Pet Breeds

ฟิล่า บราซิเลียโร (Fila brasileiro) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ สุนัขพันธุ์ ฟิล่า บราซิเลียโร (Fila brasileiro) หรือที่รู้จักในชื่อ Brazilian Mastiff เป็นสุนัขในกลุ่ม Mastiffs ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ ที่ขึ้นชื่อในด้านทักษะการติดตาม ไล่ล่า และความก้าวร้าว จึงนิยมฝึกให้กลายเป็นสุนัขใช้งาน อย่าง สุนัขเฝ้ายาม สุนัขเฝ้าบ้าน และสุนัขเลี้ยงแกะ แต่ถึงแม้ว่าสุนัขพันธุ์นี้จะเก่งในการทำงาน ด้วยอารมณ์และขนาดของมัน อาจจะไม่ใช่สายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับทุกคน สุนัขพันธุ์ Fila Brasileiro ถูกพัฒนามาจากสุนัขใช้งานพันธุ์ใหญ่ในประเทศบราซิล ซึ่งใช้สำหรับการติดตามและไล่ล่านักล่าขนาดใหญ่ ในช่วงที่แรงงานทาศถูกกฎหมายในประเทศบราซิล สุนัขพันธุ์นี้ถูกใช้ในการติดตามทาสที่หลบหนีและช่วยรั้งไว้จนกว่าหัวหน้าจะมา โดยสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาในช่วงศตวรรษที่ 15 จากสายพันธุ์ที่ลักษณะเหมือน English mastiff, bulldog, และ bloodhound ทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะบางอย่างเหมือนสุนัขพันธุ์ Bloodhound แม้ว่ามันจะมีความคล่องแคล่วว่องไวมากกว่าอย่างมาก สายพันธุ์ Fila Brasileiro ถูกจดทะเบียนครั้งแรกเมื่อปี 1946 แต่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนจากสมาคม American Kennel Club หรือ United Kennel Club อีกทั้งสุนัขพันธุ์ […]

อ่านต่อ

แมวพันธุ์ไทยท็องกินีส (Thai Tonkinese) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ ไทยท็องกินีส เป็นแมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese cat) กับแมวพันธุ์เบอร์มีส (Burmese cat) ที่มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ในปี ค.ศ. 1950 ‘Milan Greer’ มีความสนใจเรื่องลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ โดยเฉพาะลักษณะสีขนสีน้ำตาลเข้ม (Dark Brown cat) จากแมวพันธุ์เบอร์มีส กับแต้มคล้ายแมวพันธุ์วิเชียรมาศ จึงได้นำแมวทั้ง 2 สายพันธุ์มาผสมพันธุ์ ทำให้ได้ลูกออกมามีลักษณะเสียงแหลมกว่าแมวพันธุ์วิเชียรมาศ และมีนิสัยดี รวมถึงฉลาดมากกว่าแมวพันธุ์วิเชียรมาศ และแมวพันธุ์เบอร์มีส ซึ่งในตอนแรกถูกเรียกว่าแมวพันธุ์วิเชียรมาศสีทอง (Golden Siamese) แต่ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นแมวพันธุ์ท็องกานีส (Tonkanese) ซึ่งมาจากละครเพลง The musical South Pacific ในปี ค.ศ. 1967 สมาคม The Canadian Cat Association ได้มีการขึ้นทะเบียนแมวที่เกิดจากผสมระหว่าง 2 สายพันธุ์ เป็นแมวพันธุ์ท็องกานีส (Thai Tonkinese […]

