แมวตาบอด อาจเกิดขึ้นได้สองกรณี คือ การมองเห็นค่อย ๆ ลดลง หรือเกิดการตาบอดแบบเฉียบพลัน แต่โดยทั่วไปแล้ว การสังเกตความผิดปกติเกี่ยวกับสายตาของแมว อาจไม่ใช่เรื่อง่ายสำหรับเจ้าของเสมอไป
แมวตาบอด หรือเริ่มส่งสัญญาณความผิดปกติเรื่องการมองเห็น สังเกตได้อย่างไร
ตามธรรมชาติของแมว ประสาทสัมผัสในการรับเสียงและการรับกลิ่นของแมว ดีกว่าประสาทสัมผัสเรื่องการมองเห็น ดังนั้น ในช่วงแรก เมื่อแมวเริ่มมีความผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น เจ้าของจึงอาจสังเกตได้ยาก แต่เมื่อความรุนแรงของอาการรุนแรงจนไปถึงขั้น แมวตาบอด เจ้าของจึงสามารถพบความผิดปกติได้อย่างชัดเจน
ส่วนในกรณีของแมวตาบอดเฉียบพลัน อาจแสดงอาการอย่างชัดเจนมากกว่า เช่น เดินชนสิ่งกีดขวาง หรือการเคลื่อนที่ผิดปกติ เมื่อเราพบว่า แมวกำลังสูญเสียการมองเห็น จึงควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อรักษาก่อนที่อาการจะรุนแรง
สัญญาณความผิดปกติทางสายตาของแมว
- ม่านตาขยายตลอดเวลา
- กระจกตาขุ่นผิดปกติ หรือมีสารคัดหลั่งที่ตา
- ลูกตาขยายใหญ่ขึ้น
- ตาขุ่นผิดปกติ
- มีเลือดออกบริเวณช่องหน้าตา
- มีอาการหรี่ตา เจ็บปวดตา
พฤติกรรมที่บ่งบอกว่าแมวกำลังสูญเสียการมองเห็น
- มีอาการสับสน มึนงง กระวนกระวาย
- เดินชนสิ่งของและสิ่งกีดขวาง
- เดินไป-มาอย่างไร้จุดหมาย
- ลังเลที่จะกระโดดขึ้นที่สูง หรือกระโดดพลาดจากตำแหน่งที่ตั้งใจ
- มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่น หงุดหงิดมากขึ้น ระแวงมากขึ้น
- ความอยากอาหารลดลง
- มีปฎิสัมพันธ์กับคนในบ้านลดลง
สาเหตุส่วนหใญ่ที่ทำให้แมวตาบอด
1. ภาวะความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตสูงส่งผลทำให้เส้นเลือดบริเวณจอประสาทตาได้รับความเสียหาย จนเกิดเลือดออกบริเวณจอประสาทตา และเกิดอาการตาบอดเฉียบพลัน ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวอาจมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ เป็นต้น
2. โรคติดเชื้อที่ตา
การติดเชื้อที่บริเวณเยื่อบุตา กระจกตา หรือบริเวณใบหน้า หากการติดเชื้อรุกรามมากขึ้น อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสูญเสียการมองเห็นในแมวได้ โดยเชื้อก่อโรคที่มักเป็นสาเหตุอาการติดเชื้อในตาของแมว เช่น เชื้อไวรัส Feline calicivirus (FCV), Feline herpesvirus (FHV-1) , เชื้อไวรัสเอดส์แมว (FIV) , เชื้อไวรัสลิวคีเมีย (FeLV) , เชื้อไวรัสเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (FIP) และเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น
3. จอประสาทตาเสื่อม
ความเสื่อมของจอประสาทตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรมในแมวสายพันธุ์ Abyssinian การอักเสบที่จอประสาทตา และความเสื่อมตามอายุ การบาดเจ็บบริเวณจอประสาทตา การขาดสารอาหารบางชนิด อย่างทอรีน (taurine) โดยความเสื่อมของจอประสาทตาอาจเกิดขึ้นแบบทีละน้อย ทำให้การมองเห็นลดลงจนเตาบอดได้
4. โรคเกี่ยวกับสมอง และระบบประสาท
ความผิดปกติของระบบประสาท เช่น มีการอักเสบของสมอง มีก้อนเนื้องอกในสมอง การติดเชื้อในสมองและระบบประสาท ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติในการรับกระแสประสาทจากเส้นประสาทที่ตาเข้าสู่สมองทำให้เกิดการตาบอดแบบชั่วคราวหรือถาวรได้
5. ภาวะต้อหิน
ภาวะต้อหินในแมวเกิดจากความดันในลูกตาสูง ทำให้เกิดการกดทับโครงสร้างลูกตา และเกิดความเสียหายต่อเส้นเลือด เส้นประสาทตา รวมถึงจอประสาทตา และเกิดอาการตาบอดได้
หากพบสัญญาณอาการที่ผิดปกติและต้องสงสัยว่า แมวกำลังมีภาวะการสูญเสียการมองเห็น หมอแนะนำให้รีบพาไปตรวจและปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และวางแผนการรักษา เนื่องจากโรคบางโรคสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ แต่หากปล่อยไว้นาน อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นแบบถาวรได้
บทความโดย
สพ.ญ.ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์
สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมว PURRfect Cat Hospital
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – โรคโลหิตจางในแมว เนื่องจากภูมิคุ้มกันทำลายเม็ดเลือดแดงตนเอง
