Pet Health

บี้เห็บ ไม่ได้ จริงหรือมั่ว

เจ้าของสุนัขและแมวหลาย ๆ บ้านน่าจะต้องมีประสบการณ์กับปัญหากวนใจอย่าง “เห็บ” มาบ้างไม่มากก็น้อย และเจ้าของหลาย ๆ ท่านก็คงอดใจไม่ได้ที่จะจับเห็บออกจากตัวน้องหมาแล้ว บี้เห็บ เหล่านั้นซะ แต่บ่อยครั้งเรามักได้ยินคำห้ามที่ว่า “ไม่ควร บี้เห็บ เพราะจะทำให้เกิดเห็บตามมามากมายเป็นทวีคูณ” ทำไมถึงมีคำกล่าวเช่นนี้ แล้วจริง ๆ มันเป็นตามที่เค้าบอกกันมาหรือไม่ วันนี้ บ้านและสวน Pets จะพาไปรู้กันครับ รู้จักเห็บ เห็บ (tick) เป็นแมลงชนิดหนึ่งมีหลายสปีชีส์พบได้ทั่วโลกตามลักษณะภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไป สำหรับประเทศไทยเรา มักพบเห็บสุนัขสีน้ำตาล หรือ Brown dog tick มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus กินเลือดเป็นอาหาร ชอบอาศัยบนตัวสุนัข (จึงเรียกว่าเห็บสุนัขสีน้ำตาล) แต่ก็สามารถกัดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นรวมถึงคนได้เช่นกัน นอกจากประเทศไทยแล้วเห็บชนิดนี้ สามารถพบได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในพื้นที่เขตร้อน เห็บสุนัขสีน้ำตาลมี 8 ขา ลำตัวแบนแต่เมื่อกินเลือดตัวจะพองขึ้น มีขนาดต่างกันไปตามระยะ (life stage) ของวงจรชีวิต (life cycle) ตั้งแต่ตัวเล็กเท่าหัวเข็ม จนถึงกินเลือดจนตัวเต่งเหมือนลูกเกด วงจรชีวิตเห็บ […]

อ่านต่อ
อายุหมา, อายุแมว, เมื่อเทียบกับมนุษย์

อายุหมา อายุแมว เมื่อเทียบกับมนุษย์ ?

อายุหมา ถ้าเทียบกับอายุเราแล้ว เค้าจะอายุเท่าไรบ้างนะ บางคนก็คงเคยได้ยินว่า ถ้าเอาอายุสุนัขคูณด้วย ‘7’ เราก็จะได้เป็นอายุที่เทียบเท่ามนุษย์ อายุหมา และอายุแมว เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ ได้กลายเป็นการศึกษาที่ได้ลงรายละเอียดไว้ด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ในปี ค.ศ. 2019 ได้มีงานวิจัยเผยแพร่ว่า “เปรียบเทียบอายุสุนัขและแมวกับมนุษย์ ไม่ได้เทียบแค่การคูณด้วยเจ็ดอย่างที่เราเคยได้ยินมา” โดยนักวิจัยได้ทำการเทียบสารพันธุกรรม (DNA) ของสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์แต่ละช่วงอายุ กับ สารพันธุกรรมของมนุษย์ (ที่ใช้สุนัขเพียงพันธุ์เดียวก็เพื่อให้ได้สารพันธุกรรมเดียวกันทั้งหมดในการเทียบปัจจัยต่าง ๆ เช่น การพัฒนาแต่ละช่วงอายุที่เหมือน ๆ กัน) ด้วยวิธีการทดลอง เพื่อดูลักษณะของสารพันธุกรรม ทำให้ได้ผลเป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ออกมา นักวิจัยสามารถแปรผลการทดลองนี้ออกมาได้เป็นสูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่เป็นค่า Logarithm คือ “อายุมนุษย์ = 16ln(อายุสุนัข)+31” ยกตัวอย่างเช่น สุนัขอายุ 4 ปี เมื่อเทียบในสูตรจะเทียบเท่าอายุมนุษย์ 53 ปี ซึ่งผลที่ได้จากการคำนวณจะเป็นอายุโดยคร่าว ๆ ของสุนัข แต่ทั้งนี้ด้วยความที่อายุขัยสุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่มีความต่างกันออกไป จึงทำให้ค่า เปรียบเทียบอายุสุนัขและแมวกับมนุษย์ ที่ได้อาจจะเป็นค่าประมาณการ เปรียบเทียบอายุสุนัขและแมวกับมนุษย์ เปรียบเทียบ อายุหมา กับมนุษย์ […]