อ่านต่อ
ไทยบางแก้ว

ไทยบางแก้ว (Thai Bangkaew) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ малоизвестные новые займы круглосуточно без отказаไทยบางแก้ว สุนัขพันธุ์ ไทยบางแก้ว มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศไทย เมื่อ 100 ปีที่แล้ว มีพระสงฆ์จำวัดที่วัดบางแก้ว (Bangkaew temple) ใกล้กับแม่น้ำยม (Yom river) เลี้ยงสุนัขเพศเมียกำลังตั้งท้องอยู่ภายในวัด แต่ไม่มีสุนัขเพศผู้อยู่ด้วย จึงทำให้ไม่สามารถระบุสายพันธุ์สัตว์ได้ จึงสันนิษฐานว่ามีการผสมกับหมาใน (Asiatic Wild Dog) หรือ สุนัขจิ้งจอก (Jackal) ซึ่งในต่อมาได้มีการตรวจสายพันธุกรรม (DNA) จึงสรุปได้ว่าเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์ไทย (Domestic dog) กับ สุนัขจิ้งจอกทอง (Golden Jackal) หลังจากนั้นไม่นาน สุนัขตัวนี้ได้ไปผสมพันธุ์กับสุนัขท้องถิ่นที่ไว้ใช้ต้อนแกะ (Local shepherding dog) โดยลักษณะทางกายภาพภายนอกคล้ายสุนัขพันธุ์พื้นบ้านของไทย ในปีค.ศ. 1980 หรือ พ.ศ.2523 มีสัตวแพทย์ชื่อ Nisit Tangtrakarnpong เป็นสัตวแพทย์ที่ค้นพบสายพันธุกรรมของสุนัขพันธุ์บางแก้วโดยเฉพาะแตกต่างกับสายพันธุ์อื่น องค์กร The Fédération […]

อ่านต่อ

แมวเปอร์เซีย (Persian) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ แมวเปอร์เซีย มีต้นกำเนิดในเถบเปอร์เซีย (เป็นที่ตั้งประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน) นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับพวกมันในปีค.ศ. 1684 โดยพ่อค้าชาวเปอร์เซียนมักบรรทุกสินค้ามากมาย และได้ปรากฏแมวพันธุ์ขนยาวติดมากับกองคาราวานสินค้าด้วย อีกหลักฐานหนึ่งได้กล่าวบรรพบุรุษของแมวเปอร์เซียได้ถูกนำเข้ามายังยุโรปตั้งแต่ช่วง ปีค.ศ. 1620 แล้วได้รับความนิยมในยุโรปอย่างมาก และแพร่กระจายไปทั่วยุโรป จากนั้นในช่วงปลายปีศตวรรษที่ 19 นักพัฒนาสายพันธุ์แมวชาวอังกฤษได้นำแมวเปอร์เซียสมกับสายพันธุ์อื่น เพื่อต้องการให้พวกมันมนขนที่ยาวและหนากว่าเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นของสายพันธุ์ในปัจจุบัน จึงได้มีการนำไปขยายพันธุ์ในสหรัฐฯ ในช่วงต้นปี ค.ศ.1900 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มีคนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกอีกด้วย ลักษณะทางกายภาพ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ มีโครงสร้างกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง โดยเพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 3-5 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง 4-6 กิโลกรัม หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มมีโหนกเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หักที่เป็นจุดเด่นบนใบหน้า จากคำอธิบายของ The Cat Fanciers Association (CFA) ได้ระบุลักษณะสายพันธุ์ไว้ว่า โครงสร้างลำตัวสั้นและกลม หัวกลมมน คอสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นตรงและฟูคล้ายกับหางกระรอก จมูกเป็นสั้นและหัก […]

