เทรนด์รักษาสุขภาพกำลังมาแรงครับในบ้านเราแล้วก็ต่างประเทศ ส่วนของคนถ้าจะให้ healthy ก็จะต้องกินอาหารที่ดีมีประโยชน์และถ้าเป็นไปได้ก็คือ unprocessed foods หรือ organic นะครับ คราวนี้แนวคิดนี้ไม่ได้อยู่กับคนเท่านั้นแต่ยังลามมาถึงการเลี้ยงหมาและแมวในบ้านเราด้วย อาหาร BARF
บ้านเรานิยมเรียกอาหารที่เป็น unprocessed foods ว่า อาหาร BARF หรือย่อมาจาก Bone And Raw Food เมืองนอกมีอีกชื่อเรียกว่า Biologically Appropriate Raw Food หรือ raw meat-based diets (RMBDs) ขนาดนี้ถ้าเราเปิดดูหน้าอินเตอร์เน็ตหรือ Pages ใน Facebook ก็จะพบว่ามีร้านค้าหลายร้านทำการขายอาหารประเภทนี้อยู่เป็นจำนวนมาก ตัวหมอเองไม่กล้านับครับว่ามีกี่เจ้าที่กำลังขายในอินเตอร์เน็ตบ้านเรา เพราะว่ามีเยอะมาก
แล้ว logic ในการให้อาหารเหล่านี้คืออะไร หมาและแมวตั้งแต่เป็นสัตว์ป่าจนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน ก็กินอาหารสดมาตลอด ไม่มีส่วนที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเน้นโปรตีน อาหารมาจากธรรมชาติจริงๆ มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ในขณะที่การกินอาหารที่ผ่านกระบวนการเตรียมต่างๆ จนมาเป็นอาหารสำเร็จรูปที่เราเห็นวางขายโดยบริษัทต่างๆ นั้น มีคุณค่าทางอาหาร วิตามินและแร่ธาตุมีปริมาณที่ต่ำกว่าอาหารที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเตรียม คือฟังดูแล้วก็ make sense ครับเหมือนกับให้อาหารหมาป่าด้วยอาหารดิบ เจ้าของทุกคนก็นำหลักคิดตรงนี้ไปใช้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบสิ้นกันอยู่ในวงการวิชาการว่าเมื่อเทียบ risks and benefits อันไหนมันมากกว่ากัน
เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอครับ เรามาดูกันว่างานวิจัยล่าสุดของปี 2019 เขาว่ากันอย่างไร
งานวิจัยตัวนี้เป็นงานวิจัยที่ทำโดยกลุ่มนักวิจัยในอิตาลี เค้าทำแบบสอบถามให้เจ้าของทั้งหมด 218 คนทำการกรอก โดยส่วนใหญ่เจ้าของจะทำการเตรียมอาหาร RMBDs เองครับ และสูตรอาหารก็หาจากอินเตอร์เน็ตเช่นกัน (ในขณะที่บ้านเราตามที่เห็นเน้นซื้อจากอินเตอร์เน็ต ไม่ได้ทำเอง ) เจ้าของสังเกตว่ามีผลดีดังนี้คือทำให้ผิวหนังดีและขนเป็นเงางาม กล้ามเนื้อพัฒนาได้ดี ฟันสะอาด ฯลฯ เจ้าของจำนวน 55% ไม่เจอปัญหาในการกิน RMBDs ผ่านไปแล้วครับสำหรับผลดีที่เจ้าของสังเกตได้จากการกิน RMBDs ในงานวิจัยนี้
เจ้าของ 57% ตอบว่าประเด็นที่การให้ RMBDs ให้อาหารชนิดนี้เพื่อต้องการที่จะรู้ส่วนผสมที่แน่นอนและเลือกอาหารที่มีคุณภาพให้สัตว์เลี้ยง ในขณะที่ให้อาหารสำเร็จรูป เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าส่วนผสมนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง (ในเรื่องของส่วนผสมที่ไม่ชัดเจนของอาหารสำเร็จรูปนั้นหมอก็เห็นด้วย ว่าบัญชีมันไม่สามารถบอกได้ทราบว่ามีอะไรเท่าไหร่ยังไงบ้าง)
มาต่อถึงข้อเสียที่เจอบ้างครับ เจ้าของ 45% พบข้อเสียหลักๆคือ ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียน ฯลฯ มีเจ้าของรายงานว่ามีตัวที่ถึงขั้นเป็นเศษกระดูกไปบาดและตันในทางเดินอาหารด้วยนะครับ
เจ้าของเกือบจะ 100% (จริงๆคือ 94%) ในงานวิจัยนี้มีความเชื่อว่าอาหาร RMBDs มีความปลอดภัยอย่างแน่นอนสำหรับสัตว์เลี้ยงของเขา มีเพียง 1% เท่านั้นที่เข้าใจว่าการกินอาหารไม่สุกมีความเสี่ยง
ในส่วนที่เป็นการอภิปรายของงานวิจัยนี้ นักวิจัยได้อ้างอิงถึงอีกงานวิจัยหนึ่งปี 2013 ซึ่งพบว่าหมา ที่มนุษย์นำมาเลี้ยงนั้นได้มีการปรับตัวโดยมีการเปลี่ยนแปลง 10 ยีนส์ (หน่วยพันธุกรรม) ทำให้หมาสามารถที่จะทำการย่อยแป้งและมีการเมตตาบอลิสมของไขมันได้ ดังนั้นการให้อาหาร RMBDs ก็เหมือนกับเพียงแค่ตัดอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตจากอาหารปกติที่หมากินอยู่ และถือว่าเป็นการยอมรับความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อโรคและพยาธิของอาหารเหล่านี้
มีงานวิจัยอีกจำนวนมากซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาของการกินเนื้อสุกๆดิบๆ สำหรับแบคทีเรียที่สามารถที่จะ ก่อให้เกิดโรคจากการกินได้ หมอขออนุญาตยกตัวอย่างงานวิจัยล่าสุด (ตีพิมพ์ 2019) ที่ทำที่สวีเดน นักวิจัยทำการวิเคราะห์ตัวอย่างอาหาร 60 ตัวอย่างจากผู้ผลิต 10 ราย ใน ”ทุก” ตัวอย่างอาหารตรวจพบแบคทีเรีย Salmonella, Campylobacter, Clostridium แบคทีเรียเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารของคนและสัตว์ครับ และ 31 ตัวอย่างมีจำนวนแบคทีเรียเกินมาตรฐาน สาธารณสุขที่สหภาพยุโรปกำหนดสำหรับการใช้เพื่อบริโภค
จริงๆ ผมก็อยากจะพยายาม quote งานวิจัยออกมาให้เราอ่านกันเยอะๆนะครับ เดี๋ยวพื้นที่จะไม่พอบวกกับน่าเบื่อ ดังนั้นขอสรุปสั้นๆว่า มันมีรายงานหลายรายงานมากจนไม่สามารถเขียนหมดได้ครับที่บ่งบอกถึงการปนเปื้อนของแบคทีเรีย พยาธิและโปรโตซัวในอาหาร RMBDs ในประเทศในสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอเมริกาเหนือ ประเทศที่กล่าวไปแล้วข้างต้นมีมาตรฐานของโรงฆ่าสัตว์ดีกว่าบ้านเรามากเขายังไม่รอดเลย แล้วเราจะเหลือหรือครับ โรคเหล่านี้เป็นโรคสัตว์สู่คนด้วยครับ หมาแมวบ้านเราก็รอดยากครับ
อาหารในกลุ่ม RMBDs ในบ้านเรานั้น “ไม่” ผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยกรมปศุสัตว์เลยสักเจ้า มีเพียง packaging สวยๆ ใส่ข้อความเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ดูดี ขายได้แล้วครับ สามารถผลิตภายในบ้านได้เลยเพียงแค่นำเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆผักต่างๆรวมกันบรรจุใส่ package ก็เสร็จแล้ว โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าโอกาสที่หมาและแมวที่กินอาหารจะติดเชื้อเนื่องจากการปนเปื้อนในบ้านเราจะสูงพอๆกับต่างประเทศครับ ดีไม่ดีสูงกว่าครับเพราะการควบคุมมาตรฐานสาธารสุขบ้านเราเข้มน้อยกว่า
ใครเคยดูรายการ Kitchen nightmares ของ Gordon Ramsay บ้างครับ ถ้าเคยดูจะรู้ว่าในเรื่องของสุขอนามัย ฝรั่งเขาซีเรียสมากครับ ในรายการทีวีจะเห็น Ramsay ด่าเจ้าของร้านอาหารอยู่เสมอเมื่อเจ้าของร้านอาหารเอาเนื้อสดหลายอย่างมาตั้งรวมกันหรือเอาอาหารสดใส่ปนกับอาหารที่ทำให้สุกแล้วเพราะมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ได้ เราไม่ได้ต้องการที่จะทำร้านอาหารเพื่อให้ได้ Michelin star แต่สิ่งนี้คือเรื่องของสุขอนามัยที่ดี ถ้าในการเตรียมอาหารให้ลูกๆของเราทั้งหมาๆแมวๆ มือเราจับที่อาหารหรือภาชนะและเกิดการปนเปื้อนไป เราหรือคนใกล้ตัวซึ่งมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำหรือภูมิคุ้มกันไม่สมบูรณ์เต็มที่ เช่น คนกินยากดภูมิ เด็ก คนสูงอายุหรือคนท้อง มีโอกาสกินเชื้อต่างๆ จะทำให้เกิดอันตรายได้มาก
ต่อให้ไม่มีแบคทีเรีย พยาธิ โปรตัวโตซัวในอาหาร RMBDs ก็ตาม อาหารเหล่านี้ก็มักจะเป็นอาหารที่ไม่ balanced แปลอังกฤษเป็นไทยว่ามีสารอาหารไม่ครบถ้วนและสัดส่วนไม่เหมาะสม เช่น ขาดวิตามินต่างๆ ขาดทอร์รีน ปัญหาเรื่องแร่ธาตุต่างๆ เช่น ระดับแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสไม่สมดุลย์ โพแทสเซียม ไอโอดีน ฯลฯ
เขียนเสร็จหมอก็เริ่มหิวแล้วครับ วันนี้ว่าจะหาอาหารฝรั่งเศสกินสักหน่อย เมนูโปรดของผมคือ steak tartare
Bon appetit!
บทความโดย
อ.น.สพ. วรรณสิทธิ์ จันทรวงศ์ (อว. สพ. ศัลยศาสตร์)
Wannasit Chantornvong, DVM, MS, BVSc, DTBVS
โรงพยาบาลสัตว์ปาริชาต สุวินทวงศ์
Parichart Suwinthawong Animal Hospital