วัคซีนสุนัข และวัคซีนแมว เป็นหนึ่งในกระบวนการดูแลสัตว์เลี้ยงที่สำคัญและจำเป็น ดังนั้น เมื่อครบกำหนดอายุ คุณพ่อคุณแม่ควรนำสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนที่โรงพยาบาลสัตว์ หรือคลินิกใกล้บ้าน เพื่อให้น้องสุนัขน้องแมวมีภูมิคุ้มกันและสุขภาพที่แข็งแรง
ความสำคัญของ วัคซีนสุนัข และวัคซีนแมว
ในช่วงแรกเกิด สุนัขและแมวต้องอาศัยแหล่งอาหารโดยกินน้ำนมจากแม่เท่านั้น ซึ่งในน้ำนมของแม่มีภูมิคุ้มกันของสัตว์เลี้ยงตามธรรมชาติ แต่หลังจากนั้น เมื่อลูกสุนัขและแมวเริ่มหย่านม ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะค่อยๆ ลดลง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 8 – 12 สัปดาห์
ในช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะพาน้องแมวน้องหมาไปรับวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากโรคในสัตว์เลี้ยงหลายโรครักษาได้ยาก หรือเกิดขึ้นแล้วมีโอกาสเสียชีวิตสูง เช่น โรคไข้หัด โรคลำไส้อักเสบในสุนัข และโรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น
ดังนั้นการทำวัคซีนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมองข้าม เพราะการทำวัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันเชื้อก่อโรคชนิดต่างๆ และช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเรากลายเป็นพาหะนำโรคติดต่อบางชนิดที่ติดต่อมาถึงมนุษย์ได้
นอกจากนี้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรงจะทำหน้าที่ช่วยลดการติดเชื้อ ลดโอกาสป่วยเป็นโรคน้อยลง และช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อได้
วัคซีนของสุนัขและแมว สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่
1. วัคซีนหลัก (Core vaccine) เป็นกลุ่มของวัคซีนที่น้องสุนัขและน้องแมวทุกตัวจำเป็นต้องได้รับ โดยวัคซีนหลักช่วยป้องกันโรคติดเชื้อรุนแรงที่มีการแพร่ระบาดทั่วโลก ประกอบด้วย
วัคซีนหลักของสุนัข ประกอบด้วย
- วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า (Rabies virus)
- วัคซีนป้องกันเชื้อพาร์โวไวรัสหรือโรคลำไส้อักเสบ (Canine parvovirus-2 : CPV-2)
- วัคซีนป้องกันไวรัสไข้หัดสุนัข (Canine distempervirus : CDV)
- วัคซีนป้องกันเชื้ออะดิโนไวรัสในสุนัข หรือโรคตับอักเสบ (canine adenovirus : CAV)
วัคซีนหลักของแมว
- วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า (Rabies virus)
- วัคซีนป้องกันคาลิไซไวรัส หรือโรคหวัดแมว (Feline callicivirus : FCV) และเฮอร์พีส์ไวรัส-1 (Feline herpesvirus; FHV-1)
- วัคซีนป้องกันไข้หัดแมว (Feline Parvovirus : FPV)
- วัคซีนลิวคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Feline leukemia virus : FeLV) ในเมืองไทยพบว่ามีการระบาดของโรคลิวคีเมีย จึงถูกนับรวมเป็นวัคซีนหลัก ก่อนทำวัคซีนควรตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน ถ้าผลตรวจหาเชื้อลิวคีเมียเป็นลบทั้ง 2 ครั้ง จะสามารถทำวัคซีนได้ ถ้าแมวเคยติดเชื้อมาแล้วไม่จำเป็นต้องทำวัคซีนชนิดนี้
2. วัคซีนทางเลือก (Non core vaccine) ให้พิจารณาตามความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค โดยพิจารณาได้จากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง ระบบภูมิคุ้มกันในสัตว์เลี้ยง และการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ หรือขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสัตวแพทย์
วัคซีนทางเลือกของสุนัข ประกอบด้วย
- วัคซีนป้องกันพาราอินฟลูเอนซาไวรัส หรือโรคหวัดสุนัข (Canine parainfluenza virus : CPiV)
- วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สุนัข (Canine Influenza Virus)
- วัคซีนป้องกันเชื้อเลปโตสไปโรซิส อินเทอโรแกนส์ หรือโรคฉี่หนู (Leptospira interrogans)
- วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบติดต่อจากเชื้อแบคทีเรีย (Bordetella bronchiseptica)
วัคซีนทางเลือกของแมว ประกอบด้วย
- วัคซีนโรคเอดส์แมว (Feline immunodeficiency virus : FIV) แนะนำให้ทำเฉพาะในแมวที่มีกลุ่มเสี่ยงคือ แมวที่เลี้ยงในระบบเปิด หรือเลี้ยงนอกบ้าน และมีโอกาสสัมผัสกับแมวตัวอื่นที่เป็นโรคเอดส์แมว หรืออยู่ร่วมกับแมวที่ป่วยเป็นเอดส์แมว
- วัคซีนโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Feline infectious peritonitis : FIP) เป็นวัคซีนที่ไม่จำเป็น เพราะวัคซีนชนิดนี้สัตวแพทย์จะแนะนำให้ทำในแมวเมื่ออายุครบ 16 สัปดาห์ ซึ่งลูกแมวจำนวนมากสามารถติดเชื้อไวรัสได้ก่อนอายุ 16 สัปดาห์ และเมื่อฉีดวัคซีนไปแล้ว อาจจะทำให้โอกาสการสร้างภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นโดยวัคซีนเกิดขึ้นได้น้อย