อ่านต่อ

เจแปนนิส สปิตซ์ (Japanese Spitz) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ เจแปนนิส สปิตซ์ (Japanese Spitz) เป็นสุนัขขนยาวขนาดเล็ก คาดว่าพวกมันสืบเชื้อสายมาจากเยอรมัน สปิตซ์ (German Spitz) ซึ่งถูกนำเข้าในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าพวกมันมีที่อย่างไร เนื่องจากบันทึกส่วนใหญ่ถูกทำลายในช่วงสงครามครั้งที่สอง เจแปนนิส สปิตซ์ปรากฏเป็นครั้งแรกในดินแดนญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1921 ในงานแสดงที่จัดขึ้นที่เมืองโตเกียว จากนั้นนักเพาะพันธุ์สุนัขได้มีการพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อย ๆ จากนั้นช่วงปีค.ศ. 1925 ถึง 1936 มีการนำเข้าสุนัขสายพันธุ์สปิตซ์ (White Klein Wolfsspitz) จากทั้งประเทศแคนาดา สหรัฐฯ และออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาผสมข้ามสายพันธุ์จนเป็นเจแปนนิส สปิตซ์อย่างที่รู้จักกันในปัจจุบัน พวกมันได้รับความนิยมมากขึ้นจากความน่ารัก ขนฟูสีขาวทั้งตัว ซึ่งลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกจดจำ จึงไม่แปลกใจเลยที่พวกมันได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและเป็นที่รู้จักนอกประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่มีการนำเข้ามาในประเทศสวีเดนและจากที่นั่นก็กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ลักษณะทางกายภาพ สุนัขพันธุ์เจแปนนิส สปิตซ์มีขนสีขาวทั่วทั้งตัว มีขนาดของหัวไม่ใหญ่มาก และมีปากที่สีดำสนิท จมูกและดวงตามีสีดำ เป็นรูปทรงเมล็ดอัลมอนด์ (Almond shaped) ส่วนหูมีขนาดเล็กเป็นลักษณะสามเหลี่ยมตั้งตรง หางพวกมันจะมีลักษณะเป็นพวงสีขาวม้วนขึ้นคล้ายกับขนนก และรูปร่างที่กะทัดรัด โดยมีส่วนลำตัวจะมีขนาดที่พอดีถึงแม้จะค่อนข้างบางเล็กน้อย และมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ขนาดของเจแปนนิส สปิตซ์ […]

อ่านต่อ
มันช์กิ้น

มันช์กิ้น (Munchkin) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ มันช์กิ้น (Munchkin) หลายท่านคงคิดว่า พวกมันเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่ด้วยรูปร่างที่แปลกตา แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกมันมีประวัติที่ยาวนานกว่านั้นมาก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1944 ในประเทศอังกฤษ ปรากฏหลักฐานว่า สัตวแพทย์ชาวอังกฤษคนหนึ่งมีความสนใจพันธุกรรมของพวกมัน จึงหาว่าเหตุใดพวกมันถึงมีขาสั้น แต่การศึกษาก็ต้องยุติลงเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาในปี ค.ศ. 1980 นักพัฒนาสายพันธุ์แมวจากรัฐหลุยซ์เซียน่า (Louisiana) ประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Sandra Hockenedel ได้ตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า มันช์กิ้น โดยตั้งตามชื่อของตัวละครในเรื่องวรรณกรรมคลาสสิค อย่าง เรื่อง The Wizard of Oz แมวมันช์กิ้น ได้รับการยอมรับเป็นแมวพันธุ์แท้ โดยสมาคม The International Cat Association หรือ TICA แต่ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับทางสมาคม Cat Fancier Association หรือ CFA เนื่องจากทางสมาคม CFA ถือว่าแมวขาสั้น หรือ แมวมันช์กิ้นมีความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือพิการอย่างหนึ่ง […]

