แมว
- Home
- แมว
นิสัยความเป็นนักล่า ที่คนรักแมวต้องรู้ไว้!
“แมว” ถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับมนุษย์มายาวนานนับพันปี ด้วยลักษณะนิสัยที่ความหลายหลายไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ บางคนเลยคิดว่าแมวเป็นสัตว์ที่เข้าใจยาก แต่ความจริงแล้วธรรมชาติของแมวไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่มีนิสัยแสนเชื่อง นิสัยแมว ในบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหลายที่มนุษย์นำมาเลี้ยง แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ยังคงมีสัญชาตญาณของนักล่าอยู่มาก เพราะบรรพบุรุษของแมวมาจากสัตว์ป่าที่เป็นนักล่าเช่นเดียวกันกับสิงโตและเสือ ซึ่งอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แม้ปัจจุบันแมวจะพัฒนาจากสัตว์ป่ามาเป็นแมวบ้าน มีเจ้าของเลี้ยงดูแต่สัญชาตญาณของความเป็นนักล่าก็ยังหลงเหลืออยู่ให้เราได้เห็น แมวแต่ละตัวก็จะมีความเป็นนักล่ามากน้อยแตกต่างจะมีอะไรบ้างนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจกันค่ะ นิสัยแมว ชอบปีนป่ายกระโดดขึ้นที่สูง การขึ้นที่สูงเป็นหนึ่งในนิสัยนักล่าเวลาที่แมวจะจับเหยื่อจะขึ้นที่สูงเพื่อคอยเฝ้าดูไม่ให้เหยื่อรู้ตัวหรือเวลาที่หนีจากสัตว์อื่นแมวจะกระโดดขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย ด้วยโครงสร้างทางร่างกายของแมวที่มีความคล่องตัวสูง มีกระดูกที่เบา กล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงและยืดหยุ่นได้มากกว่าสัตว์อื่น ๆ แมวสามารถกระโดดสปริงตัวขึ้นที่สูงมาก ๆ ได้ และถ้าตกจากที่สูงกระดูกชิ้นเล็ก ๆ อยู่บริเวณหูชั้นใน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทรงตัวของร่างกาย จะควบคุมให้ร่างกายค่อย ๆ พลิกตัวทีละส่วน โดยเริ่มบิดตัวจากส่วนหัวไปหาง เพื่อให้สมองคำนวณหาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการทิ้งตัวหมุนกลับเพื่อเอาเท้าลงพื้นได้อย่างปลอดภัย สัญชาตญาณแมว แมวไม่ชอบเสียงดังหรือที่จอแจวุ่นวาย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่หูไวมากสามารถได้ยินเสียงที่มีคลื่นความถี่เสียงสูงมากและได้ยินเสียงในระยะไกลได้ดี แมวหูดีกว่ามนุษย์สามารถได้ยินเสียงดังมากกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า รูปทรงหูของแมวจะมีลักษณะคล้ายจานดาวเทียมภายในมีความโค้งและหยักไว้สำหรับรับสัญญาณเสียงต่าง ๆ และที่สำคัญแมวใช้ประสาทสัมผัสการฟังในการล่าเหยื่อ หูของแมวสามารถหมุนได้รอบทิศทางเพื่อคอยดักฟังเสียงทำให้ได้ยินเสียงร้องจากเหยื่ออย่างนก หนู จิ้งจก กระรอกหรือกระต่าย แม้ว่าเหยื่อจะหลบซ่อนอยู่ก็ตาม และความหูดีของแมวก็ทำให้แมวบางตัวขี้กลัวหรือหวาดระแวงเวลาได้ยินเสียงดัง ๆ ดังนั้นเจ้าของควรมีพื้นที่สงบที่เงียบ ๆ ให้แมวได้พักผ่อน และหลีกเลี่ยงการพาแมวออกไปที่มีความวุ่นวายเสียงดังเพราะอาจจะทำให้แมวตื่นตระหนกและเกิดความเครียดได้ กลางคืนไม่นอนปลุกเจ้าของตอนดึกชวนวิ่งเล่น ในอดีตแมวล่าเหยื่อตอนกลางคืนเพราะแมวมองเห็นได้ในที่มืดรูม่านตาของแมวสามารถขยายได้กว้างเลยทำให้มีความไวต่อสัตว์หรือสิ่งของที่เคลื่อนไหวผ่านหน้าในสภาวะที่มีแสงน้อยหรือตอนกลางคืน […]
อ่านต่อโรคขี้แมว หรือ โรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis)
