Cat Zone

โรคไข้หัดแมว หรือ โรคลำไส้อักเสบติดต่อในแมว (Feline Distemper)

“โรคไข้หัดแมว” คือโรคอะไร มีความเกี่ยวข้องกับโรคไข้หัดสุนัขหรือไม่ ติดต่ออย่างไร ก่อโรคในมนุษย์ได้หรือไม่ แล้วจะมีวิธีการที่จะป้องกันแมวสุดที่รักของเราจากโรคนี้ได้หรือไม่ อย่างไร ในโอกาสนี้ หมอก็จะขออนุญาตนำข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ “โรคไข้หัดแมว” มาสรุปสั้นๆ ให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ โรคไข้หัดแมว คืออะไร “โรคไข้หัดแมว” หรือ “feline distemper” นั้น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในวงการสัตวแพทย์อยู่หลายชื่อ โดยคุณหมอสัตวแพทย์บางท่านอาจจะเรียกว่า “โรคลำไส้อักเสบติดต่อในแมว (feline infectious enteritis)” หรือ “โรคติดเชื้อพาร์โวไวรัสในแมว (feline parvovirus infection)” หรือบางท่านก็อาจจะขนานโรคนี้ว่า “โรคแพนลิวโคพีเนียในแมว (feline panleukopenia)” ซึ่งคำว่า “แพนลิวโคพีเนีย” นี้ เป็นศัพท์ทางการแพทย์ที่แปลว่าเม็ดเลือดขาวต่ำ ทั้งนี้เนื่องจากแมวที่ติดโรคดังกล่าวนี้ มักมีจำนวนเม็ดเลือดขาวทุกชนิดลดต่ำลงอย่างมาก (ซึ่งจะได้มีการกล่าวถึงรายละเอียดของภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำต่อไปหลังจากนี้) โรคไข้หัดแมวเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม “Carnivore protoparvovirus 1” โดยพบว่า ร้อยละ 95 ของแมวที่ป่วยด้วยโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อพาร์โวไวรัสในแมว (feline parvovirus; FPV) และส่วนน้อย (อีกราว ๆ […]

อ่านต่อ

โรคพิษสุนัขบ้าในแมว โรคร้ายที่ต้องระวัง

โรคพิษสุนัขบ้าในแมว อาจเป็นชื่อโรคที่ไม่คุ้นเคยเหมือนกับโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข และหลายคนอาจยังคิดว่าเป็นโรคที่พบได้เฉพาะในสุนัขเท่านั้น โรคพิษสุนัขบ้าในแมว ในความเป็นจริงแล้ว โรคพิษสุนัขบ้าพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น แมว คน สุนัข วัว ลิง กระรอก หนู กระต่าย ค้างคาว เป็นต้น และจัดเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (zoonosis) ที่สำคัญทางสาธารณสุขทั่วโลก ปัจจุบันมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าทั่วโลกกว่า 40,000-100,000 คนต่อปี โดยแมวเป็นสัตว์เลี้ยง ที่มีความใกล้ชนิดกับมุนษย์มากในปัจจุบัน และเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และแพร่เชื้อสู่แมวด้วยกันเอง รวมถึงแพร่เชื้อสู่เจ้าของได้ อาการ โรคพิษสุนัขบ้าในแมว แมวที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจะแสดง 2 แบบคือ แบบดุร้าย (Furious form) และแบบซึม (Dumb or paralytic form) อาการแบบดุร้าย (Furious) เป็นอาการแบบที่พบได้บ่อยในแมวติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าส่วนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ อาการแบบซึม (Dumb) แมวจะแสดงอาการในระยะตื่นเต้นสั้นมากจนอาจไม่สามารถสังเกตเห็นอาการได้ชัดเจน และอาการจะเข้าระยะอัมพาตอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตตามมา การติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้า […]