อ่านต่อ

สกอตติช โฟลด์ (Scottish Fold) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ สกอตติช โฟลด์ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสก็อตแลนด์ จากคนเลี้ยงแกะที่ชื่อนาย “วิลเลี่ยม รอส” ในปีค.ศ. 1961 โดยนายวิลเลี่ยมพบแมวตัวหนึ่งในโรงนาของเพื่อนบ้านที่มีลักษณะหูพับและมีสีขาวทั้งตัวโดยบังเอิญ ซึ่งแมวตัวนี้เป็นของเพื่อนบ้านของเขาที่ชื่อว่า “ซูซี่” นายวิลเลี่ยมสนใจซูซี่เป็นอย่างมาก เมื่อซูซี่ได้ให้กำเนิดลูกแมวน้อยที่มีลักษณะหูพับเหมือนกัน นายวิลเลี่ยมจึงขอซื้อจากเจ้าของ แล้วนำมาเลี้ยงที่บ้าน โดยตั้งชื่อแมวที่เป็นลูกของซูซี่นี้ว่า “สนู๊กส์” เมื่อโตขึ้นนายวิลเลี่ยมจึงนำมาผสมพันธุ์กับสายพันธุ์ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ จากนั้นก็เริ่มมีคนสนใจนำแมวที่มีลักษณะหูพับนี้ไปปรับปรุงพันธุ์ จนกระทั่งในปี 1966 ก็ได้มีการตั้งชื่อแมวหูพับนี้ว่า สกอตติช โฟลด์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับสถานที่ที่กำเนิดแมวสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มีคนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกอีกด้วย ลักษณะทางกายภาพ สกอตติช โฟลด์ เป็นแมวขนาดกลาง รูปร่างกะทัดรัด รูปร่างกลม เพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 2.5-4 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง 5.8 กิโลกรัม มีจุดเด่นที่ใบหูพับลงไปข้างหน้า และพับลงต่ำ อีกทั้งขนาดของใบหูมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีดวงตาที่กลมโตคล้ายนกฮูก หัวค่อนข้างกลม ช่วงคอสั้น และมีจมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของ Smiling […]

อ่านต่อ

ดัลเมเชียน (Dalmatian) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ สุนัขพันธุ์ ดัลเมเชียน (Dalmatian) เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ที่มีเชื้อสายที่สืบทอดมายาวนาน มีความเชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากชายฝั่ง Dalmatia ซึ่งตั้งอยู่คาบสมุทรบอลข่าน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 จากสุนัขสายพันธุ์ Talbot Hound ซึ่งเป็นสุนัขที่มีขนสีขาวทั้งตัว และนิยมนำมาเป็นสุนัขอารักขาในกองคาราวาน รวมถึงคอยช่วยและทำหน้าที่ในการล่าสัตว์ ส่วนลายจุดที่เป็นจุดเด่นของพวกมันนั้น คาดว่าอาจเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Talbot Hound และสุนัขพันธุ์ Pointer แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังคงมีอีกหนึ่งตำนานกล่าวถึงที่มาของ “ดัลเมเชียน” ซึ่งตำนานนี้ถูกเล่าขานว่า ต้นกำเนิดของพวกมันอาจจะมาจากทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย แล้วถูกนำเข้ามายังยุโรปโดยชาวยิปซี ซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนในศตวรรษที่ 14 เนื่องจากพบบันทึกเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ในเมืองที่ชื่อว่า ดัลเมเชียน ในยุคแรก ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อสุนัขพันธุ์นี้ว่า “ดัลเมเชียน” ในภายหลังด้วยรูปร่างที่ปราดเปรียว และสง่างามนี้เอง จึงเป็นที่นิยมของชนชั้นสูงในยุโรป ซึ่งชื่นชอบกีฬาการล่าสัตว์ ความนิยมนี้มีมาอย่างต่อเนื่องทำให้สุนัขพันธุ์ดัลเมเชียนเป็นสัญลักษณ์ความอดทนและความกล้าหาญ เห็นได้จากในยุควิกตอเรีย พวกมันมีอีกชื่อว่าสุนัขดับเพลิง เพราะ จะเห็นจากการค้นพบภาพสุนัขพันธุ์นี้ วิ่งไปตามถนนเพื่อกันผู้คนไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลักษณะทางกายภาพ สุนัขพันธุ์ดัลเมเชียนเป็นสุนัขขนาดกลางที่ผสมผสานกันระหว่างความสง่างามและความแข็งแรง จัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่ได้รับความนิยม มีจุดเด่นที่สรีระของร่างกายที่มีความได้เปรียบกว่าสุนัขพันธุ์อื่น พวกมันขึ้นชื่อว่ามีความปราดเปรียวอย่างมาก เคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว ดัลเมเชียนมีหูพับลงตามธรรมชาติ และมีลักษณะเป็นทรงสามเหลี่ยม ส่วนหางนั้นจะยาวเรียว ปลายหางงอขึ้นเล็กน้อย […]

