น้องหมากินสิ่งแปลกปลอม เข้าไปโดยที่พวกเขาอาจไม่ได้ตั้งใจ เจ้าของควรจะต้องทำอย่างไร และสังเกตอาการน้อง ๆ อย่างไร ก่อนอันตรายจนสายเกินแก้
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ น้องหมากินสิ่งแปลกปลอม เพราะว่า น้องหมาใช้ปากสำรวจโลก เหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ใช้มือจับทุกอย่าง แต่ต่างกันตรงที่… เวลาน้องหมาสนใจอะไร เขาอาจกัด เคี้ยว และกลืนลงไป ของบางอย่างผ่านออกทางอุจจาระได้
แต่บางอย่างไม่เคลื่อนต่อและไปติดคา ทำให้เกิดการอุดตัน อักเสบ หรือทะลุในกระเพาะ ลำไส้ ซึ่งเป็น ภาวะฉุกเฉินที่ต้องผ่าตัด และมีโอกาสเสียชีวิตสูงถ้าไปไม่ทันเวลา
สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้อันตรายยิ่งขึ้น คือ “อาการไม่ได้มาให้เห็นทันที” บางตัวกลืนตอนเช้า เล่นได้ปกติทั้งวัน จนกลางดึกถึงเริ่มอาเจียนและทรุดอย่างรวดเร็ว
เราเคยเห็นหมาที่วิ่งเล่นอยู่เมื่อวาน วันนี้กลับต้องนอน ICU เพราะของที่กลืนไปอุดตันลำไส้จนติดเชื้อในช่องท้อง

เมื่อ น้องหมากินสิ่งแปลกปลอม นี่คืออาการที่ควรสงสัย และการสังเกตอาการอย่างละเอียด
1. อาเจียนซ้ำ — อาเจียนหลังอาหารไม่นาน หรืออาเจียนแม้ไม่ได้กินอะไร
- อาเจียนที่มีเศษอาหารทั้งที่เพิ่งกิน
- อาเจียนน้ำย่อยสีเหลือง/เขียว
- อาเจียนมีเลือด (แสดงว่ามีการบาดเจ็บภายใน)
2. เบื่ออาหาร หรือไม่กินเลย — เกิดจากการอุดตันหรือปวดในช่องท้อง
3. ซึม ไม่เล่น ไม่เดินมาก นอนมากผิดปกติ
4. น้ำลายไหลมาก — อาจเกิดจากสิ่งติดในหลอดอาหารหรือคอ
5. ท้องป่อง/แข็ง/เจ็บ — เมื่อกดท้องจะสะดุ้งหรือร้อง
6. ถ่ายผิดปกติ
- ไม่ถ่ายเลยเกิน 24 – 48 ชั่วโมง
- ถ่ายออกมาเป็นเลือดหรือมูกเลือด
7. หายใจมีเสียง/ไอ — ถ้าสิ่งแปลกปลอมติดในหลอดลม
8. พฤติกรรมผิดปกติทันทีหลังเล่นของ — คาบของแล้วเงียบลง หายไปนอนมุมห้อง, เหมือนกลืนแล้วกลัวโดนดุ
จากประสบการณ์จริงของผู้เขียน — เคยมีบูลเทอเรียร์บ้านส่ายหาง กัดลูกบอลเทนนิสแล้วกลืนไปครึ่งลูก อาการแรกเริ่มมีแค่อาเจียนน้ำย่อยเล็กน้อย แต่ไม่ถึง 8 ชั่วโมงท้องแข็งและซึมจนต้องผ่าตัดด่วน

วิธีสังเกตเบื้องต้น (เชิงปฏิบัติ)
ก่อนพาไปหาหมอ ให้จดบันทึกข้อมูลเหล่านี้เพื่อช่วยวินิจฉัยเร็วขึ้น
- จำเวลาเกิดเหตุ — กี่โมง, เห็นเขากลืนหรือสงสัยว่ากลืน
- สิ่งที่หายไปคืออะไร — ขนาด, วัสดุ, แหลมหรือไม่, ย่อยได้หรือไม่
- อาการที่เริ่มเกิดหลังจากนั้น — อาเจียน, ไม่กิน, ถ่ายหรือไม่ถ่าย, เจ็บท้อง
- เคยมีประวัติแบบนี้มาก่อนหรือไม่ — บางตัวมีพฤติกรรมชอบกลืนของ (Pica behavior)
สิ่งที่ห้ามทำเองก่อนเจอหมอ
- ห้ามพยายามล้วงคอ (เสี่ยงบาดเจ็บและดันของลงลึกกว่าเดิม)
- ห้ามให้อาหารแข็งคิดว่าจะดันของลงไป (อาจทำให้ติดมากขึ้น)
- ห้ามใช้น้ำมันหรือนมพยายาม “หล่อลื่น” เพราะอาจทำให้สำลัก
- ห้ามให้ยากระตุ้นให้อาเจียนเองจากสูตรในอินเทอร์เน็ต (อันตรายถ้าของนั้นแหลม, เป็นสารเคมี, หรือกลืนมานานแล้ว)

