมผัส ของอาหาร เพื่อให้เจ้าของได้เพลิดเพลินกับการเลือกสูตรอาหารต่างๆ  ซึ่งสูตรทั้งหมดที่พัฒนาขึ้นมาก็เพื่อเสริมสร้างความสุข และสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรัก อาหารเปียก สำหรับลูกแมว ของโรยัล คานิน มีหลากหลายเนื้อสัมผัส ยกตัวอย่างเช่น อาหารเปียก Kitten gravy นอกจากอาหารเปียกสำหรับลูกแมวแล้ว โรยัล คานิน ยังมีอาหารเปียกอีกหลายสูตรสำหรับสุนัขและแมว โดยทุกสูตรผ่านการคิดค้นและพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ จึงมั่นใจได้ว่า สัตว์เลี้ยงจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ที่สำคัญ อาหารเปียกของโรยัล คานิน สามารถใช้แทนอาหารมื้อหลักได้ เนื่องจากได้รับการจดทะเบียนรับรองเป็นอาหารสัตว์ (Complete and Balanced) […]

อ่านต่อ

สัตว์เลี้ยงกินเกลือได้หรือไม่ อย่างไร

เราทุกคนต่างทราบดีว่า การบริโภคเกลือมากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว แล้วถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราล่ะ พวกเขากินเกลือได้ไหม ถ้ากินได้ ควรกินมากหรือน้อยแค่ไหน สุนัขกินเกลือได้ไหม สัตว์เลี้ยง อย่างสุนัข และแมว กินเกลือ ได้ไหม? สุนัขกินเกลือได้ไหมคำตอบ คือ กินได้ ร่างกายของสัตว์เลี้ยงต่างก็ต้องการแร่ธาตุที่จำเป็นเช่นเดียวกับมนุษย์ และ “เกลือ” เป็นหนึ่งในแหล่งแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานในระบบต่าง ๆ โดยในเกลือประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ 2 ชนิดคือ “โซเดียม” และ “คลอไรด์” แร่ธาตุโซเดียมมีส่วนสำคัญในเรื่องรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ การดูดซึมและลำเลียงอาหาร และการทำงานของไต โดยในสูตรอาหารสัตว์เลี้ยงที่จำหน่ายอยู่ทั่วไป ผู้ผลิตมักจะใส่เกลือในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของแมวและสุนัข ดังนั้นเราไม่ควรให้อาหารที่มีเกลือเพิ่มเติม รวมถึงอาหารของมนุษย์ที่มีการปรุงรสกับสัตว์เลี้ยง ถ้าสัตว์เลี้ยงได้รับเกลือในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ปริมาณของเหลวในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง และอาจนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงได้ หรือในกรณีที่ได้รับปริมาณมากเกินไปแบบฉับพลัน จะทำให้เกิดภาวะโซเดียมในเลือดสูงได้ สัญญาณที่บอกว่า สัตว์เลี้ยงกำลังเกิดภาวะโซเดียมในเลือดสูง เมื่อร่างกายของสัตว์เลี้ยงมีโซเดียมสูง สิ่งที่ตามมาคือ ร่างกายจะขาดน้ำ และเสียสมดุลของแร่ธาตุ โดยจะแสดงอาการออกมาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย และปริมาณมาณที่กินเข้าไป อาการในระยะเริ่มต้นได้แก่ กินอาหารน้อยลง อาเจียน ท้องเสีย และเซื่องซึม […]

