เคยคิดไหมว่าเรากำลังทำร้ายสุขภาพของสุนัขที่เรารักโดยไม่รู้ตัวอยู่ ด้วยการตามใจให้อาหารหรือขนมของคนกับสุนัข และหลายๆคนก็เคยมีความคิดที่ว่า “อาหารที่คนกินได้ สุนัขก็ต้องกินได้เหมือนกัน”
แต่จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะคนและสุนัขมีร่างกายและระบบการทำงานต่างๆ ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการย่อยอาหาร การกำจัดสารพิษ และการขับของเสีย จึงทำให้ความต้องการสารอาหารที่ควรได้รับไม่เหมือนกัน
การเลี้ยงสุนัขด้วยอาหารคนอาจจะไม่ได้ส่งผลเสียให้เห็นในทันที แต่จะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อสุขภาพของสุนัข เพราะจะทำให้สุนัขขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือได้รับสารอาหารบางชนิดมากจนเกินไป มักจะมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าสุนัขได้รับสารอาหารไม่เหมาะสม เช่น เจ็บป่วยง่าย เป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังแห้ง ขนหลุดร่วงผิดปกติ มีอาการคัน ผอมหรืออ้วนเกินไป รวมถึงปัญหาท้องเสีย อึไม่เป็นก้อน หรือท้องอืด และอาหารบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ แต่อาจไม่จำเป็นสำหรับสุนัขและบางครั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงไม่ให้อาหารเหล่านี้กับสุนัข
1. อาหารคน ของทอด อาหารที่มีรสเค็ม และอาหารที่มีไขมัน
เจ้าของสุนัขหลายคนมักให้สุนัขกินอาหารที่ปรุงเอง เช่น ตับย่าง หมูย่าง ไก่ย่าง อาหารของคนจะถูกปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุงต่างๆมากมาย ทั้งโซเดียมจากเกลือและน้ำปลา ไขมันจากน้ำมันในของทอด ความหวานจากน้ำตาล และในอาหารคนยังมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่สุนัขไม่ควรกิน เช่น หอม กระเทียม ซึ่งการปรุงรสเหล่านี้ไม่ได้มีผลต่อความอยากอาหารของสุนัข เนื่องจากสุนัขถูกกระตุ้นจากกลิ่นอาหารมากกว่ารสชาติ และอาหารคนยังมีสารอาหารไม่สมดุลสำหรับสุนัข หากให้กินอาหารคนเป็นประจำจะทำให้ขาดสารอาหาร ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่นโรคผิวหนัง ขนร่วง เจ็บป่วยง่ายขึ้น หรือเป็นโรคอ้วน
2. ขนมปังและยีสต์
ยีสต์ที่อยู่ในขนมปังหากสุนัขกินมากเกินไปจะทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และเกิดแก็สในกระเพาะอาหาร อาจทำให้สุนัขปวดท้องอย่างรุนแรง จากแก็สที่สะสมในปริมาณมากจะทำให้กระเพาะขยายขนาดจนไปกดกระบังลม ทำให้สุนัขหายใจลำบากได้ นอกจากนั้นในขนมปังบางชนิดยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรต น้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งหากสุนัขกินเข้าไปบ่อยๆ จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย
3. ช็อกโกแลต ดาร์กช็อกโกแลตและเมล็ดโกโก้ดิบ
ช็อกโกแลต และผงโกโก้ จะมีสารธีโอโบรมีน (Theobromine) และ เมทิลแซนทีน (Methylxanthine) มีรสขม และอาหารที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ อาหารเหล่านี้จะมีฤทธิ์เป็นสารกระตุ้น ความรุนแรงของการเกิดพิษจะขึ้นอยู่กับปริมาณสารดังกล่าวที่สุนัขได้รับ ถ้าสุนัขกินเข้าไปในปริมาณเล็กน้อย อาจทำให้การเต้นหัวใจของสัตว์เลี้ยงผิดปกติ บางตัวอาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปัสสาวะบ่อย หากสุนัขได้รับธีโอโบรมีนมากกว่า 40 mg/kg อาจเกิดอาการชัก ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และหากได้รับสารธีโอโบรมีนปริมาณ 100-200 mg/kg จะมีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้