- วัคซีนโรคติดเชื้อคลาไมเดียในแมว จากเชื้อแบคทีเรีย Chlamydophila felis ซึ่งทำให้เกิดอาการระบบทางเดินหายใจส่วนต้น และเยื่อบุตาอักเสบ
การเตรียมตัวก่อนพาน้องสุนัขและน้องแมวไปฉีดวัคซีน
เจ้าของต้องนำสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ก่อนรับวัคซีน เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี เพื่อประเมินความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ของการทำวัคซีนดีที่สุด
ทำความสะอาด หรืออาบน้ำสัตว์เลี้ยงให้เรียบร้อยก่อนไปรับวัคซีน เมื่อสัตว์เลี้ยงรับวัคซีนแล้ว สัตวแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอาบน้ำประมาณ 7 วัน เนื่องจากสัตว์เลี้ยงบางตัวอาจมีไข้หลังรับวัคซีนไปแล้ว 1-2 วัน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ
ถ้าเคยมีประวัติแพ้วัคซีนมาก่อน ให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงแจ้งยี่ห้อวัคซีนที่เคยแพ้กับสัตวแพทย์ เพื่อเลือกใช้วัคซีนยี่ห้ออื่นแทน
การดูแลสัตว์เลี้ยงหลังการฉีดวัคซีน
1. เมื่อรับวัคซีนแล้ว เจ้าของควรให้สัตว์เลี้ยงพักอยู่ในสถานพยาบาลสัตว์ประมาณ 30 – 60 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงไม่มีอาการแพ้วัคซีน โดยอาการแพ้รุนแรงมักจะแสดงออกเมื่อเวลาผ่านไป 5 – 15 นาที หลังรับวัคซีน สังเกตได้จากมีผื่นขึ้นตามผิวหนัง มีอาการบวมรอบดวงตา รอบปากหรือบวมทั้งใบหน้า บางรายอาจจะมีอาการหายใจลำบาก หอบ หรือหลอดลมบวมเฉียบพลัน
2. หลังจากรับวัคซีนไปแล้วหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอย่างน้อย 7 วัน ในบางตัวอาจมีไข้ต่ำๆ ซึม เบื่ออาหาร หรือเจ็บบริเวณตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน แต่ถ้ามีอาการผิดปกติเกิน 2 วัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
3. จัดพื้นที่ปลอดภัยให้สัตว์เลี้ยงได้อยู่ในมุมที่รู้สึกสบาย และผ่อนคลาย เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้คลายความเครียดและวิตกกังวล หลังจากฉีดวัคซีน
4. ในช่วงที่ยังรับวัคซีนไม่ครบ เจ้าของควรหลีกเลี่ยงการนำสัตว์เลี้ยงออกไปสัมผัสกับสภาพแวดล้อมนอกบ้าน หรือปล่อยให้สัตว์เลี้ยงสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายและติดโรค
การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องพื้นฐานที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องรับผิดชอบเมื่อนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบ้าน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพแข็งแรง และไม่เจ็บป่วยง่าย
สัตวแพทย์แนะนำว่าควรฉีดกระตุ้นวัคซีนให้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำทุกปี เนื่องจากการรับวัคซีนเพียงครั้งเดียวไม่สามารถป้องกันโรคได้ตลอดช่วงอายุขัย ร่วมกับประเทศไทยยังเป็นพื้นที่เสี่ยงของโรคระบาดบางชนิด เช่น โรคพิษสุนัขบ้า หากไม่มีการกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุกปีสัตว์เลี้ยงจะมีภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอที่จะป้องกันโรคร้ายแรงบางชนิดได้ การกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำจะช่วยปกป้องสัตว์เลี้ยงจากโรคร้ายและไม่ทำให้เขาต้องจากไปก่อนวัยอันควร
งาน 𝐏𝐞𝐭 𝐄𝐱𝐩𝐨 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝 𝟐𝟎𝟐𝟑 พบกับกิจกรรมพิเศษของ Royal Canin ให้ความรู้และความสำคัญของการทำวัคซีน ฟรี! สเปรย์ป้องกันและกำจัดเห็บหมัดด้วย FRONTLINE Spray ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่เพียงทำแบบทดสอบง่าย ๆ รับฟรี! กิ๊ฟเซ็ตอาหารตัวอย่างให้น้องหมาหรือน้องแมวของคุณไปลองได้ และยังมีสิทธิพิเศษอีกมากมาย วันที่ 4 – 7 พฤษภาคมนี้ชั้น LG ฮอลล์ 6-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ตอนนี้เพียงสมัคร Royal Canin Club Application และกรอกข้อมูลสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ สามารถรับคูปองส่วนลด 100 บาทในการพาน้องแมวน้องหมาไปทำวัคซีนที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ที่ร่วมรายการ สามารถดูรายละเอียดหรือเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://www.royalcanin.com/th/about-us/news/vaccine-coupon-2023 และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ https://bit.ly/RoyalCaninClubApp
โรยัล คานิน สนับสนุนให้คุณพร้อมเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบ เริ่มง่ายๆด้วยการพาน้องแมวน้องหมาไปหาหมอ หรือ Take Your Pet To The Vet เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะช่วยกันสร้างสังคมสัตว์เลี้ยงสุขภาพดี ส่งต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับแมวและสุนัขที่คุณรัก เพื่อให้เค้าอยู่กับเราไปได้นานๆ