อ่านต่อ

การปั๊มหัวใจ หรือ CPR สัตว์เลี้ยง (Cardiopulmonary Resuscitation)

การเรียนรู้วิธีการทำปฏิบัติการกู้ชีพ “การปั๊มหัวใจ” หรือ CPR สัตว์เลี้ยง สามารถช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงได้เบื้องต้น เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการหยุดหายใจ และชีพจรหยุดเต้น เพื่อให้เลือดไหลเวียนนำออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะสมองและหัวใจ ก่อนนำส่งถึงมือสัตวแพทย์ต่อไป เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินขั้นตอนแรกในการทำปฏิบัติการกู้ชีพ หรือ CPR สัตว์เลี้ยง คือการตรวจสอบว่าสัตว์เลี้ยงยังหายใจอยู่หรือไม่ ด้วยการวางมือหรือแก้มของคุณใกล้กับจมูกของสัตว์ แล้วสัมผัสถึงอากาศหรือลมหายใจ แต่ถ้าหากยังไม่มั่นใจให้นำสำลีหรือผ้าบาง ๆ มาอังที่จมูก พร้อมสังเกตบริเวณหน้าอกว่ากำลังขยับขึ้นลงหรือไม่ เพื่อประเมินความจำเป็นในการทำ CPR หากต้องทำ CPR สัตว์เลี้ยง อย่างเร่งด่วน ให้เจ้าของทำการตรวจสอบชีพจรของสัตว์เลี้ยง ด้วยการกดนิ้วลงเบา ๆ ที่บริเวณด้านบนตรงกลางอุ้งเท้าขนาดใหญ่ของสัตว์เลี้ยง หรือบริเวณข้างล่างขาหลังด้านใน เพื่อสัมผัสถึงชีพจรหรือเส้นเลือดแดง (femoral artery) หรือจะให้ง่ายที่สุดคือการใช้ฝ่ามือคลำตรง “ตำแหน่งหัวใจของสัตว์เลี้ยง” โดยใช้นิ้วหัวแม่มือวางบนหน้าอกด้านหนึ่ง และใช้อีก 4 นิ้ว วางบนหน้าอกอีกด้าน หัวใจจะอยู่ด้านหลังข้อศอกบริเวณกลางอก ถ้าสัตว์เลี้ยงไม่หายใจและไม่มีชีพจร คุณสามารถข้ามการกดหน้าอกไปที่การช่วยหายใจได้เลย * การทำปฏิบัติการกู้ชีพ หรือ CPR สัตว์เลี้ยง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า สัตว์เลี้ยงไม่มีเลือดออก […]

อ่านต่อ

โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติของสุนัขและแมวพันธุ์หน้าสั้น

โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติของสุนัขและแมวพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic syndrome) เป็นกลุ่มโรคของสุนัขและแมวที่มีจมูกสั้น เกิดปัญหาที่บริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น (Upper airway abnormalities) โดยการตั้งชื่อ โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติของสุนัขและแมวพันธุ์หน้าสั้น หรือ Brachycephalic syndrome มาจาก Brachy หมายถึงสั้น และ Cephalic หมายถึงส่วนหัว เนื่องจากมีลักษณะกะโหลกศีรษะขนาดใหญ่แต่สั้นแบน ทำให้โครงสร้างของหน้า จมูก และปากสั้น นอกจากนี้ยังสามารถเรียกชื่อโรคทางภาษาอังกฤษได้อีกหลายแบบ ได้แก่ Brachycephalic respiratory syndrome, Brachycephalic airway obstructive syndrome หรือ Congenital obstructive upper airway disease เป็นต้น องค์ประกอบของการเกิดโรค Brachycephalic syndrome เกิดจากความผิดปกติจากหลายองค์ประกอบ  สามารถพบความผิดปกติได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเกิดความผิดปกติร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การหายใจเข้าไปยังปอดเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยลักษณะความผิดปกติที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวสัตว์ได้ มีดังนี้ ความผิดปกติที่สามารถพบได้บ่อยในสุนัขและแมวพันธุ์หน้าสั้น รูจมูกตีบแคบ (Stenotic nares) เป็นการเจริญผิดปกติของรูจมูก ทำให้มีรูแคบหรือยุบแฟบเข้าไปเมื่อหายใจเข้า ทำให้สัตว์หายใจติดขัดเนื่องจากมีปัญหารูจมูกตีบแคบ เพดานอ่อนยาวกว่าปกติ […]

อ่านต่อ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับสัตว์เลี้ยง (First aid)

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับสัตว์เลี้ยง คือ การดูแลเมื่อสัตว์มีอาการป่วย หรือบาดเจ็บ โดยไม่จำเป็นต้องมีสัตวแพทย์อยู่ แต่ควรจะรู้จักคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่พักและเวลาเปิด-ปิด แต่ที่สำคัญที่สุด คือ เจ้าของจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อลดความเจ็บปวดและลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ วิธีการนำสัตว์เลี้ยงมายังโรงพยาบาล หลังจาก การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับสัตว์เลี้ยง ควรพาสัตว์เลี้ยงไปยังโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการอย่างถูกต้อง ด้วยภาชนะที่นำสัตว์ที่เหมาะสม เช่น • สุนัขพันธุ์เล็ก หรือแมว ให้ใส่กระเป๋า หรือกล่องกระดาษแข็ง• สุนัขพันธุ์ใหญ่ สามารถใช้เปลหาม หรือจูงสัตว์มา หากสุนัขยังสามารถเดินได้ โดยเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวัง และจับสัตว์เลี้ยงอย่างระมัดระวัง เพราะเมื่อสัตว์อยู่ในภาวะเครียด จะทำให้สัตว์เลี้ยงแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวได้• ใช้อุปกรณ์ในการช่วยจับบังคับสัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์กัดเจ้าของ เช่น ที่ปิดปากสัตว์ (Muzzling), การใช้ผ้าห่อตัวสัตว์ (Wrapping), การทำให้สัตว์นอนอยู่กับที่ (Immobilizing) ภาวะฉุกเฉินที่สามารถพบได้บ่อย  1.การได้รับสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นจากการกิน การหายใจเข้าไป หรือการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงจากสารเคมีชนิดต่าง ๆ เช่น สารเคมีในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, ยาตามใบสั่งแพทย์, สารกำจัดหนู หรือ อาหารที่เป็นพิษต่อสัตว์ (ช็อคโกแลต) อันตรายจากช็อคโกแลต […]