โรคขี้แมว (Toxoplasmosis) เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน(Zoonosis) ที่สำคัญ เกิดจากติดเชื้อโปรโตซัวที่ชื่อว่า Toxoplasma gondii เชื้อมีวงจรชีวิตที่สามารถเจริญเติบโตได้ในสัตว์เลือดอุ่นทุกชนิด แต่แมวนั้นจัดเป็นโฮสต์แท้ เชื้อจะอาศัยทางเดินอาหารของแมวในการเจริญเติบโตจนสมบูรณ์และปล่อยไข่ (Oocyst) ปนออกมากับอุจจาระของแมว แมวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการพบเชื้อ โรคขี้แมว นี้ คือ แมวเลี้ยงระบบเปิด มีพฤติกรรมล่ากินเหยื่อ เช่น หนู นก หรือแมว กินเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก แต่ถ้าหากเป็นแมวที่เลี้ยงระบบปิด และไม่กินเนื้อดิบ หรือกินหนู นกต่างๆ โอกาสพบเชื้อจะค่อนข้างน้อยมาก หรือไม่มีเลย การติดต่อสู่คนของเชื้อนี้มีได้ 3 ทาง1.การรับประทานอาหาร หรือ ดื่มน้ำที่มีไข่ ที่เจริญเต็มที่แล้วปนเปื้อนอยู่2.การรับประทานถุงซีสต์ของพยาธิ ที่อยู่ในเนื้อสัตว์ดิบ ปรุงไม่สุก ที่มีเชื้อโรคขี้แมวนี้อยู่3.ผ่านทางรกไปยังทารก หากแม่ติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ โดยที่จริงแล้ว รายงานคนที่เลี้ยงแมวติด โรคขี้แมว นี้จากแมวโดยตรงนั้นอุบัติการณ์น้อย การติดต่อทางหลักของโรคนี้ในแมวมักเกิดจากการที่กินเนื้อสัตว์เช่นเนื้อหมู เนื้อวัว ที่มีเชื้อปนเปื้อนและปรุงไม่สุก หรือปรุงสุกๆดิบๆ เป็นต้น ข้อควรเข้าใจคือโรคนี้ไม่ได้เกิดกับคนที่ตั้งครรภ์ทุกคน สำหรับคนตั้งครรภ์ ถ้าหากติดเชื้อ โรคขี้แมว เชื้อโรคจะผ่านรกไปยังทารก และทำให้เกิดโรคขี้แมวแต่กำเนิดได้ […]
อ่านต่อโรคหวัดแมว หรือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้นในแมว (Cat flu)
โรคหวัดแมว เมื่อได้ยินแล้วหลายคนอาจคิดว่า เป็นโรคธรรมดาที่ไม่น่ากลัว คล้ายกับคนที่เป็นหวัด ไม่นานก็หาย แต่!! จริงๆแล้ว โรคหวัดแมวนั้นมีความอันตรายต่อชีวิตของน้องแมวมากกว่าที่ทุกคนคิด โรคหวัดแมว เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสจำเพาะในแมว ได้แก่ Feline Herpesvirus (FHV) , Feline Calicivirus (FCV) นอกจากนั้นยังมีเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย เช่น Bordetella bronchiseptica , Chlamydia spp. , Mycoplasma spp. เป็นต้น การติดต่อ เกิดจากแมวที่ติดเชื้อ จะแพร่เชื้อผ่านทางสิ่งคัดหลั่งจากตา จมูก และปาก การแพร่กระจายของเชื้อเกิดได้จากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของแมวที่ป่วยโดยตรง ซึ่งมักจะเป็นทางหลักในการติดต่อของโรค ส่วนการหายใจเอาเชื้อไวรัสจากสิ่งคัดหลั่ง หรือละอองหายใจเข้าไป ก็สามารถพบได้ โรคหวัดแมวพบได้บ่อยในบริเวณที่มีการเลี้ยงแมวจำนวนมาก หรืออยู่กันอย่างหนาแน่น ในกรณีที่แมวป่วย และหายจากโรคแล้วนั้น ยังสามารถเป็นพาหะนำโรคได้ต่อไป อาการของโรคหวัดแมว ระยะฟักตัวของโรคหวัดแมว จะประมาณ 2 – 10 วัน แต่อาจจะนานได้ถึง 14 […]
อ่านต่อเลือกอาหารแมวอย่างไร ให้สุขภาพดีและเติบโตแบบที่เค้าเป็น
สำหรับเหล่าทาสแมวแล้ว การได้ใกล้ชิดคลอเคลีย และเห็นเค้าเติบโตมีสุขภาพที่แข็งแรงตามวัยคือความสุขที่สุด
อ่านต่อฉลาดอ่านฉลาก ก่อนเลือกซื้ออาหารแมว
ทาสแมวทั้งหลาย เคยไปซื้ออาหารแมว แล้วประสบปัญหายืนงงอยู่ในโซนอาหารแมวตั้งนานสองนานกันมั้ย อาหารยี่ห้อไหน ถุงแบบไหนก็หน้าตาเหมือนกันไปหมด ไม่รู้ว่าจะเลือกอาหารแมวยี่ห้อไหนดี ที่จะเหมาะสมกับน้องแมวของเรา หรือที่ได้มาตรฐานปลอดภัยกับน้องแมว แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเรา “ฉลาดอ่านฉลาก” การเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับน้องแมวของคุณอาจเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ และเป็นการตัดสินใจที่หนักใจสำหรับเจ้าของน้องแมวหลายๆคน ซึ่งในปัจจุบันก็มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาหารเม็ด , อาหารเปียก , บาร์ฟ , อาหารแบบ Grain free , อาหารเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งมีมากมายหลากหลายรูปแบบไปหมด และการอ่านฉลากจะเป็นสิ่งที่ช่วยเราเลือกซื้ออาหารให้น้องแมวได้อย่างเหมาะสม การอ่านฉลาก สำคัญอย่างไร การอ่านฉลาก จะเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยม ในการที่จะช่วยเราพิจารณาได้ว่าอาหารยี่ห้อใด สูตรใด ถึงจะเหมาะสมกับน้องแมวของเรา หรือเป็นอาหารที่ได้คุณภาพ ปลอดภัยกับน้องแมวของเรา เพราะที่ฉลากบนถุงอาหารนั้น จะบ่งบอกถึงข้อมูลที่สำคัญของอาหารยี่ห้อนั้น ๆ เช่น วัตถุดิบ สารปรุงแต่งต่าง ๆ คุณภาพของอาหาร วันผลิต-หมดอายุ การรับรองมาตรฐานของอาหารสัตว์ ชื่อผู้ผลิต ปริมาณน้ำหนักของอาหาร เป็นต้น สิ่งที่ควรสังเกตบนฉลากอาหาร วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ ส่วนผสมของอาหารสัตว์เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในฉลากที่จะต้องอ่าน ส่วนผสมที่ใช้จะต้องเรียงลำดับตามน้ำหนักจากปริมาณมากไปน้อย และจะต้องระบุส่วนผสมที่ใช้ทั้งหมดอย่างละเอียด โดยส่วนผสมหลักของอาหารสัตว์จะมาจากพืช […]
อ่านต่อโรคตับอ่อนอักเสบ ในแมว (Pancreatitis)
โรคตับอ่อนอักเสบ เป็นภาวะหนึ่งที่ฟังดูน่ากังวล และอาจจะเข้าใจได้ยาก วันนี้ บ้านและสวน Pets จะพามาความรู้จักกับโรคตับอ่อนอักเสบกันในบทความนี้ ตับอ่อน เป็นอวัยวะหนึ่งในช่องท้อง ที่มีบทบาทสำคัญ ในร่างกายหลายประการ ตำแหน่งของตับอ่อน จะอยู่ติดกับกระเพาะ และ ลำไส้เล็ก ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับ การสร้างเอ็นไซม์สำหรับการย่อยอาหาร และยังทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน สำหรับควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โรคตับอ่อนอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในแมว นอกจากนั้น ยังพบได้ในคน และ สุนัขอีกด้วย โรคตับอ่อนอักเสบคืออะไร ? โรคตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) เกิดจากตับอ่อนของแมว มีกระบวนการอักเสบเกิดขึ้น โดยในแมวส่วนใหญ่ ภาวะนี้มักเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เรามักจะพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ การอักเสบของตับ และ ลำไส้ร่วมกัน (เรียกว่า Triaditis) พบได้บ่อยในแมววัยกลางคน ถึงแมวสูงอายุ เนื่องจาก ตับอ่อนสร้างเอ็นไซม์สำหรับย่อยอาหาร และ เมื่อตับอ่อนเกิดการอักเสบ เอ็นไซม์เหล่านี้ก็จะถูกปล่อยออกสู่ตับอ่อน และ เนื้อเยื่อรอบๆข้าง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย และ ความเจ็บปวด ทำให้แมวมีอาการปวดเกร็งท้อง ในรายที่รุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจาก […]
อ่านต่อแมวกินน้ำน้อย จะมีวิธีกระตุ้นให้น้องกินน้ำยังไง
แมวกินน้ำน้อย โดยธรรมชาติ เราเชื่อกันว่าเป็นพฤติกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษที่มีถิ่นกำเนิดแถบทะเลทราย ทำให้แมวต้องมีการปรับตัวให้เข้าสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ และพฤติกรรมนี้ก็ถูกถ่ายทอดมายังปัจจุบัน ปริมาณน้ำ ที่ต้องการของร่างกายแมวเฉลี่ยจะอยู่ที่ 40-60 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัวแมว 1 กิโลกรัม ต่อวัน การที่ แมวกินน้ำน้อย จึงสามารถนำไปสู่ การเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้เช่น โรคไต , โรคระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น วันนี้ บ้านและสวน Pets เรามีทริปที่จะช่วยกระตุ้นให้น้องแมวกินน้ำมากขึ้น มาลองทำดูกัน วิธีกระตุ้นแมวให้กินน้ำมากขึ้น (How to encourage your cat to drink) 1. ชนิดของภาชนะใส่น้ำ : ต้องเลือกภาชนะใส่น้ำ ที่ทำให้แมวอยากกินน้ำ ปกติแล้ว แมวจะชอบชามแก้ว โลหะ และ เซรามิก มากกว่า ชามพลาสติก (ให้ทดลองดู ว่าแมวเราชอบแบบไหน) แมวส่วนใหญ่ชอบชามน้ำที่ ตื้น กว้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเอาหัวไปจุ่ม หรือ […]
อ่านต่อแมวปัสสาวะไม่ออก เกิดจากสาเหตุอะไร?