แนวทางการรักษา (ที่หมออาจเลือกใช้)
1. เอกซเรย์ / อัลตราซาวด์
- เพื่อดูตำแหน่ง ขนาด และจำนวนของสิ่งแปลกปลอม
- ใช้สารทึบรังสีช่วยดูว่ามีการอุดตันหรือไม่
2. เหนี่ยวนำให้อาเจียน
ใช้ได้ในบางกรณีเท่านั้น (เพิ่งกลืน ≤2 ชม. และสิ่งนั้นไม่แหลม ไม่เป็นสารกัดกร่อน)
3. ส่องกล้อง (Endoscopy)
ใช้ในกรณีที่สิ่งนั้นยังอยู่ในกระเพาะหรือหลอดอาหาร
4. ผ่าตัดเปิดกระเพาะ/ลำไส้หากสิ่งนั้นติดลึกหรือทำให้ลำไส้อุดตัน
อาจต้องตัดบางส่วนของลำไส้ออกถ้าเนื้อตายแล้ว
5. การดูแลหลังผ่าตัด
ให้น้ำเกลือ, ยาปฏิชีวนะ, อาหารอ่อน, เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน (ติดเชื้อ, รั่วซึม)
บางกรณีที่พาไปช้า ลำไส้ทะลุแล้วติดเชื้อในช่องท้อง อัตราการรอดจะต่ำลงมาก แม้ผ่าตัดสำเร็จ

การป้องกันน้องหมาไม่ให้เผลอกินสิ่งแปลกปลอม (เชิงลึก)
1. จัดสภาพแวดล้อม
- เก็บของชิ้นเล็กหรือแตกง่ายให้พ้นมือหมา
- ของใช้ในครัว เช่น ถุงพลาสติก, กระดูกปรุงสุก, ไม้เสียบ, ฝาขวด, ไหมขัดฟัน
2. เลือกของเล่นให้เหมาะกับขนาดและนิสัย บูลเทอเรียร์, ลาบราดอร์, บีเกิ้ล = กัดแรง ต้องใช้ของเล่นที่ทนและไม่มีชิ้นเล็กหลุดได้
3. ฝึกคำสั่ง “ปล่อย” หรือ “ทิ้ง” เพื่อให้เขายอมคายสิ่งที่คาบอยู่
4. ไม่ให้ของกินที่เคี้ยวง่ายจนกลืนได้ทั้งชิ้น เช่น หูหมูแผ่นบาง, กระดูกดิบเล็กๆ
5. เฝ้าระวังพฤติกรรม PICA หมาที่ชอบกินดิน, กินผ้า, กินพลาสติก ต้องหาสาเหตุ (ทั้งด้านพฤติกรรมและสุขภาพ เช่น ขาดธาตุอาหาร)
6. อยู่ใกล้เวลาที่เล่นของใหม่ โดยเฉพาะของที่เพิ่งให้ครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าทนหรือปลอดภัยแค่ไหน
บทสรุป
หมาที่กลืนสิ่งแปลกปลอม…ไม่ได้มีเวลาให้เรา “ลองรอดู” ทุกนาทีคือเวลาที่ของนั้นจะเลื่อนลึกขึ้น, กัดกินเนื้อเยื่อ, ทำให้เนื้อตาย หรือเกิดการติดเชื้อ
เราอยากให้คุณจำแค่ว่า เห็น – สงสัย – พาไปหมอทันที อย่าหาข้อมูลเพื่อรักษาเอง เพราะอาจเสียเขาไปตลอดกาล
บทความโดย :
คุณภาณุ ศรีรัตนประภาส ผู้ก่อตั้งเพจส่ายหาง The Happy Tails
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – เมื่อสุนัขเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ — สิ่งที่เจ้าของต้องเข้าใจ