อ่านต่อ

7 พืชผักสมุนไพร ยาธรรมชาติสำหรับสัตว์เลี้ยง

ขึ้นชื่อว่าสมุนไพร ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ หรือมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยในการบำรุงรักษา ไม่ว่าจะต่อมนุษย์ หรือ สัตว์เลี้ยงเองก็ตาม โดยเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เราไม่ควรใช้ยาของคน อย่าง พาราเซตามอล ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ในการเยียวยาหรือรักษา เพราะ อาจทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ วันนี้ บ้านและสวน Pets จึงมีอีกหนึ่งทางเลือก อย่าง พืชผักสมุนไพร ยาธรรมชาติสำหรับสัตว์เลี้ยง มาแนะนำกันค่ะ แต่ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง ในทุกกรณี เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม และป้องกันการเกิดอาการแพ้ หรืออันตรายด้วยนะคะ 1.สะระแหน่ (Mint) ชื่อวิทยาศาสตร์: Mentha cordifolia Opizวงศ์: Lamiaceae (Labiatae) เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม ช่วยบรรเทาอาการระบบทางเดินอาหาร ลดอาการอาเจียน ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ ปั่นป่วน อาการเมารถ สำหรับน้องแมวยังช่วยละลายเสมหะ ลดน้ำมูก และช่วยให้รู้สึกสดชื่น อารมณ์ดีได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากเลือกใช้เป็นประเภทน้ำมันหอมระเหยต้องเลือกเป็นเกรดที่สามารถทานได้ นอกจากนี้ยังควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการใช้ในปริมาณที่สูงเกินไปก็อาจมีผลกระทบต่อตับ หรือไตได้เช่นกันนะคะ 2.อบเชย (cinnamon) ชื่อวิทยาศาสตร์: Cinnamomum verumวงศ์: Lauraceae […]

อ่านต่อ

โรคไข้หัดแมว หรือ โรคลำไส้อักเสบติดต่อในแมว (Feline Distemper)

“โรคไข้หัดแมว” คือโรคอะไร ?? มีความเกี่ยวข้องกับโรคไข้หัดสุนัขหรือไม่ ?? ติดต่ออย่างไร ?? ก่อโรคในมนุษย์ได้หรือไม่ ?? แล้วจะมีวิธีการที่จะป้องกันแมวสุดที่รักของเราจากโรคนี้ได้หรือไม่ อย่างไร ??? ในโอกาสนี้ หมอก็จะขออนุญาตนำข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ “โรคไข้หัดแมว” มาสรุปสั้นๆ ให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ โรคไข้หัดแมว คืออะไร ?? “โรคไข้หัดแมว” หรือ “feline distemper” นั้น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในวงการสัตวแพทย์อยู่หลายชื่อ โดยคุณหมอสัตวแพทย์บางท่านอาจจะเรียกว่า “โรคลำไส้อักเสบติดต่อในแมว (feline infectious enteritis)” หรือ “โรคติดเชื้อพาร์โวไวรัสในแมว (feline parvovirus infection)” หรือบางท่านก็อาจจะขนานโรคนี้ว่า “โรคแพนลิวโคพีเนียในแมว (feline panleukopenia)” ซึ่งคำว่า “แพนลิวโคพีเนีย” นี้ เป็นศัพท์ทางการแพทย์ที่แปลว่าเม็ดเลือดขาวต่ำ ทั้งนี้เนื่องจากแมวที่ติดโรคดังกล่าวนี้ มักมีจำนวนเม็ดเลือดขาวทุกชนิดลดต่ำลงอย่างมาก (ซึ่งจะได้มีการกล่าวถึงรายละเอียดของภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำต่อไปหลังจากนี้) “โรคไข้หัดแมว” เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม “Carnivore protoparvovirus 1” โดยพบว่าร้อยละ 95 ของแมวที่ป่วยด้วยโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อพาร์โวไวรัสในแมว […]

อ่านต่อ

โรคกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน (Gastric Dilatation and Volvulus : GDV)