อ่านต่อ

สุขภาพดีเริ่มต้นจาก… โภชนาการที่ดี

โภชนาการสำหรับสัตว์เลี้ยง คือกระบวนการคัดเลือกอาหารทั้งประเภทและปริมาณ ให้สอดคล้องกับความต้องการของสัตว์เลี้ยงเพื่อดูแลรักษาสุขภาพที่ดีให้แก่พวกเขา โดยในอาหารแต่ละประเภทจะประกอบไปด้วย “สารอาหาร” ที่ร่างกายสัตว์เลี้ยงนำไปใช้เพื่อการเจริญเติบโตหรือเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะภายใน การมีโภชนาการที่ดีสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง ในทางกลับกัน หากสัตว์เลี้ยงได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและครบถ้วน ก็อาจทำให้เกิดความบกพร่องของสุขภาพร่างกายและเกิดโรคต่างๆตามมาได้ เช่น โรคอ้วน หัวใจ ไต ตับ และ นิ่ว เป็นต้น เจ้าของน้องหมาน้องแมวทั้งหลายจึงควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาเลือกอาหารของสัตว์เลี้ยง เพื่อสุขภาพที่ดีให้แก่พวกเขาโดยปัจจัยหลักที่ใช้ประกอบการตัดสินใจก็คือ คุณภาพของอาหารสัตว์เลี้ยง และคุณค่าทางโภชนาการที่น้อง ๆ จะได้รับ โดยในปัจจุบันผู้เลี้ยงให้ความรักและความใส่ใจสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว การเลือกโภชนาการต่าง ๆ สำหรับพวกเขาจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คำแนะนำจากสัตวแพทย์ผู้ซึ่งมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี จึงมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเพื่อเลือกโภชนาการที่ถูกต้องให้แก่สัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน วิธีการเลือกอาหารตามหลักโภชนาการสำหรับสัตว์เลี้ยง ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ น้องหมาและน้องแมวมีความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญมาก เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรเลือกอาหารที่ส่วนประกอบทางโภชนาการที่สมดุลและครบถ้วน เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ ตามธรรมชาติ น้องหมาจัดเป็นสัตว์ที่สามารถกินได้ทั้งเนื้อและพืชเป็นอาหาร (Omnivore) ในขณะที่น้องแมวเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเพียงอย่างเดียว (Carnivore) ด้วยเหตุผลนี้ น้องหมาและน้องแมวจึงต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน น้องแมวจำเป็นต้องได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนมากกว่าน้องหมา หากน้องแมวได้รับโปรตีนในปริมาณที่ไม่เพียงพอติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวได้ ซึ่งโปรตีนหลักและสำคัญของร่างกายควรมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์หรือโปรตีนคุณภาพดีอย่างน้อย 70%  โดยในโปรตีนคุณภาพดีจะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย […]