4. เครื่องดื่มต่างๆและขนมขบเคี้ยวประเภท “ปราศจากน้ำตาล”
อาหารที่ใช้สารไซลิทอล (Xylitol) ให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น ลูกอม เจลลี่ผลไม้ น้ำอัดลม หรือนม หากสุนัขกินเข้าไปจะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว เพราะตับอ่อนของสุนัขจะเชื่อว่ามีน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ส่งผลให้ร่างกายสุนัขปล่อยอินซูลินที่มีหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลออกมามากขึ้น และกำจัดน้ำตาลในเลือดออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ร่างกายอ่อนแรง เกร็งชัก ในกรณีที่แพ้รุนแรงอาจส่งผลให้ตับวายได้อีกด้วย
5. นมสด ผลิตภัณฑ์จากนมวัว
นมพาสเจอร์ไรซ์ นมยูเฮชที เนย และชีส ในอาหารเหล่านี้ มีน้ำตาล แลคโทส (Lactose) ซึ่งสุนัขไม่มีเอนไซม์แลคเทส (Lactase) ที่ใช้ในการย่อยสารแลคโทสในน้ำนม หากสุนัขกินเข้าไปจะส่งผลต่อระบบย่อยและระบบขับถ่าย ทำให้เกิดอาการท้องเสีย เซื่องซึม อาเจียน และในนมวัวยังมีไขมันและน้ำตาล ซึ่งก็อาจทำให้สุนัขเสี่ยงเป็นโรคอ้วน ต้นเหตุของโรคอื่นๆตามมา ถ้าจำเป็นต้องให้นมกับลูกสุนัขก่อนหย่านม (4 – 6 สัปดาห์) ควรเลือกเป็นนมสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ ที่มีสารอาหารใกล้เคียงกับน้ำนมแม่สุนัข ที่มีวางขายทั้งแบบนมผงสำเร็จรูปและแบบน้ำนม เพราะในนมสำหรับลูกสุนัขจะมีการเพิ่มเติมสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เช่นโปรตีน ไขมัน ที่มากกว่านมแพะ หรือนมวัวถึง 2 เท่า หลังจากหย่านม และเริ่มหัดกินอาหารสุนัข เอนไซม์ในการย่อยนมจะลดลง โดยปกติถ้าลูกสุนุขได้รับสารอาหารที่มีคุณภาพ และสารอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยจากมื้ออาหารแล้ว เจ้าของไม่มีความจำเป็นต้องเสริมนม หรืออาหารเสริมให้กับลูกสุนัขอีก
6. องุ่น
องุ่นทุกชนิดทั้งพันธุ์ที่มีเมล็ดและพันธุ์ไม่มีเมล็ดรวมถึงอาหารที่ทำมาจากองุ่นหรือมีองุ่นเป็นส่วนผสม เช่น ลูกเกด น้ำองุ่น เยลลี่องุ่น แยมองุ่น ขนมปังใส่ลูกเกด ต้นตอที่ทำให้สุนัขแพ้องุ่นในปัจจุบันยังอยู่ภายใต้การวิจัยหาสาเหตุเพิ่มเติม แต่ถ้าหากสุนัขกินเข้าไปแม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่มากเพียง 3-4 เม็ด ก็อาจทำให้เกิดอาการอาเจียน ร่างกายอ่อนแรง หรือถ้าขั้นรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้
7. อะโวคาโด
แม้ว่าอะโวคาโดจะเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพของคน แต่สารเพอร์ซิน (Persin) ในอะโวคาโดเป็นอันตรายต่อร่างกายสุนัข หากสุนัขกินเข้าไปในจำนวนมากอาจทำให้สุนัขหายใจติดขัด หรือส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อหัวใจ
8. ผักบางชนิด
ผักจำพวกหอมใหญ่ ต้นหอม กุยช่าย และกระเทียม ผักเหล่านี้มีสารอัลลิลโพรพิลไดซัลไฟด์ (Allyl Propyl Disuldhide หรือ APDS) เป็นพิษต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงของสุนัข อาจทำให้อาเจียน ท้องเสีย และในระยะยาวหากได้รับสารเข้าไปในปริมาณมาก ทำให้มีภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดง
9. ถั่วแมคคาเดเมีย
แมคคาเดเมียมีสารพิษที่จะมีผลต่อระบบประสาท ถ้ากินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตัวสั่น ชัก ซึม และอาเจียน โดยอาการจะแสดงหลังกินเข้าไปประมาณ 12 ชม. และอาการดังกล่าวสามารถอยู่ได้นานถึง 48 ชม.