กลุ่มอาการผิดปกติของระบบขับถ่ายปัสสาวะส่วนล่างในแมว (FLUTD ; feline lower urinary tract disease) เป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยในแมว อาการที่พบได้แก่ แมวปัสสาวะไม่ออก ปวดเบ่งเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะมีเลือดปน ใช้เวลาในการปัสสาวะนานกว่าปกติ เลียอวัยวะเพศบ่อยๆ ปัสสาวะผิดที่หรือปัสสาวะนอกกระบะทราย มีอาการปวดเกร็งบริเวณแถวช่องท้อง กลุ่มอาการนี้พบมากในแมวพันธุ์แท้ที่ขนยาว เช่น พันธุ์เปอร์เซีย พันธุ์ฮิมาลายัน ส่วนในแมวพันธุ์อื่น ๆ รวมถึงแมวไทย สามารถพบได้เช่นกัน ความผิดปกตินี้พบบ่อยในแมวที่มีช่วงอายุระหว่าง 2-6 ปี พบมากในแมวเพศผู้ที่ทำหมัน แมวที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือ แมวอ้วน แมวที่ออกกำลังกายน้อย แมวที่กินอาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ด แมวที่มีนิสัยกินน้ำน้อย แมวปัสสาวะไม่ออก สาเหตุที่ทำให้แมว เกิดความผิดปกตินั้นพบว่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ 1. ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ที่ไม่ทราบสาเหตุ (Feline Idiopathic Cystitis : FIC) ซึ่งพบได้บ่อยมากในแมว แมวจะมีอาการ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่เมื่อตรวจแล้วไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ปัจจัยโน้มนำที่ทำให้เกิดคือ ความเครียด และ […]
อ่านต่อแมวไทยขนสั้น (Domestic Shorthair) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ แมวไทยขนสั้น (Domestic Shorthair : DSH) นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มต้นเมื่อใด และไม่สามารถระบุได้ว่ามีกี่สายพันธุ์ แต่ได้ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย เนื่องจากเนื่องจากเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมตั้งแต่โบราณ และยังมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อที่ยังคงมีในปัจจุบัน ทั้งยังปรากฏแมวในสำนวนหรือสุภาษิตต่าง ๆ เป็นต้นว่า ‘ย้อมแมวขาย’ หรือ ‘ยื่นหมูยื่นแมว’ และ ‘ปิดประตูตีแมว’ เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าแมวไทยมีประวัติความเป็นมายาวนาน ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเริ่มมีการแยกลักษณะแมว ถือว่าเป็น “ตำราดูลักษณะแมว” เล่มแรกที่ได้ทำการแยกแมวไทยตามลักษณะนิสัย หรือบุคลิกของแมว ตำราดังกล่าวเป็นสมุดข่อย โดยแบ่งเป็นแมวมงคลและแมวให้โทษทั้งหมด 23 สายพันธุ์ (เป็นแมวมงคล 17 สายพันธุ์ และแมวให้โทษ 6 สายพันธุ์) เหตุที่แบ่งเป็นแมวให้คุณกับแมวให้โทษนั้น เป็นความเชื่อของคนในสมัยโบราณโดยดูว่าเลี้ยงแล้วจะนำสิ่งที่ดี ๆ หรือสิ่งชั่วร้ายมาสู่ผู้เป็นเจ้าของหรือไม่ ทั้งนี้แมวไทยส่วนใหญ่มีนิสัยดี ไม่ดุร้าย ฉลาด รู้จักประจบประแจง และรักเจ้าของเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมในประเทศได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเหตุให้แมวไทยยังได้รับนิยมเลี้ยงมาจนถึงปัจจุบัน ลักษณะทางกายภาพ แมวไทยขนสั้น เป็นแมวขนาดกลาง โดยหัวมีลักษณะโครงสร้างยาวสมส่วนปราดเปรียว มีลำตัวขนาดเล็ก น้ำหนักเบา บวกกับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคล่องตัวของพวกมัน […]