Gastric Dilatation and Volvulus (GDV) หรือ โรคกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน จัดเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตต้องได้รับการรักษาในทันที โดยมักจะเกิดขึ้น ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง หลังจากการกินอาหารเข้าไปเป็นปริมาณมากใน 1 มื้อ โรคกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน คือ การที่กระเพาะอาหาร (Stomach) มีการขยายตัวคล้ายลูกโป่ง หรือเรียกว่า “Bloat” หรือ  Gastric Dilatation จากการมีปริมาณแก๊ส น้ำ และอาหารที่สัตว์กินสะสมอยู่มากกว่าปกติ และถ้าเกิดการบิดหมุนของกระเพาะอาหารที่มีอาหารและแก๊สขึ้น จะก่อให้เกิด โรคกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน (GDV)  ซึ่งสามารถเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือการระบายแก๊สออกจากกระเพาะอาหาร ซึ่งจะมีขั้นตอนกระบวนการนำแก๊สออกจากกระเพราะอาหารได้หลายวิธี เพราะในขณะที่กระเพาะอาหารเริ่มมีการพองขยายใหญ่ แรงดันในกระเพาะอาหารจะเริ่มสูงขึ้น และเมื่อกระเพาะอาหารมีการขยายตัวมากขึ้นและบิดหมุนไปมาภายในช่องท้อง เรียกว่า “Volvulus” โดยการบิดหมุนของกระเพาะอาหารบางส่วนจะมีทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซึ่งสามารถเกิดการบิดตัวของกระเพาะอาหารได้ตั้งแต่ 180-360 องศา การบิดส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 180 องศาตามเข็มนาฬิกา การขยายตัวและบิดทำให้ไปกดเส้นเลือดหลักที่เดินทางเข้าสู่หัวใจ ทำให้เกิดปัญหาตามมา ได้แก่ เลือดบริเวณช่องท้องไหลกลับเข้าสู่หัวใจน้อยลง การไหลเวียนของเลือดบริเวณช่องท้องลดลง […]

อ่านต่อ

โรคเส้นเลือดลัดข้ามตับ (Portosystemic shunts : PSS)

กายวิภาคปกติคือ เส้นเลือดดำ portal (portal vascular system) ซึ่งรับเลือดจากทางเดินอาหาร เช่น ม้าม ตับอ่อน และระบบทางเดินอาหาร ทั้งหมดจะมุ่งหน้าเข้าสู่ตับ เพื่อให้ตับทำหน้าที่ในการเผาผลาญสารอาหาร (Metabolize) และกำจัดสารพิษ (Detoxify) ก่อนจะระบายเลือดสู่เส้นเดือดดำ hepatic (hepatic vein) ซึ่งจะต่อกับเส้นเลือดดำ vena cava (รูปที่ 1 A) แต่หากเกิดการลัดเส้นทางเดินของหลอดเลือดจากทางเดินอาหารเข้าตับ จะทำให้ตับขาดการพัฒนาตัวตับเอง เป็นผลทำให้เกิดตับล้มเหลว (Failure of the liver) หรือเกิดตับฝ่อ (Hepatic atrophy) ซึ่งการเกิดตับฝ่อ คือการที่ตับไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนปกติ ความผิดปกตินี้ส่งผลทำให้ร่างกายได้รับสารพิษ, โปรตีน, และสารอาหารที่ถูกดูดซึม จากลำไส้เข้าสู่ระบบหมุนเวียนเลือดภายในร่างกายทันที หากมีการสะสมมากขึ้น จะก่อตัวเป็นสารพิษนำไปสู่การเกิดโรคสมองจากตับได้ (Hepatic encephalopathy) ทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นที่ระบบประสาทส่วนกลาง (Central nervous system) โรคเส้นเลือดลัดข้ามตับ โรคเส้นเลือดลัดข้ามตับ Portosystemic shunt (PSS) […]

อ่านต่อ
การฝังเข็มสัตว์เลี้ยง

8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนรักษาด้วยศาสตร์ การฝังเข็มสัตว์เลี้ยง

ในปัจจุบันการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกเริ่มเป็นที่นิยมและมีความต้องการมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการรักษาอาการป่วยต่างๆ ในคน ไม่ว่าจะเป็น การใช้สมุนไพร การฝังเข็ม ครอบแก้ว หรือ แม้แต่การนวดกดจุด เพื่อบำบัดอาการต่างๆ จนเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งวิธีการรักษาทางเลือกนี้ ก็สามารถใช้ในสัตว์เลี้ยงได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ยังคงจำกัดในวงแคบๆ อยู่ วันนี้ บ้านและสวน Pets จะมาอธิบาย เรื่อง การฝังเข็มสัตว์เลี้ยง ให้เข้าใจง่ายที่สุดกันครับ 1.ที่มาของการฝังเข็มในสัตว์เลี้ยง ประเทศจีนเป็นต้นกำเนิดของการฝังเข็ม โดยมีการขุดพบหลักฐานช่วงยุคหินใหม่ อายุไม่ต่ำกว่าสี่พันปีซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถือว่าเก่าแก่ที่สุด ทำมาจากหินที่ถูกปรับแต่งให้บางและเล็กลง เพื่อนำมาใช้รักษาโรค เราเรียกเครื่องมือชนิดนี้ว่า “เปี่ยนสือ” ต่อมาก็มีพัฒนาการทำเข็ม มาจากวัสดุพวก กระดูก ไม้ไผ่ ทองแดง เหล็ก ทองคำ และ เงิน นอกจากนี้ ยังมีตำราการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดและตกทอดมาในยุคปัจจุบัน คือ ตำราหวงตีเน่ยจิง ซึ่งเป็นการรวบรวมทฎษฎีทางการแพทย์และการรักษาโรคต่างๆ เอาไว้อย่างครบครัน รวมถึงศาสตร์ของการฝังเข็ม อีกทั้งหมอยังมีตำนานบทหนึ่งเกี่ยวกับหมอฝังเข็มที่เล่าต่อกันมา นามว่า “มาซือหวง” มาเล่าให้ฟัง โดยมาซือหวงหรือหมอฝังเข็มท่านนี้เป็นหมอที่มีความสามารถเก่งกาจในการรักษาม้าด้วยสมุนไพรจนชื่อเสียงระบือไปไกล ไปถึงหูของเทพพระเจ้ามังกร ซึ่งประจวบเหมาะพอดีที่ตอนนั้นเทพพระเจ้ามังกรกำลังป่วย ท่านจึงได้บินลงมาหามาซือหวง เพื่อทำการรักษา จากนั้นเมื่อมาซือหวงได้มอบสมุนไพร่ให้แก่เทพมังกรและรักษาอาการจนหายเป็นปกติแล้ว […]

อ่านต่อ

อาหารสามารถช่วยในการรักษานิ่วได้อย่างไร

ส่วนแรกที่ควรทำความเข้าใจก่อนเกี่ยวกับ นิ่วในสุนัข คือกระบวนการการเกิดขึ้นของนิ่ว เพื่อที่จะได้เข้าใจบทบาทของอาหารในการช่วยรักษานิ่วอย่างชัดเจนมากขึ้น สาเหตุของนิ่ว นิ่วเกิดจากการรวมตัวกันของสารก่อนิ่วที่อยู่ในปัสสาวะ โดยต้องอาศัยสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม และปัจจัยอื่น ๆ ที่เอื้อต่อการเกิดนิ่ว ได้แก่ 1. ความเป็นกรด-ด่างของปัสสาวะ : นิ่วแต่ละชนิดมีความสามารถในการละลาย และรวมตัวกันของสารก่อนิ่วในสภาวะความเป็นกรดด่างที่แตกต่างกัน2. ความเข้มข้นของปัสสาวะ : การเกิดนิ่วอาศัยหลักการคล้ายการตกผลึก ยิ่งปัสสาวะเข้มข้นมาก นิ่วยิ่งมีโอกาสตกผลึกเป็นนิ่วได้ง่ายขึ้น3. ปริมาณของสารก่อนิ่วที่อยู่ในปัสสาวะ : ยิ่งสารก่อนิ่วมีปริมาณเยอะในปัสสาวะ ยิ่งทำให้โอกาสในการรวมตัวกันเป็นนิ่วเพิ่มขึ้น ประเภทของนิ่วกับการรักษา ในการรักษานิ่ว เรามีเป้าหมายเพื่อลดปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งอาหารมีส่วนช่วยอย่างมากในการบรรลุเป้าหมาย หรือช่วยลดโอกาสในการเกิดนิ่วเพิ่ม ซึ่งนิ่วมี 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือนิ่วที่สามารถสลายได้ด้วยการปรับอาหาร และนิ่วที่ไม่สามารถสลายได้ 1. นิ่วที่สามารถสลายได้ด้วยอาหาร : นิ่วที่พบได้บ่อยในกลุ่มนี้ได้แก่นิ่วสตรูไวท์ (struvite) หรือนิ่วแมกนีเซียมแอมโมเนียมฟอสเฟต (MAP) ซึ่งส่วนใหญ่จะโน้มนำจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเป็นด่างมากขึ้น และสภาวะในกระเพาะปัสสาวะเหมาะกับกับการรวมตัวของสารก่อนิ่วชนิดนี้ เกิดการรวมตัวเป็นก้อนนิ่วขึ้น อาหารที่ใช้ในการสลายนิ่วชนิดนี้ อาศัยหลักการที่จะทำให้ปัสสาวะเป็นกรดมากพอที่จะทำให้นิ่วชนิดนี้สลายได้2. นิ่วที่ไม่สามารถสลายได้ด้วยอาหาร : นิ่วในกลุ่มนี้มีหลายชนิด แต่ที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด […]