อ่านต่อ

แมวขนร่วงเยอะ ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย

แมวขนร่วงเยอะ ผิดปกติ เป็นปัญหาสุขภาพที่เจ้าของหลายท่านอาจมองข้ามได้ เนื่องจาก เจ้าของอาจคิดว่า แมวขนร่วงเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว ในการศึกษาเกี่ยวกับโรคของแมว สัตวแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า ในบรรดาโรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นในแมวมีหนึ่งโรคที่ทำให้ แมวขนร่วงเยอะ ผิดปกติ นั่นคือโรคคุชชิ่ง หรือ Hyperadrenocorticism สัญญาณเตือนอาการของโรคคุชชิ่งในแมว (Cushing’s disease) โรคคุชชิ่งเป็นโรคที่เกิดจากต่อมหมวกไตทำงานมากกว่าปกติ โดยต่อมหมวกไตจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) อย่างผิดปกติ ส่งผลโดยตรงไปยังระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดความแปรปรวน โดยทั่วไปแล้ว โรคุชชิ่งเป็นโรคที่พบในสุนัขได้บ่อยกว่าแมว แต่ถ้าเกิดขึ้นในแมวแล้ว การรักษาและการควบคุมอาการจะยากกว่าการรักษาในสุนัข และมักพบโรคนี้ในแมวที่มีอายุช่วงกลางค่อนไปทางสูงอายุ สัตวแพทย์คาดว่า สาเหตุที่ทำให้แมวเป็นโรคคุชชิ่งมีสาเหตุที่เป็นไปได้ 2 สาเหตุ คือ อาการของแมวที่เป็นโรคคุชชิ่ง การตรวจวินิจฉัยโรคคุชชิ่งในแมว สัตวแพทย์จะตรวจวินิจฉัยโดยการตรวจร่างกาย และซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด การตรวจค่าเคมีทางเลือด ค่าอิเล็กโทรไลต์ในเลือด เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกแยะโรคอื่น ๆ ออกไป จาดนั้น สัตวแพทย์จะตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา และการอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง เพื่อดูขนาด รูปร่าง และลักษณะของต่อมหมวกไต ว่ามีการขยายใหญ่ หรือไม่ ซึ่งช่วยแยกแยะระหว่างโรคที่ขึ้นอยู่กับต่อมหมวกไต […]

อ่านต่อ

แมวน้ำหนักลด เกิดจากโรคอะไรได้บ้าง

แมวน้ำหนักลด หนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พ่อแม่ทาสแมวค่อนข้างกังวลใจ ซึ่งบางครั้ง เราก็ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน น้ำหนักตัวเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงสุขภาพของแมวได้ ดังนั้น เมื่อ แมวน้ำหนักลด อย่างผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณความเจ็บป่วยในร่างกาย โดยเกณฑ์การพิจารณาว่าน้ำหนักตัวของแมวผิดปกหรือไม่ เจ้าของสามารถสังเกตได้จาก น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น หรือลดลงมากกว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวปัจจุบัน เมื่อเจ้าของสังเกตความผิดปกติของน้ำหนักตัวได้แล้ว ควรรีบนัดหมายกับสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งในระหว่างนี้ แมวอาจกินอาหารได้ตามปกติ หรือกินอาหารลดลงก็ได้ โรคต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แมวน้ำหนักลด มีดังต่อไปนี้ 1. โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus) โรคเบาหวานเกิดจากความผิดปกติในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน หรือร่างกายของแมวตอบสนองต่ออินซูลินบกพร่อง ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แมวจะแสดงความผิดปกติโดยน้ำหนักตัวลดลง แต่ยังกินอาหาร และดื่มน้ำเยอะขึ้น รวมไปถึงปัสสาวะในกระบะทรายเยอะขึ้น โรคเบาหวานเป็นโรคที่พบได้บ่อยในแมวโดยเฉพาะในแมวที่มีภาวะอ้วนจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานมากกว่าแมวที่มีน้ำหนักตัวปกติ 2. โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ (Hyperthyroidism) โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากกว่าปกติ จึงส่งผลต่อการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และมีผลกระทบต่อการทำงานในอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ระบบทางเดินอาหาร และระบบกล้ามเนื้อ เป็นต้น เมื่อแมวเป็นโรคนี้ น้ำหนักแมวจะลดลงอย่างรวดเร็ว และกินอาหารและน้ำเยอะขึ้นกว่าปกติ ขนหยาบกร้าน เคลื่อนไหวไปมามากขึ้น […]