อ่านต่อแมวพันธุ์ไทยท็องกินีส (Thai Tonkinese) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ ไทยท็องกินีส เป็นแมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese cat) กับแมวพันธุ์เบอร์มีส (Burmese cat) ที่มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ในปี ค.ศ. 1950 ‘Milan Greer’ มีความสนใจเรื่องลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ โดยเฉพาะลักษณะสีขนสีน้ำตาลเข้ม (Dark Brown cat) จากแมวพันธุ์เบอร์มีส กับแต้มคล้ายแมวพันธุ์วิเชียรมาศ จึงได้นำแมวทั้ง 2 สายพันธุ์มาผสมพันธุ์ ทำให้ได้ลูกออกมามีลักษณะเสียงแหลมกว่าแมวพันธุ์วิเชียรมาศ และมีนิสัยดี รวมถึงฉลาดมากกว่าแมวพันธุ์วิเชียรมาศ และแมวพันธุ์เบอร์มีส ซึ่งในตอนแรกถูกเรียกว่าแมวพันธุ์วิเชียรมาศสีทอง (Golden Siamese) แต่ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นแมวพันธุ์ท็องกานีส (Tonkanese) ซึ่งมาจากละครเพลง The musical South Pacific ในปี ค.ศ. 1967 สมาคม The Canadian Cat Association ได้มีการขึ้นทะเบียนแมวที่เกิดจากผสมระหว่าง 2 สายพันธุ์ เป็นแมวพันธุ์ท็องกานีส (Thai Tonkinese […]
อ่านต่อแมวเปอร์เซีย (Persian) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ แมวเปอร์เซีย มีต้นกำเนิดในเถบเปอร์เซีย (เป็นที่ตั้งประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน) นักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับพวกมันในปีค.ศ. 1684 โดยพ่อค้าชาวเปอร์เซียนมักบรรทุกสินค้ามากมาย และได้ปรากฏแมวพันธุ์ขนยาวติดมากับกองคาราวานสินค้าด้วย อีกหลักฐานหนึ่งได้กล่าวบรรพบุรุษของแมวเปอร์เซียได้ถูกนำเข้ามายังยุโรปตั้งแต่ช่วง ปีค.ศ. 1620 แล้วได้รับความนิยมในยุโรปอย่างมาก และแพร่กระจายไปทั่วยุโรป จากนั้นในช่วงปลายปีศตวรรษที่ 19 นักพัฒนาสายพันธุ์แมวชาวอังกฤษได้นำแมวเปอร์เซียสมกับสายพันธุ์อื่น เพื่อต้องการให้พวกมันมนขนที่ยาวและหนากว่าเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นของสายพันธุ์ในปัจจุบัน จึงได้มีการนำไปขยายพันธุ์ในสหรัฐฯ ในช่วงต้นปี ค.ศ.1900 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มีคนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกอีกด้วย ลักษณะทางกายภาพ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ มีโครงสร้างกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง โดยเพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 3-5 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง 4-6 กิโลกรัม หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มมีโหนกเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หักที่เป็นจุดเด่นบนใบหน้า จากคำอธิบายของ The Cat Fanciers Association (CFA) ได้ระบุลักษณะสายพันธุ์ไว้ว่า โครงสร้างลำตัวสั้นและกลม หัวกลมมน คอสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นตรงและฟูคล้ายกับหางกระรอก จมูกเป็นสั้นและหัก […]
อ่านต่อมันช์กิ้น (Munchkin) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ มันช์กิ้น (Munchkin) หลายท่านคงคิดว่า พวกมันเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่ด้วยรูปร่างที่แปลกตา แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกมันมีประวัติที่ยาวนานกว่านั้นมาก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1944 ในประเทศอังกฤษ ปรากฏหลักฐานว่า สัตวแพทย์ชาวอังกฤษคนหนึ่งมีความสนใจพันธุกรรมของพวกมัน จึงหาว่าเหตุใดพวกมันถึงมีขาสั้น แต่การศึกษาก็ต้องยุติลงเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาในปี ค.ศ. 1980 นักพัฒนาสายพันธุ์แมวจากรัฐหลุยซ์เซียน่า (Louisiana) ประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Sandra Hockenedel ได้ตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า มันช์กิ้น โดยตั้งตามชื่อของตัวละครในเรื่องวรรณกรรมคลาสสิค อย่าง เรื่อง The Wizard of Oz แมวมันช์กิ้น ได้รับการยอมรับเป็นแมวพันธุ์แท้ โดยสมาคม The International Cat Association หรือ TICA แต่ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับทางสมาคม Cat Fancier Association หรือ CFA เนื่องจากทางสมาคม CFA ถือว่าแมวขาสั้น หรือ แมวมันช์กิ้นมีความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือพิการอย่างหนึ่ง […]