อ่านต่อ

10 หมาพันธุ์เล็ก ยอดฮิตตลอดกาล

หมาพันธุ์เล็ก เป็นที่นิยมของผู้ปกครองที่รักสุนัขทั่วโลก อาจเป็นเพราะ ขนาดตัวเล็กกะทัดรัด ที่ทำให้น่ารักน่าเอ็นดู และยังเข้ากับพื้นที่ที่อยู่อาศัยของคึนในยุคปัจจุบันได้ง่าย หมาพันธุ์เล็ก 10 สายพันธุ์ ที่เรามาแนะนำในวันนี้ เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิบมตลอดกาล ใครที่อยากเลี้ยงน้อง ลองศึกษาข้อมูลของน้องก่อนรับน้องเข้าบ้านนะคะ ไปชมกันเลยว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้าง 1. ชิวาวา (Chihuahua) ถ้าพูดถึง หมาพันธุ์เล็ก ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานจะต้องมีชื่อชิวาวาอย่างแน่นอน ต้นกำเนิดสายพันธุ์ชิวาวามาจากประเทศเม็กซิโกบางแหล่งข้อมูลมีบันทึกไว้ว่าชนเผ่าอาเทคซ์ (Aztecs) หรือ อินคา (Incas) ได้พัฒนาสุนัขสายพันธุ์ชิวาวานี้ขึ้นมาจากสุนัขพันธุ์ Techichi   ชิวาวาเป็น หมาพันธุ์เล็ก ที่มีขนาดตัวที่เล็กที่สุดในโลก แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ขนสั้นจะมีเส้นขนนุ่ม มีความเงางาม ขนสั้นตลอดทั้งตัวและสายพันธุ์ขนยาวมีขนนุ่มยาวสลวยเป็นพู่ที่หูและขา ลักษณะเด่นมีหัวกลมคล้ายลูกแอปเปิ้ล ตากลมโต ใบหูขนาดใหญ่ตั้งตรง มีได้หลายสีเช่น สีน้ำตาลเข้ม, สีขาว, สีแดง, สีดำ, สีส้ม จะเป็นสีล้วนหรือมีลายแต้มก็ได้  น้องมีขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัด ทำให้ชิวาวาสามารถปรับตัวเข้ากับการเลี้ยงในพื้นที่จำกัดได้ดี ความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 – 10 นิ้ว น้ำหนักตัวตามสายพันธุ์โดยเฉลี่ยไม่เกิน 3 กิโลกรัม มีอายุขัยโดยเฉลี่ยที่ยาวนานกว่าสายพันธุ์เล็กส่วนใหญ่อยู่ที่ระหว่าง 13-17 ปี ลักษณะนิสัย มีความฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว กระตือรือร้น ช่างสงสัย ขี้ตกใจ ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า ชอบวิ่งเล่นสำรวจสิ่งรอบตัว เป็นสุนัขที่ขี้อ้อนและจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวที่เล็กแต่ชิวาวามีแนวโน้มที่จะเห่ามากกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ และมีนิสัยที่ตื่นตัวจึงทำให้สามารถเป็นสุนัขเฝ้าบ้านได้ การดูแล ด้วยนิสัยที่มีความกระตือรือร้น และปราดเปรียว ควรพาออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น พาเดินเล่น หรือ วิ่งเล่นในบ้าน สำหรับสายพันธุ์ขนยาวควรแปรงขนให้เป็นประจำเพื่อลดการหลุดร่วงของขน และให้มีสุขภาพผิวหนังที่ดี ควรแปรงขนให้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อาหารที่เหมาะสม หมาพันธุ์เล็ก จะมีระบบการเผาผลาญพลังงานสูงย่อยอาหารได้รวดเร็ว มีกระเพาะขนาดเล็กจะต้องการอาหารในปริมาณที่น้อยกว่าหมาสายพันธุ์ใหญ่ ควรได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย และกิจกรรมในแต่ละวัน เช่น ROYAL CANIN CHIHUAHUA PUPPY อาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัขพันธุ์ชิวาวาอายุต่ำกว่า 8 เดือน เม็ดอาหารถูกออกแบบพิเศษสำหรับลูกสุนัขสายพันธุ์ชิวาวาที่มีขากรรไกรขนาดเล็กโดยเฉพาะ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินอี วิตามินซี ทอรีน ลูทีน เบต้า-แคโรทีน และเบต้า-กลูแคน มีส่วนช่วยดูแลการย่อยอาหารและการขับถ่ายลดกลิ่นมูล ปรับอุจจาระให้เป็นก้อนดี 2 ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) ในอดีตปอมเมอเรเนียนมีถิ่นกำเนิดจากพื้นที่หนาวจัดแถบยุโรปตอนกลางซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมันตะวันออกและโปแลนด์ในปัจจุบัน บรรพบุรุษของปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่อยู่ในตระกูลสปิตซ์ (Spitz) รวมถึงสุนัขสายพันธุ์นอร์วีเจียน เอลก์ฮาวด์ (Norwegian Elkhound), ชิปเพิร์ก (Schipperke), เยอรมัน สปิตซ์ (German Spitz), อเมริกัน เอสกิโม (American Eskimo) และซามอยด์ (Samoyed)  โดยเคยเป็นสุนัขใช้ลากเลื่อนและเฝ้าฝูงแกะมาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านปอมเมอเรเนียนมีรูปหน้า 3 แบบ คือ หน้าแบบจิ้งจอก (Fox Face) ปากจะค่อนข้างยาวแหลม หน้าแบบตุ๊กตาเด็ก (Baby Doll) ดวงตาอยู่สูงเหนือปาก ปากสั้นและแบน หน้าแบบตุ๊กตาหมี (Teddy Bear) ตาทั้ง 2 ข้างจะอยู่ใกล้กันอยู่เหนือขึ้นมาจากปากไม่มาก ปากจะสั้นกลม  ซึ่งใบหน้าลักษณะนี้เป็นที่นิยมของผู้เลี้ยงปอมเมอเรเนียน  แต่ตามมาตรฐานของสมาคมพัฒนาสายพันธุ์สุนัขแห่งอเมริกา (AKC) ลักษณะหน้าแบบจิ้งจอกเป็นลักษณะที่ถูกต้องที่สุดของสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน มีใบหูที่เล็กและตั้งตรง ขาเล็กและลำตัวสั้น มีขนยาว หนา 2 ชั้น ขนออกมาจากลำตัว มีหางที่ม้วนแน่นและค่อนข้างสั้นอยู่ใกล้ด้านหลัง ปอมเมอเรเนียนมีสีขนที่หลากหลายมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ มีมากกว่า 20 สี เช่น สีขาว, สีดำ, สีน้ำตาล, สีแดง, สีส้ม, สีครีม, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาลเข้ม, สีน้ำตาลผสมสีแทน, สีดำผสมสีแทน และสีที่แซมกันสองสี โดยสีที่พบได้บ่อยมากที่สุดคือสีส้ม, สีดำ และสีครีม/สีขาว  ปอมเมอเรเนียนจัดว่าเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในตระกูลสปิทซ์ มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 1.3 – 3.5 กิโลกรัม และสูง 13–28 เซนติเมตร อายุโดยเฉลี่ยระหว่าง 12-15 ปี ลักษณะนิสัย เป็นหมาที่ฉลาดและร่าเริง ขี้เล่น แต่แอบดื้อเงียบ ชอบเจอผู้คนใหม่ๆ และชอบที่จะเจอสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆถึงจะตัวเล็กแต่เป็นหมาที่มีพลังงานสูงมาก ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก เล่นของเล่น และใจเด็ดเห่าเตือนภัยได้เป็นอย่างดี สามารถใช้เป็นหมาเฝ้ายามได้ การดูแล ปอมเมอเรเนียนต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่นพาเดินเล่นวันละ 10 – 15 นาที และดูแลแปรงขนวันละครั้งเพื่อไม่ให้ขนพันกัน อาบน้ำเดือนละ 2 ครั้งเพื่อช่วยดูแลผิวหนังให้สะอาดอยู่เสมอ ควรทำความสะอาดฟันของปอมเมอเรเนียนด้วยการแปรงฟัน เช็ดหูและตัดเล็บ เป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อาหารที่เหมาะสม ด้วยขนาดตัวที่เล็ก น้องต้องการปริมาณอาหารที่ไม่เยอะมาก แต่ก็ต้องเหมาะสมกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ควรเลือกอาหารที่มีค่าโภชนาการพอดีต่อความต้องการของร่างกาย เช่น ROYAL […]