อ่านต่อ
บีเกิล

บีเกิล (Beagle) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ บีเกิล (Beagle) จัดอยู่ในจำพวกกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ (Hound) เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ และสามารถพบเจอได้เกือบทุกพื้นที่ของประเทศอังกฤษ เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ชาวอังกฤษนิยมเพาะมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง คุณสมบัติและความสามารถพิเศษที่โดดเด่นของบีเกิลอย่างหนึ่ง คือ มีความคล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างสูงในการไล่ล่า และแกะรอยกระต่ายป่า ดังนั้น นายพรานส่วนใหญ่จึงมักพาบีเกิลออกไปเป็นฝูง ๆ แต่เช้ามืด เพื่อดมกลิ่นหาเหยื่อ ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมของนายพรานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ นักประวัติศาสตร์พบหลักฐานว่า สุนัขสายพันธุ์บีเกิลถูกใช้สำหรับล่าสัตว์มาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ ในเวลาต่อมาช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พวกมันถูกนำเข้ามายังอเมริกาเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังได้รับความนิยมในกลุ่มนายพรานอย่างมากด้วยประสาทการดมกลิ่นอันเป็นเลิศ จนกระทั่งถึงปี 1870 จึงมีนักพัฒนาสายพันธุ์สุนัขกลุ่มหนึ่ง เริ่มหันมาสนใจพัฒนาสายพันธุ์ของบีเกิลอย่างจริงจัง ทำให้ได้บีเกิลซึ่งมีลักษณะดี และเป็นที่ยอมรับ ถูกต้องตามมาตรฐานในที่สุด โดย American Kennel Club ก็ได้ทำการจดทะเบียนรับรองสุนัขสายพันธุ์บีเกิลตัวแรกเมื่อปี ค.ศ.1885 และต่อมาในปี ค.ศ.1888 จึงได้มีการก่อตั้งชมรมผู้เพาะพันธุ์บีเกิลแห่งสหรัฐฯ ขึ้นอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์บีเกิลยังคงเป็นสุนัขซึ่งมีผู้นิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ด้วยความน่ารัก คล่องแคล่วและเป็นมิตรกับทุกคน อย่างไรก็ตามบีเกิลอาจไม่เหมาะนักสำหรับการเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เพราะความที่เค้าต้องการสังคมสูง ชอบเล่นสนุก ชอบผูกมิตรกับสมาชิกในครอบครัวและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ดังนั้นหากต้องอยู่ตามลำพังเป็นเวลานานจนเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียด และนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวได้ ลักษณะทางกายภาพ สุนัขบีเกิลถูกจัดอยู่ในกลุ่ม สุนัขขนาดกลาง […]

อ่านต่อ
อเมริกัน ช็อตแฮร์

อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ อเมริกัน ช็อตแฮร์ เป็นแมวพื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา จัดอยู่ในประเภทแมวขนสั้น ในปี ค.ศ. 1620 นักเดินเรือได้นำแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์เป็นแมวประจำเรือครั้งแรก เพื่อใช้กำจัดหนูบนเรือที่กลับมาจากพลิมัท (Plymouth) รัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) และเรือที่เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมเจมส์ทาวน์ (Jamestown) ในอาณานิคมเวอร์จิเนีย (Virginia) รวมถึงพาแมวไปยังประเทศต่าง ๆ ทำให้ถูกเรียกว่าแมวเดินทางในทะเล (Seafairing cat) ในปี ค.ศ. 1634 เริ่มมีผู้คนนำแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ มาใช้งาน เช่น ชาวนา, เจ้าของร้าน, หรือนำมาเลี้ยงไว้ในบ้าน เพื่อใช้ป้องกันหนู หรือศัตรูพืชที่กินมากินอาหาร เพราะเป็นแมวที่ขยัน แข็งแรง และเข้มแข็ง ในปี ค.ศ. 1896 แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ เริ่มเป็นที่นิยมเลี้ยง และมีจำนวนมากขึ้นเป็นอย่างมาก รวมถึงได้ถูกนำมาประกวดแมวที่ Madison Square Garden ให้เห็นเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา และมีราคาซื้อแมวอยู่ที่ $2500 ในปี ค.ศ. […]