อ่านต่อสกอตติช โฟลด์ (Scottish Fold) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ สกอตติช โฟลด์ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสก็อตแลนด์ จากคนเลี้ยงแกะที่ชื่อนาย “วิลเลี่ยม รอส” ในปีค.ศ. 1961 โดยนายวิลเลี่ยมพบแมวตัวหนึ่งในโรงนาของเพื่อนบ้านที่มีลักษณะหูพับและมีสีขาวทั้งตัวโดยบังเอิญ ซึ่งแมวตัวนี้เป็นของเพื่อนบ้านของเขาที่ชื่อว่า “ซูซี่” นายวิลเลี่ยมสนใจซูซี่เป็นอย่างมาก เมื่อซูซี่ได้ให้กำเนิดลูกแมวน้อยที่มีลักษณะหูพับเหมือนกัน นายวิลเลี่ยมจึงขอซื้อจากเจ้าของ แล้วนำมาเลี้ยงที่บ้าน โดยตั้งชื่อแมวที่เป็นลูกของซูซี่นี้ว่า “สนู๊กส์” เมื่อโตขึ้นนายวิลเลี่ยมจึงนำมาผสมพันธุ์กับสายพันธุ์ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ จากนั้นก็เริ่มมีคนสนใจนำแมวที่มีลักษณะหูพับนี้ไปปรับปรุงพันธุ์ จนกระทั่งในปี 1966 ก็ได้มีการตั้งชื่อแมวหูพับนี้ว่า สกอตติช โฟลด์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับสถานที่ที่กำเนิดแมวสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มีคนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกอีกด้วย ลักษณะทางกายภาพ สกอตติช โฟลด์ เป็นแมวขนาดกลาง รูปร่างกะทัดรัด รูปร่างกลม เพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 2.5-4 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง 5.8 กิโลกรัม มีจุดเด่นที่ใบหูพับลงไปข้างหน้า และพับลงต่ำ อีกทั้งขนาดของใบหูมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีดวงตาที่กลมโตคล้ายนกฮูก หัวค่อนข้างกลม ช่วงคอสั้น และมีจมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของ Smiling […]
อ่านต่อไรขน (Cheyletiella) และ ไรในหู (Otodectes cynotis)
โรคไรขน ไรขน (Cheyletiella) อาศัยอยู่บนผิวหนังของแมวและสุนัข โดยจะเข้าทำลายด้วยการกัดกินผิวหนังชั้นเคราตินและกินของเหลวที่อยู่ภายในเนื้อเยื่อผิวชั้นบน ทำให้ผิวหนังระคายเคือง เกิดลักษณะของรังแค ขนร่วง และมีอาการคัน ไรชนิดนี้ยังสามารถพบได้ทั่วไปในกระต่ายและสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วย ซึ่งมันสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ โดยสามารถอยู่บนผิวของคนและทำให้เกิดผื่นคันได้อีกด้วย Cheyletiella มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์จะชอบ Host ที่แตกต่างชนิดกันออกไป ไรขนจะตัวเต็มวัยมีขนาด 0.385 มิลลิเมตร มีขา 4 คู่ มีกรงเล็บที่บริเวณขา มีรยางค์ส่วนปากคล้ายคลึงกับคีมหนีบ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่พบได้ในปรสิตชนิดนี้ ไรขนมักอาศัยอยู่ภายในผิวหนังชั้นเคราตินและพัฒนาตัวเองให้เข้าสู่ระยะตัวเต็มวัยและมีชีวิตอยู่รอดได้เพียง 10 วันเท่านั้น ลักษณะการเข้าทำลายของ ไรขน มักเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “รังแคเดินได้” เนื่องจากไรชนิดนี้จะเคลื่อนที่ไปมาใต้ชั้นเคราติน และผลักเศษผิวหนังขึ้นมา จึงทำให้ดูเหมือนว่ามีการเคลื่อนไหวของรังแค การวินิจฉัย สามารถสังเกตเห็นไรขนได้บ้างบนผิวหนัง มีลักษณะเหมือนรังแคที่กำลังเคลื่อนที่บนผิวหนัง สามารถเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาไรขี้เรื้อน โดยใช้สก็อตเทปแปะไปที่บนผิวหนังที่สงสัยหรือใช้หวีสาง และนำไปส่องกล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาไรขน หรือไข่ของไรขน การรักษา มีทางเลือกหลายอย่างสำหรับการรักษา Cheyletiella โดยจะต้องรักษาทั้งตัวสัตว์และสภาพแวดล้อมภายในบ้าน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ เช่น พื้นปูเตียง ของเล่น เป็นต้น […]