อ่านต่อ
น้ำพุแมว

พี่เลี้ยงแมวยุคใหม่ รู้ใจทาสแมว

ทาสแมวทั้งหลาย เคยสงสัยกันมั้ยเอ่ย ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่พวกเราไม่อยู่บ้าน? เจ้าเหมียวจะกินข้าวตอนไหน จะกินน้ำบ้างหรือเปล่า หรือจะมีปัญหาเรื่องขับถ่ายบ้างมั้ยน้า แมวเหมียว สัตว์เลี้ยงที่มักถูกมองว่า มีความอินดี้ และ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เวลาที่ทาสบอกซ้าย แมวมักจะไปขวา ทาสเรียกให้มาหา แมวก็ทำหน้าตึง แล้วอยู่เฉย ๆ หรือ จะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็อาจคล้ายกับคนที่เป็น Introvert ทำให้ทาสแมวหลายคนถึงกับต้องกุมขมับ เพราะ คาดเดาจิตใจของเจ้าเหมียวได้ยากเหลือเกิน โดยกิจวัตรประจำวันของเจ้าเหมียวนั้น หลัก ๆ ก็คงหมดไปกับการงีบหลับ นั่งส่องนก หรือ วิ่งเล่นปล่อยพลัง ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ยากเย็นนัก ที่เราจะรู้ได้ว่า น้องกินอาหารตอนไหน ดื่มน้ำเยอะหรือเปล่า และ ขับถ่ายกี่ครั้งต่อวัน แต่ก็คงดีไม่น้อย หากเรามีพี่เลี้ยงที่รู้ใจ ที่สามารถช่วยทาสสอดส่อง และ ประหยัดแรงได้ วันนี้บ้านและสวน Pets จะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับพี่เลี้ยงแมวเหมียวยุคใหม่ ที่ชื่อว่า NOTTY Trio อุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับน้องแมว ที่ประกอบไปด้วย น้ำพุแมว เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ และ ห้องน้ำอัตโนมัติ […]