10. ก้างปลาและกระดูกสัตว์
ก้างปลา กระดูกไก่ กระดูกหมู หรือกระดูกเป็ด อาจทำให้สุนัขฟันบิ่นหรือหักจากความแข็งของกระดูก และร่างกายของสุนัขไม่สามารถย่อยก้างปลาและกระดูกได้ ถ้าสุนัขเคี้ยวไม่ละเอียดจะมีเศษกระดูกคมแหลมลงไปในกระเพาะ สามารถเข้าไปทิ่มในกระเพาะอาหารและทำให้เกิดการฉีกขาดของทางเดินอาหาร หรือเศษกระดูกเล็กๆอาจไปอุดตันระบบทางเดินอาหาร ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
เพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัขที่เรารัก เราควรเลือกอาหารที่มีคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการตามที่ร่างกายของสุนัขต้องการ อย่างเช่น อาหารสุนัข Royal Canin ที่ศึกษาถึงความต้องการของสุขภาพที่มีความแตกต่างกันทั้งสุนัขและแมวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 Royal Canin คิดค้นสูตรอาหารแต่ละสูตรขึ้นมาเพื่อตอบความต้องการของสุขภาพสุนัขแต่ละตัว ผ่านสารอาหาร เช่น สารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ วิตามิน ไฟเบอร์ พรีไบโอติกส์ และแร่ธาตุที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการที่แตกต่างกันของสัตว์เลี้ยง รวมถึงความแตกต่างของขนาด สายพันธุ์ อายุ และไลฟ์สไตล์ของสุนัข อย่างเช่น ถ้าเราเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็กในบ้าน สูตรที่เหมาะคือ Royal Canin สูตร Mini Indoor อาหารที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของสุนัขที่เลี้ยงในบ้านโดยเฉพาะ
- ช่วยดูแลระบบขับถ่าย ลดกลิ่นและปรับอุจจาระให้เป็นก้อน เก็บง่าย จะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน
- ช่วยดูแลรูปร่างให้สมส่วน มีแอลคาร์นิทีนช่วยเพิ่มการเผาผลาญ เพราะน้องหมาที่เลี้ยงในบ้านจะขยับตัวน้อย มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้ง่าย
- ช่วยดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนให้เงางาม เพราะมีส่วนผสมของ โอเมก้า 3 (Omega 3) ชนิด EPA (Eicosapentaenoic acid) และ DHA (Docosahexaenoic acid)
- ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียป้องกันการเกิดคราบพลัคและหินปูน
การเลือกอาหารเพื่อให้สุนัขได้รับสารอาหารที่ดีและครบถ้วนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สุนัขมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่กับเราไปได้อีกยาวนาน
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ Royal Canin ได้ตามร้านpet shop ทั่วไปและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
website : www.royalcanin.com/th
facebook : @RoyalCaninThailand
Application : Royal Canin Club (https://bit.ly/AppRoyalCaninClub)
line : Royal Canin Thailand
Tel : 02 026 2456โพสต์หน้ายังมีเรื่องราวที่ทาสหมาทาสแมวไม่ควรพลาดอย่าลืมกดติดตามเพจบ้านและสวน pets : https://www.facebook.com/BaanlaesuanPets