อ่านต่อ
แมวตัวเมียติดสัตว์, แมวตัวเมีย, ติดสัด, แมวตัวผู้, แมวติดสัด

แมวตัวเมียติดสัตว์ มีอาการ และวงรอบอย่างไร

แมวตัวเมียติดสัตว์ หรือที่ถูกต้องคือ ติดสัด เป็นพฤติกรรมเริ่มต้นของวงรอบการผสมพันธุ์ ในแมว และสัตว์เลี้ยง วงรอบติดสัดของแมวและสุนัข มีความแตกต่างกันกันอย่างไร ไปติดตามกันเลยค่ะ แมวตัวเมียติดสัตว์ เป็นอย่างไร เป็นคำถามยอดฮิตที่เหล่าพ่อแม่มือใหม่สอบถามกันเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ เลยค่ะ จริงแล้วคำว่า ติดสัตว์ หรือที่ถูกต้องคือ ติดสัด เป็นพฤติกรรมการสืบพันธุ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติเมื่อสัตว์เลี้ยงเติบโตถึงวัยเจริญพันธุ์ เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องนี้มากขึ้น บ้านและสวน Pets จะให้คุณหมอมาอธิบายให้ฟังกันค่ะ วงรอบสัดของแมว แมวเพศเมียจะเริ่มแสดงอาการเป็นสัด (แมวตัวเมียติดสัตว์) เมื่ออายุประมาณ 4-10 เดือน  โดยมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ได้แก่ น้ำหนักตัว สายพันธุ์ (แมวขนยาวหรือขนสั้น) และแสงแดด ส่วนเรื่องน้ำหนักตัว ใช้ในการประเมินเรื่องความสมบูรณ์ของร่างกายที่โตเต็มที่ และไม่ผอมจนเกินไป  เนื่องจากฮอร์โมนเพศที่ควบคุมพฤติกรรมการสืบพันธุ์ สร้างมาจากไขมันประเภทโคเลสเตอรอล  ถ้าอายุถึงเกณฑ์แต่สัตว์ผอมมาก ระดับไขมันที่ขาดพร่องอาจมีผลต่อการสร้างอนุพันธ์ต่าง ๆ ของฮอร์โมนเพศที่น้อยลงด้วย  สัตว์ที่ผอมจึงมักจะแสดงอาการสัดช้า ส่วนเรื่องของสายพันธุ์แมวขนสั้นหรือขนยาว  พบว่า แมวกลุ่มขนสั้นจะเป็นสัดแรกได้เร็วกว่ากลุ่มแมวขนยาว และปัจจัยสุดท้ายที่สำคัญต่อวงรอบสัดในแมวมาก คือ แสง  เนื่องจากแสงเป็นปัจจัยการกระตุ้นการทำงานของระบบฮอร์โมนเพศในแมว  ความเข้มแสงที่เพียงพอและยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงต่อวัน  […]

อ่านต่อ