อ่านต่อ

น้องหมาเกา บ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง

ผู้ปกครองของน้องหมาคงได้พบเห็นพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงแสนรัก ที่น้องมักแสดงออกอยู่เป็นประจำ เช่น การเลียหรือแทะตามลำตัว น้องหมาเกา ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือบางครั้งพบว่า น้องหมาใช้หน้า หรือลำตัวถูไถไปตามพื้นและกำแพงบ้าน พฤติกรรมที่ น้องหมาเกา และเอาลำตัวไปถูไถกับวัตถุต่างๆ อาจบ่งบอกว่าน้องกำลังเกิดความคันตามผิวหนัง ซึ่งอาจมีสาเหตุจจากบาดแผลที่ผิวหนัง หรือเกิดการแพ้และระคายเคืองต่อสิ่งเร้าตามธรรมชาติ รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นการคัน ในบทความนี้ เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันของน้องหมา และวิธีดูแลรักษาอย่างเหมาะสม สาเหตุของอาการคันในน้องหมา 1. เกิดจากความเครียด เมื่อเกิดความวิตกกังวล หรือความเครียด น้องหมาจะแสดงพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น กินอาหารน้อยลง หรือแทบไม่กินอาหารเลย มีพฤติกรรมแยกตัวไปอยู่ตามลำพัง เซื่องซึม เล่นน้อยลง รวมไปถึงใช้ขาเกา และใช้ปากกัดแทะตามร่างกายตัวเองจนเป็นแผล หากคุณพ่อคุณแม่พบอาการที่กล่าวมาข้างต้น ให้เริ่มต้นจากการหาสาเหตุว่า อะไรเป็นตัวกระตุ้นความเครียดของน้อง หรือลองใช้เวลากับน้องหมาให้มากขึ้น ชวนเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกัน และจัดเตรียมพื้นที่สงบ ๆ ในบ้านให้น้องได้พักผ่อนเต็มที่ เมื่อน้องหมาเริ่มคลายกังวลพฤติกรรมการกัดแทะตัวเองก็จะลดลงตามไปด้วย 2. เกิดจากแมลงปรสิตภายนอก ปรสิตภายนอกที่เป็นสาเหตุของอาการคันอาจเป็นกลุ่มแมลง เช่น เห็บ หมัด และยุง ซึ่งส่งผลให้เป็นตุ่ม และเป็นสะเก็ดแผลตามลำตัว นอกจากนี้ […]

