แมวมีขี้หูเยอะ เช็ดแล้วก็กลับมาอีก เกิดจากอะไร

แมวมีขี้หูเยอะ แต่เมื่อเช็ดทำความสะอาดแล้ว ก็มีขี้หูกลับมาอย่างรวดเร็ว อาการที่สร้างความกังวลใจนี้ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

หูเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่สำคัญของแมว แต่ถ้า แมวมีขี้หูเยอะ อาจนำไปสู่โรคในช่องหู และเกิดปัญหาเกี่ยวกับการฟังเสียงของแมวได้

หูของแมวทำหน้าที่รับเสียงจากภายนอก และเกี่ยวข้องกับการทรงตัวขณะยืน ภายในช่องหูของแมวมีโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นท้อรูปตัวแอล (L) แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Vertical ear canal เป็นช่องหูที่ดิ่งลงทางด้านหน้า และ Horizontal ear canal เป็นส่วนที่หักเข้าไปด้านใน

ในช่องหูของแมวส่วนนี้จะผลิตขี้หู (ear wax) ออกมา โดยทั่วไปแล้ว ขี้หูของแมวจะเป็นก้อนสีเหลือง แต่ถ้ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นสีของขี้หูจะเปลี่ยนไป เช่น ในช่องหูมีของเหลวสีดำปนเหลือง ขี้หูสีน้ำตาล หรือมีกลิ่นเหม็น ร่วมกับอาการช่องหูบวมหรือแดง คัน หรือมีขี้หูมากกว่าปกติ เมื่อเช็ดทำความสะอาดแล้วก็ยังมีขี้หูกลับขึ้นมาใหม่เร็วกว่าปกติ

แมวขี้หูเยอะ, ไรหู, โรคไรหู, แมวมีขี้หูเยอะ

อาการดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า แมวของเรากำลังมีปัญหาบางอย่างในช่องหู ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

1. ไรในหู (Ear mite)

ไร (Otodectes cynotis) เป็นปรสิตภายนอกร่างกาย ที่พบได้ในสัตว์เลี้ยงทั่วไป เบื้องต้น ไรจะก่อให้เกิดความรำคาญ และระคายเคือง แต่เมื่อจำนวนตัวไรเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้เกิดการอักเสบ และหูจะพยายามสร้างขี้หูออกมาเพิ่มขึ้น โดยขี้หูจะมีสีดำหรือน้ำตาลคล้ายผงกาแฟ

ไรหูในแมวสามารถติดต่อได้ทั้งจากแมวที่เป็นอยู่แล้ว หรือการสัมผัสกับไรที่อยู่ในธรรมชาติโดยตรง โดยการตรวจวินิจฉัย สัตวแพทย์จะนำขี้หูของแมวไปส่องดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาไข่ และตัวของไร

การรักษาไรหูในแมว สามารถทำได้โดยใช้น้ำยาเช็ดหูที่มีคุณสมบัติยับยั้งไร ยาชนิดหยอดที่มีส่วนผสมของสารฆ่าไรหู และการใช้ยาหยอดบนผิวหนัง ที่ซึมเข้าผ่านร่างกาย และช่วยกำจัดปรสิตภายนอกตามผิวหนังของแมวได้

2. การติดเชื้อในช่องหู

สาเหตุของการติดเชื้อในช่องหูเป็นไปได้ทั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย และยีสต์ ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย โดยแมวที่มีอาการติดเชื้อจะมีขี้หูสีน้ำตาล น้ำตาลเข้ม ดำ ไปจนถึงมีสารคัดหลั่งเป็นหนองสีเหลืองเขียว หากอักเสบรุนแรงอาจมีเลือดออกร่วมด้วย มักจะมีกลิ่นเหม็น และอาการคัน

ในแมวบางตัวที่ช่องหูอักเสบบวมแดง แมวอาจจะมีอาการเจ็บบริเวณช่องหู และไม่ยอมให้เจ้าของจับตัว การตรวจวินิจฉัย สัตวแพทย์จะเก็บตัวอย่างขี้หู เพื่อตรวจด้วยการย้อมเซลล์หาเชื้อโรค และส่องช่องหูด้วยกล้องตรวจหู (otoscope)

การรักษาอาการติดเชื้อ เจ้าของควรพาแมวไปรับการตรวจหาชนิดของเชื้อโรคกับสัตวแพทย์ และใช้ยาทา หรือยาล้างทำความสะอาดช่องหูที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ในบางรายที่มีอาการอักเสบ อาจต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการอักเสบ

แมวขี้หูเยอะ, ไรหู, โรคไรหู, แมวมีขี้หูเยอะ

3. ปัญหาโรคภูมิแพ้ (Allergy)

ภาวะโรคภูมิแพ้ในแมวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดขี้หูเยอะ และช่องหูอักเสบได้ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการแพ้สิ่งกระตุ้นในสิ่งแวดล้อม การแพ้อาหาร หรือการแพ้สิ่งสัมผัสต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย และยีสต์ ตามมาได้

อาการในแมวที่เกิดภูมิแพ้มักจะเป็น ๆ หาย ๆ ดังนั้น การตรวจวินิจฉัยจึงต้องตรวจแยกแยะโรคช่องหูอื่น ๆ ก่อน ด้วยการซักประวัติของแมวจากเจ้าของ อย่างละเอียด ร่วมกับการทดสอบภูมิแพ้อาหาร เป็นต้น จากนั้นจึงรักษาอาการตามสาเหตุที่ตรวจพบ

4. มีความผิดปกติอื่น ๆ ในช่องหู

ความผิดปกติอื่น ๆ ในช่องหูที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ช่องหูตีบแคบ หรือมีซีสต์ในช่องหู ซึ่งส่งผลทำให้ช่องหูตีบแคบลงได้ และมีขี้หูสะสมมาก บางครั้ง แมวที่มีอายุค่อนข้างมาก หรือแมวแก่ โดยเฉพาะสายพันธุ์เปอร์เซีย จะพบโรคซีสต์ในช่องหู (feline ceruminous cystomatosis) ได้บ่อย

ลักษณะของโรคซีสต์ในช่องหู เมื่อส่องกล้องตรวจแล้วจะพบถุงน้ำสีเทาดำเล็ก ๆ กระจายอยู่ในช่องหู โดยภาวะก้อนซีสต์ในช่องหู มักจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือยีสต์ ในช่องหูได้ง่ายขึ้น จึงเกิดขี้หูเยอะตามมา

การรักษาซีสต์ในช่องหูสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้เลเซอร์ การบำบัดด้วยความเย็น (cryotherapy) และการผ่าตัด เป็นต้น

แมวขี้หูเยอะ, ไรหู, โรคไรหู, แมวมีขี้หูเยอะ

เมื่อเจ้าของพบว่า แมวที่เลี้ยงอยู่มีขี้หูเยอะกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อนชื้นแบบนี้ ให้สังเกตอาการของพวกเขาอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องนะคะ หากเริ่มพบว่า แมวเกา และสะบัดหูบ่อยกว่าปกติ พร้อมกับมีกลิ่นแปลกในรูหู เจ้าของควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อรักษาก่อนอาการจะลุกลามค่ะ

เรื่อง: สพ.ญ.ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมว PURRfect Cat Hospital


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : โรคไรขน (Cheyletiella) และ ไรในหู (Otodectes cynotis)