อ่านต่ออเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ อเมริกัน ช็อตแฮร์ เป็นแมวพื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา จัดอยู่ในประเภทแมวขนสั้น ในปี ค.ศ. 1620 นักเดินเรือได้นำแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์เป็นแมวประจำเรือครั้งแรก เพื่อใช้กำจัดหนูบนเรือที่กลับมาจากพลิมัท (Plymouth) รัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) และเรือที่เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมเจมส์ทาวน์ (Jamestown) ในอาณานิคมเวอร์จิเนีย (Virginia) รวมถึงพาแมวไปยังประเทศต่าง ๆ ทำให้ถูกเรียกว่าแมวเดินทางในทะเล (Seafairing cat) ในปี ค.ศ. 1634 เริ่มมีผู้คนนำแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ มาใช้งาน เช่น ชาวนา, เจ้าของร้าน, หรือนำมาเลี้ยงไว้ในบ้าน เพื่อใช้ป้องกันหนู หรือศัตรูพืชที่กินมากินอาหาร เพราะเป็นแมวที่ขยัน แข็งแรง และเข้มแข็ง ในปี ค.ศ. 1896 แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ เริ่มเป็นที่นิยมเลี้ยง และมีจำนวนมากขึ้นเป็นอย่างมาก รวมถึงได้ถูกนำมาประกวดแมวที่ Madison Square Garden ให้เห็นเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา และมีราคาซื้อแมวอยู่ที่ $2500 ในปี ค.ศ. […]
อ่านต่อเอาใจน้องเหมียว ด้วยอาหารแมวแบบเปียกและขนมแมวเลีย
ทาสแมวหลายคนคงทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่กินน้ำน้อยโดยธรรมชาติ อาจเพราะส่วนหนึ่งเชื่อว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิด หรือมีเชื้อสายมาจากแถบทะเลทราย จึงสามารถอดน้ำได้ดี เพราะ ถูกจำกัดโดยสิ่งแวดล้อม แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำน้อยในปัจจุบันอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงของโรคนิ่ว โรคไต และโรคระบบทางเดินปัสสาวะได้ บ่อยครั้งเจ้าของจึงต้องให้ อาหารแมวแบบเปียก และขนมแมวเลีย เพื่อช่วยชดเชยปริมาณน้ำในร่างกายที่ขาดไป อาหารแมวแบบเปียก ส่วนใหญ่ มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70-80% จึงช่วยเติมน้ำในร่างกายให้เพียงพอ หรือใกล้เคียงกับความต้องการในแต่ละวันได้ อีกทั้งแมวเป็นสัตว์ที่มีต่อมรับรสบนลิ้นน้อยมาก แต่มีประสาทสัมผัสในการรับรู้กลิ่นที่ดี อาหารแมวแบบเปียกและขนมแมวเลียที่มีเนื้อสัมผัสดีและมีกลิ่นหอม จึงเป็นตัวตัดสินรสชาติและกระตุ้นความอยากอาหารของแมว ซึ่งเจ้าของควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เน้นวัตถุดิบหลักที่เป็นเนื้อสัตว์แท้ อย่าง เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ มีส่วนผสมที่เหมาะกับอายุ สุขภาพ และความต้องการของร่างกาย รวมถึงควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรให้เพื่อทดแทนอาหารหลัก และควรดูแลสุขภาพช่องปากของแมวเหมียวเป็นประจำ เพื่อลดกลิ่นปากและการสะสมของคราบหินปูน PRAMY ผลิตจากส่วนที่ดีที่สุดของเนื้อปลาแท้ 100% อาหารแมวแบบเปียกของ Pramy (พรามี่) ผลิตจากเนื้อปลาแท้ 100% คัดสรรมาเฉพาะปลาเนื้อขาว (White meat) ซึ่งเป็นเนื้อส่วนที่ดีที่สุด ปราศจากก้าง เครื่องใน เลือด รวมถึงเนื้อแดง เพื่อให้ได้อาหารคุณภาพดีที่สุด (Human […]