อ่านต่อ

แมวอ้วน ไม่ได้น่ารักอย่างที่คิด กับปัญหาสุขภาพที่ตามมา

คุณพ่อคุณแม่หลงใหลน้องแมวด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้น คือ รูปร่างกลมฟูของน้องแมว และด้วยเหตุผลนี้ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านจึงอยากให้น้องตัวแน่น และขนฟู แต่สุดท้ายทำให้ แมวอ้วน มากกว่าที่ควร อย่างไรก็ตาม แมวอ้วน หรือที่สัตวแพทย์มักเรียกว่า แมวที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เป็นแมวที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคต รวมถึงมีอายุขัยเฉลี่ยสั้นลง เมื่อเทียบกับแมวที่มีน้ำหนักตัวตามมาตรฐาน ดังนั้น การดูแลน้องแมวให้มีรูปร่างที่สมส่วน และมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งจะส่งผลให้น้องแมวมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ แมวที่มีสุขภาพดีย่อมส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ และเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วตามธรรมชาติของแมว ที่สำคัญ เมื่อน้องแมวได้แสดงออกตามสัญชาติญาณ และมีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดโรค น้องแมวจะเกิดภาวะแห่งความสุขตามมาด้วย น้องแมวของเราอ้วน หรือไม่ ตรวจสอบได้อย่างไร สำหรับการประเมินว่า น้องแมวของเรามีรูปร่างที่สมส่วนหรือไม่ คุณพ่อคุณแม่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ โดยการสังเกตด้วยตา และใช้มือคลำร่างกายของแมว โดยอ้างอิงจากเกณฑ์การให้คะแนนความสมบูรณ์ของร่างกาย (Body condition score : BCS) ของสัตว์เลี้ยง แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้ ระดับที่ 1 ภาวะผอมแห้งขาดอาหาร […]

อ่านต่อ

ดูแลน้องแมว อย่างไร ให้ห่างไกลจากโรคไต

โรคไตในแมว เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้มากที่สุดในบรรดาอาการเจ็บป่วยของแมว โดยเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น เพื่อให้น้องแมวของเรามีสุขภาพที่ดี และห่างไกลจากโรคไต เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไต สาเหตุของโรค รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษา และวิธีป้องกัน โรคไตในแมว เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของไต ซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียในร่างกายของแมว ควบคุมความเป็นกรดด่างในกระแสเลือด ควบคุมความสมดุลของเกลือแร่ รวมไปถึงควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย โรคไตในแมวสามารถแบ่งได้ตามระยะการเกิดโรคแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ  1. โรคไตแบบเฉียบพลัน เกิดจากการทำหน้าที่ของไตลดลงอย่างเฉียบพลัน อาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แมวมักจะแสดงอาการป่วยภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์หรือไม่เกิน 1 เดือน  โรคไตแบบเฉียบพลันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากขาดน้ำอย่างรวดเร็ว เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในร่างกาย เช่น FIV FeLV FIP และ Feline Morbillivirus และการได้รับสารพิษต่างๆ ที่มีผลต่อไต เช่น ยาฆ่าแมลงต่าง ๆ น้ำยาทำความสะอาด หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด โดยส่วนใหญ่พบว่า แมวที่เลี้ยงแบบปล่อยให้ออกนอกบ้านได้อย่างอิสระ มักมีความเสี่ยงไปสัมผัสกับสารพิษมากกว่าแมวที่เลี้ยงระบบปิด 2. โรคไตแบบเรื้อรัง ที่ทำให้การทำหน้าที่ของไตค่อย ๆ ลดลงทีละน้อย […]

อ่านต่อ
วิธีเลี้ยงแมว, เลี้ยงแมว, อาหารแมว royal canin, อาหารแมว

วิธีดูแลน้องแมว ให้ก้าวสู่วัยผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แข็งแรง

