แมวมีอาการคัน เป็นอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในแมว โดยแมวมักจะเกา และเลียขนมากกว่าปกติ จนขนบาง หรือในบางรายอาจพบว่า แมวกัดแทะบริเวณผิวหนัง และร่างกายบ่อยครั้ง
เมื่อ แมวมีอาการคัน สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการคันในแมวเช่น การติดปรสิตภายนอกที่ผิวหนัง ภาวะภูมิแพ้ การติดเชื้อที่ผิวหนัง รวมไปถึงความผิดปกติทางจิตใจ และปัญหาทางพฤติกรรม เป็นต้น
ลักษณะความผิดปกติทางผิวหนังที่พบในแมวและทำให้มีอาการคันคือ ขนบาง และขนร่วงมากกว่าปกติ ขนบางเป็นหย่อม ขนร่วงแบบสมมาตร มีสะเก็ดรังแค พบรอยแดงที่บริเวณผิวหนัง และบางครั้งอาจพบผื่นรอยแดงนูนได้

สาเหตุของโรคผิวหนังที่ทำให้ แมวมีอาการคัน
1. ปรสิตภายนอก
ปรสิตภายนอก เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในแมว โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงในระบบเปิด ปรสิตที่ก่อโรคทางผิวหนัวในแมวคือ หมัด (Ctenocephalides felis) เมื่อหมัดกัดบนผิวหนังของแมว จะทำให้เกิดตุ่มผื่น อักเสบ และสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะแพ้น้ำลายหมัด (flea allergy dermatitis; FAD) ได้ ปรสิตที่พบได้บ่อยอีกหนึ่งชนิด คือ ไรขี้เรื้อนแห้ง(Notoedres cati) ทำให้แมวเกิดอาการคัน มีตุ่มแดง สะเก็ดปกคลุม โดยมักพบบริเวณใบหูส่วนปลาย ใบหน้า รอบตา และคอ และไรในหู (Otodectes cynotis) รวมถึงไรเดโมเด็กซ์ (Demodex spp.) เป็นต้น
2. โรคภูมิแพ้ในแมว
โรคภูมิแพ้ในแมวสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยต่าง ปัจจัยแรกคือ ภาวะภูมิแพ้อาหาร (food allergy) เป็นหนึ่งในอสาเหตุที่ทำให้แมวมีอาการคันเรื้อรัง ขนร่วง บางรายอาจแสดงความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น ถ่ายเหลวเรื้อรัง โดยมักจะไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป ปัจจัยต่อมาคือ ภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม (atopic dermatitis) เช่น การแพ้ไรฝุ่น แพ้เกสรดอกไม้ เป็นต้น และปัจจจัยสุดท้าย ภูมิแพ้จากการแพ้สัมผัส (contact allergy) มักพบอาการจำกัดเฉพาะจุดที่สัมผัสสิ่งกระตุ้นโดยตรง
3. การติดเชื้อที่ผิวหนัง
การติดเชื้อก่อโรคบางชนิด เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus spp การติดเชื้อราผิวหนัง กลุ่ม dermatophytes (Microsporum canis) หรือมีชื่อเรียกว่า ring worm
4. ความผิดปกติทางพฤติกรรม และสภาวะทางจิตใจ
ความผิดปกติทางพฤติกรรม และสภาวะทางจิตใจ ก็สามารถทำให้แมวแสดงอาการเกาตัวเองมากกว่าปกติได้ เช่น psychogenic alopecia ภาวะขนร่วงที่มีสาเหตุทางจิต เกิดได้จากสภาวะความเครียด ความวิตกกังวล และปัจจัยสิ่งแวดล้อมรอบตัวของแมว
5. ปัจจัยอื่นๆ
นอกเหนือจากที่ปัจจัยข้างต้นที่พบได้บ่อย ๆ แล้ว อาการคันในแมวอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้ เช่น ความผิดปกติทางต่อมไร้ท่อ เนื้องอกและมะเร็งที่ผิวหนัง และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ((pemphigus foliaceus) เป็นต้น

การวินิจฉัยอาการคันในแมว
การวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการคันในแมว สัตวแพทย์จะซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการการตรวจร่างกาย สอบถามเกี่ยวกับประวัติด้านพฤติกรรม การเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อม ร่วมกับการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ การขูดตรวจผิวหนัง (skin scraping) การใช้ Wood ‘s lamp ส่องตรวจหาเชื้อรา และการเพาะเชื้อรา การทำ trichogram เป็นการดูลักษณะเส้นขนผ่านกล้องจุลทรรศน์ การตรวจทางเซลล์วิทยา (cytology) การทดสอบอาหาร (Food trial) อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ เพื่อแยกภาวะภูมิแพ้อาหาร และการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังเพื่อหาชนิดสารก่อภูมิแพ้ (allergy test)
การรักษาอาการคันตามผิวหนังของแมว
การรักษาอาการคันผิวหนังของแมว จะรักษาตามสาเหตุของโรค กรณีเกิดจากปรสิตภายนอก สัตวแพทย์จะใช้ยาในกลุ่มกำจัดปรสิตภายนอกหยดทางผิวหนัง ร่วมกับให้ยาเพื่อลดอาการคัน และอาการแพ้
การให้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราตามผลทดสอบในรายที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ สำหรับในกลุ่มที่พบว่า สาเหตุเกิดจากการแพ้อาหาร จะต้องทำการเปลี่ยนอาหารที่แมวกินเป็นประจำ เช่น กลุ่ม hypoallergenic หรือ novel protein diet
การใช้ยากดภูมิในกรณีที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) ร่วมกับการรักษาแบบประคับประคอง ยาแก้แพ้ ลดอาการคัน การใช้แชมพูบรรเทาอาการคัน การให้เสริมสารอาหาร เช่น omega-3 fatty acids และการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงความเครียด
อาการคันในแมวเป็นปัญหาของโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย การหาสาเหตุของอาการต้องอาศัยการวินิจฉัยอย่างละเอียดร่วมกับการวางแผนรักษาที่เหมาะสมควร และควบคุมอาการ การป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ในโรคบางโรคอาจไม่สามารถหายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ และป้องกันการลุกลาม และการติดเชื้อแทรกซ้อน
บทความโดย
สพ.ญ.ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์
สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมว PURRfect Cat Hospital
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – แมวส้ม ทำไมมีขนสีส้ม และส่วนใหญ่เป็นตัวผู้