อ่านต่อโรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข และแมว
โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข และแมว เป็นภัยร้ายที่คร่าชีวิตสุนัขและแมวในบ้านเราได้อย่างต่อเนื่อง เพราะ พยาธิเม็ดเลือดถูกนำโดยเห็บหรือหมัด เมื่อสุนัขหรือแมวติดเห็บหรือหมัดมาจึงมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับเชื้อ โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข ติดมาด้วย ถ้าตรวจพบเร็วอาการยังไม่รุนแรงมาก สามารถให้ยาได้ทันการณ์ก็สามารถหายขาดได้ แต่ถ้าอาการลุกลามไปมากแล้ว โอกาสในการช่วยชีวิตก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ สาเหตุ พยาธิเม็ดเลือดเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เข้าไปบุกรุกเซลล์เม็ดเลือด ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว หรือเกล็ดเลือด จัดอยู่ในกลุ่มโปรโตซัว (Protozoa) หรือกลุ่มริกเกตเซีย (Rickettsia) มีหลายสปีชีส์ (Species) เช่น Babesia spp. Mycoplasma spp. Ehrlichia canis และ Hepatozoon spp. เป็นต้น แต่ละชนิดก็มีเซลล์เม็ดเลือดเป้าหมายที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือมีการถ่ายทอดเชื้อผ่านพาหะ (Vector) อย่างเห็บและหมัด เห็บหมัดจะดูดเลือดจากสุนัขหรือแมวที่มีพยาธิเม็ดเลือด ทำให้ได้รับตัวอ่อนของพยาธิเม็ดเลือดเข้ามาเจริญอยู่ในตัวเห็บหมัดนั้น ๆ พอเติบโตได้ระยะที่สามารถแพร่เชื้อได้ เมื่อเห็บหมัดไปดูดเลือดสุนัขหรือแมวอีกตัวหนึ่งก็เกิดการถ่ายทอดเชื้อจากเห็บหมัดไป ยังสุนัขหรือแมว พยาธิเม็ดเลือดจึงเข้าไปเจริญเติบโตเพิ่มจำนวน และทำลายเซลล์เม็ดเลือดในร่างกายของสุนัขและแมวได้ทำให้เกิดอาการป่วยด้วยโรคพยาธิเม็ดเลือดตามมา อาการ อาการเด่นชัดของโรคพยาธิเม็ดเลือด คือ ภาวะซีดจากการทำลายเม็ดเลือดแดงของพยาธิเม็ดเลือด เกิดภาวะโลหิตจาง เป็นอาการเด่นที่เจ้าของสามารถสังเกตได้เอง โดยดูจากสีของเยื่อเมือกบริเวณต่าง ๆ […]
อ่านต่อเจแปนนิส บ็อบเทล (Japanese Bobtail) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
ประวัติสายพันธุ์ เจแปนนิส บ็อบเทล หรือ แมวหางกุดญี่ปุ่น (Japanese Bobtail) เป็นแมวประจำชาติญี่ปุ่น และยังถือเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์นำโชคอีกด้วย ในอดีตพวกมันถูกนำมาเลี้ยง เพื่อกำจัดหนูในบริเวณท่าเรือ หรือโรงนา ด้วยความฉลาด และกระตือรือร้นจึงเป็นที่นิยมในประเทศต้นกำเนิด นอกจากนั้น ในยุคสมัยหนึ่งพวกมันถูกเรียกว่า เป็นแมวของจักรพรรด์ญี่ปุ่น มีการออกกฎหมายที่ห้ามฆ่าพวกมัน และให้สิทธิพิเศษในการใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ความนิยมของพวกมันมีมาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน และประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะของญี่ปุ่น จากนั้นในปี ค.ศ.1968 นักพัฒนาสายพันธุ์แมวชาวอเมริกันได้นำแมวเจแปนนิส บ๊อบเทล จากญี่ปุ่นเข้ามาเลี้ยงในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการประกาศเป็นพันธุ์มาตรฐาน โดยสมาคม Cat Fanciers’ Association (CFA) ในปี ค.ศ. 1969 และเป็นที่นิยมอย่างมาก ลักษณะทางกายภาพ เจแปนนิส บ็อบเทล เป็นแมวขนาดกลาง มีน้ำหนักอยู่ราว 2.5 – 5 กิโลกรัม มีรูปร่างปราดเปรียว ลำตัวเพรียว ขายาวเรียว มักพบว่าขาหลังยาวกว่าขาหน้า หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม โหนกแก้มเป็นสันนูน จมูกยาว ตารูปไข่และมีดวงตาสีเหลืองสวย ใบหูใหญ่และตั้งสูงเป็นสามเหลี่ยม […]
อ่านต่อ