การเจริญเติบโตของแมวแต่ละช่วงวัย จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทั้งภายในและภายนอก ซึ่งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนสับสนระหว่าง “ช่วงโตเต็มวัย” กับ “ช่วงเจริญพันธุ์” และอาจส่งผลต่อ วิธีดูแลน้องแมว โดยทั่วไปแล้ว ลูกแมวจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยเมื่ออายุประมาณ 1 ปี หมายถึงร่างกายได้พัฒนาและเจริญเติบโตเต็มที่ตามลักษณะสายพันธุ์ กล้ามเนื้อแข็งแรง อวัยวะทุกส่วนทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในบางสายพันธุ์ที่มีโครงร่างกายใหญ่ อย่างสายพันธุ์เมนคูน จะเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยประมาณ 15 เดือน ที่ช้ากว่าแมวสายพันธุ์อื่นๆ ส่วนวัยเจริญพันธุ์ คือ ช่วงที่น้องแมวพร้อมสืบพันธุ์ได้ โดยในแมวจะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 4 – 18 เดือน หรือที่เรียกว่า “การเป็นสัดหรือฮีท”  การเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งภาวะร่างกายของแมว น้ำหนักของแมว สายพันธุ์ของแมว และช่วงเวลาหรือฤดูกาลที่มีแสงอาทิตย์ยาวนานอย่าง เช่นฤดูร้อนในพื้นที่เขตหนาว หรือสภาพภูมิอากาศบ้านเรา ก็จะกระตุ้นให้แมวเป็นสัดได้เร็วขึ้น  ในช่วงระหว่างการเป็นสัดหรือฮีท แมวตัวเมียจะแสดงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากปกติ เช่น ส่งเสียงร้องหาคู่ ใช้ตัวถูไถสิ่งของตามพื้นและกลิ้งไปมา แอ่นหลังลงและกระดกก้นขึ้น เบี่ยงหางไปด้านข้างและย่ำเท้าหลังไปมา ลำตัวและหางสั่น หรือเกร็งลำตัว  ระยะเวลาในการเป็นสัดของแมวตัวเมียอยู่ระหว่าง 2 – 14 วัน แบ่งออกเป็น 5 ระยะ […]

อ่านต่อ

สัญญาที่จะส่งมอบความสุขให้กับสมาชิกสุดพิเศษ

จุดเปลี่ยนของวงการอสังหาฯ ยกระดับความสุขด้วยการมอบสัญญาที่มีคุณค่าและน่าจดจำให้กับสัตว์เลี้ยงของเราได้­ เพราะสมาชิกในครอบครัวคือส่วนสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเรามีความหมายมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากให้สัญญาว่า เราจะดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด..ตลอดไป สำหรับหลาย ๆ คน การนิยามของคำว่า “ครอบครัว” อาจไม่ได้หมายถึงเฉพาะตัว “บุคคล” อีกต่อไป แต่ยังหมายรวมไปถึง “สัตว์เลี้ยง” ที่เข้ามาเติมเต็มคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ได้  ในยุคสมัยใหม่ กระแสการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นสมาชิกในครอบครัวได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยเฉพาะในสังคมเมืองใหญ่ ที่หลายคนเลือกใช้ชีวิตอยู่ในสถานะโสด หรือไม่มีลูก และด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในเมือง การเลือกที่พักอาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมอาจจะสอดคล้องกับรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปเช่นกัน ปัจจัยเรื่องพฤติกรรมของคนเมือง จึงเป็นปัจจัยหลักที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจ และนำไปเป็นโจทย์สำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตรงกับความต้องการของผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัย ในช่วงที่ผ่านมา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบคอนโดมิเนียมให้เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง หรือ Pets Friendly มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแส Pets Humanization แค่คำว่า “เป็นมิตร” ยังไม่พอ การยกระดับที่อยู่อาศัยจึงจำเป็นต้องพิจารณาความสุข ที่สามารถแบ่งปันร่วมกันได้ระหว่างผู้คนและสัตว์เลี้ยงด้วย ดังนั้น ที่อยู่อาศัยของคุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงจึงไม่ใช่แค่เรื่องการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้อีกต่อไป แต่พวกเค้าต้องการ การออกแบบอย่างเป็นรูปธรรมให้ทุกจังหวะการใช้ชีวิตของคุณพ่อคุณแม่สอดคล้องไปกับรูปแบบพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงในทุกมิติ  สัตว์เลี้ยงก็ไม่ต่างจากมนุษย์ ที่มีความรู้สึกและความต้องการเหมือนกับเรา คุณพ่อคุณแม่ที่มีสัตว์เลี้ยงในยุคปัจจุบัน ต่างคำนึงถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก เช่น เราจะออกแบบบ้านอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง เราจะให้อาหารอย่างไรให้น้องๆ สุขภาพดี หรือเราจะพาน้องๆ ออกไปวิ่งเล่นที่ไหนได้บ้าง […]

อ่านต่อ