อ่านต่อ
เจแปนนิส บ็อบเทล

เจแปนนิส บ็อบเทล (Japanese Bobtail) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

ประวัติสายพันธุ์ เจแปนนิส บ็อบเทล หรือ แมวหางกุดญี่ปุ่น (Japanese Bobtail) เป็นแมวประจำชาติญี่ปุ่น และยังถือเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์นำโชคอีกด้วย ในอดีตพวกมันถูกนำมาเลี้ยง เพื่อกำจัดหนูในบริเวณท่าเรือ หรือโรงนา ด้วยความฉลาด และกระตือรือร้นจึงเป็นที่นิยมในประเทศต้นกำเนิด นอกจากนั้น ในยุคสมัยหนึ่งพวกมันถูกเรียกว่า เป็นแมวของจักรพรรด์ญี่ปุ่น มีการออกกฎหมายที่ห้ามฆ่าพวกมัน และให้สิทธิพิเศษในการใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ความนิยมของพวกมันมีมาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน และประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะของญี่ปุ่น จากนั้นในปี ค.ศ.1968 นักพัฒนาสายพันธุ์แมวชาวอเมริกันได้นำแมวเจแปนนิส บ๊อบเทล จากญี่ปุ่นเข้ามาเลี้ยงในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการประกาศเป็นพันธุ์มาตรฐาน โดยสมาคม Cat Fanciers’ Association (CFA) ในปี ค.ศ. 1969 และเป็นที่นิยมอย่างมาก ลักษณะทางกายภาพ เจแปนนิส บ็อบเทล เป็นแมวขนาดกลาง มีน้ำหนักอยู่ราว 2.5 – 5 กิโลกรัม มีรูปร่างปราดเปรียว ลำตัวเพรียว ขายาวเรียว มักพบว่าขาหลังยาวกว่าขาหน้า หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม โหนกแก้มเป็นสันนูน จมูกยาว ตารูปไข่และมีดวงตาสีเหลืองสวย ใบหูใหญ่และตั้งสูงเป็นสามเหลี่ยม […]

อ่านต่อ

ไอโซพอด (Isopod) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

โลมาไม่ใช่ปลา  “ไอโซพอด ไม่ใช่ แมลง” แต่เป็นสัตว์เลี้ยงดึกดำบรรพ์ จากยุค คาร์บอนิเฟรัส บ้านและสวน Pets x Exofood Thailand ขออาสาพาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไป 300 ปีก่อน ในยุคคาร์บอนิเฟรัส เพื่อทำความรู้จักเจ้า ไอโซพอด ให้มากขึ้นกันค่ะ ไอโซพอด หรือ Isopods มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกแปลว่า “Equal Foot” เนื่องจากพวกมันมีจำนวนเท้าแต่ละข้างเท่ากันนั่นเอง แต่สำหรับคนไทยเราคุ้ยเคยกับเจ้าตัวนี้ใน ชื่อ “ตัวกะปิ” (Pill Bugs) สัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ เกิดขึ้นมาบนโลกตั้งแต่ยุคคาร์บอนิเฟรัส (Carboniferous) เมื่อราว 300 ล้านปีก่อน เป็นสัตว์จำพวกครัสเตเชียน (Crustaceans) จำพวกเดียวกับกุ้ง ปู มันจึงไม่เกี่ยวข้องกับแมลงเลยสักนิด ถึงแม้ว่าจะอาศัยอยู่ในธรรมชาติ ตามพื้นดิน โขดหินและต้นไม้เหมือนแมลงก็ตาม โดยพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิต ที่คอยกินสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วและย่อยสลายสารอินทรีย์ ( Detritivores ) มันจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สำคัญต่อการย่อยสารอินทรีย์ในระบบนิเวศมาก ๆ ไอโซพอด กลายมาเป็น Exotic […]

อ่านต่อ