อ่านต่อ

แมวเป็นโรคหัวใจ มีอาการ และการรักษาอย่างไร

แมวเป็นโรคหัวใจ ได้เช่นเดียวกับสุนัข และสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ และนำไปสู่ความเจ็บป่วยอื่น ๆ ตามมา แมวเป็นโรคหัวใจ มีชื่อโรคในเชิงเทคนิคว่า cardiomyopathy เป็นโรคที่เกิดจาดการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ จึงทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแมวได้น้อยลงตามไปด้วย เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ หัวใจของแมวแบ่งออกเป็น 4 ห้อง ได้แก่ ห้องบน 2 ห้อง และห้องล่าง 2 ห้อง ทั้งด้านซ้ายและขวา กล้ามเนื้อหัวใจเป็นกล้ามเนื้อชนิดพิเศษ ที่แตกต่างจากกล้ามเนื้อทั่วไป ดังนั้น ถ้ากล้ามเนื้อหัวใจมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น กล้ามเนื้อหนาขึ้น หรือใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลให้การบีบตัว และการสูบฉีดเลือด ไม่เป็นไปตามปกติ เช่น ปริมาณเลือดที่ส่งไปยังปอด และอวัยวะต่าง ๆ ลดลง รวมไปถึงทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเกิดลิ่มเลือดได้ ประเภทของโรคหัวใจในแมว โรคหัวใจในแมวสามารถเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ การหดเกร็งของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ ลิ้นหัวใจรั่ว หรือเกิดความผิดปกติร่วมกันจากอาการที่กล่าวมา 1. โรคหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคหัวที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดมักเป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ (hypertrophic […]

อ่านต่อ

ลำไส้ใหญ่โป่งพองในแมว ภาวะที่เกิดขึ้นได้กับแมวทุกตัว

ลำไส้ใหญ่โป่งพองในแมว ส่งผลให้แมวมีอาการท้องผูก และขับถ่ายน้อยลง และหากปล่อยไว้นานเกินไป อาจนำไปสู่อาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ ภาวะ ลำไส้ใหญ่โป่งพองในแมว (Megacolon) คืออะไร ? ภาวะลำไส้ใหญ่โป่งพองในแมว คือความผิดปกติที่เกิดจากลำไส้ใหญ่ส่วน Colon ขยายใหญ่มากอย่างผิดปกติ ซึ่งมักเกิดขึ้นเนื่องจากภาวะท้องผูกเรื้อรัง บวกกับจากการสะสมของอุจจาระที่มีขนาดใหญ่ และก้อนแข็งจำนวนมาก จนเส้นผ่านศูนย์กลางของลำไส้ขยายใหญ่ขึ้น สูญเสียการบีบตัว และเกิดการอุดตันของอุจจาระบริเวณลำไส้ใหญ่ได้ ภาวะลำไส้ใหญ่โป่งพองในแมว มีอาการอย่างไร แมวจะท้องผูกแบบเรื้อรัง ขับถ่ายอุจจาระลดลง หรืออาจไม่พบการขับถ่ายเลย ความถี่ในการถ่ายอุจจาระ และเข้ากระบะทรายลดลง แมวบางตัวจะแสดงอาการปวดเบ่ง หรือเจ็บขณะถ่ายอุจจาระ มีอาการปวดบริเวณช่องท้อง อุจจาระมีก้อนแข็ง หรือก้อนขนาดใหญ่ ในบางรายที่มีอาการต่อเนื่องมาสักระยะหนึ่ง จะเกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาเช่น กินอาหารลดลง น้ำหนักลดลง อาเจียน ซึม เบื่ออาหาร มีภาวะขาดน้ำ อ่อนแรง และขนแห้งหยาบ เป็นต้น สาเหตุของภาวะลำไส้ใหญ่โป่งพอง (Megacolon) เกิดจากอะไร ? สาเหตุการเกิดมักเกี่ยวข้องกับการมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ลำไส้ใหญ่อุดตันเป็นเวลานาน และมีความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมบริเวณลำไส้ใหญ่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเรียบของลำไส้ใหญ่ทำงานผิดปกติ […]

อ่านต่อ

โรคข้อเสื่อมในแมว เกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมวิธีการดูแล

หากแมวมีอาการเดินขากะเผลก หรือขาเจ็บเป็น ๆ หาย ๆ เดินขาสั่น มีอาการลุกนั่งลำบาก เคลื่อนไหวร่างกายเปลี่ยนไป เช่น เชื่องช้า ไม่ยอมกระโดดขึ้นลงที่สูงจากที่เคยทำได้ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ โรคข้อเสื่อมในแมว โรคข้อเสื่อมในแมว พบได้บ่อยในแมวที่เริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัย เนื่องจากมีการใช้งานกระดูกและข้อมาอย่างยาวนาน จึงเกิดการเสื่อมพัฒนามาเรื่อย ๆ และเป็นสาเหตุของอาการเจ็บปวดเรื้อรัง (Chronic pain) ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของแมวในระยะยาวด้วย สาเหตุของการเกิดโรคข้อเสื่อมในแมว โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis ;OA) คือ การเสื่อมของกระดูก และข้อต่อ ที่พัฒนาขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ (Articular cartilage) ร่วมกับการงอกใหม่ของกระดูกบริเวณผิวข้อ และขอบกระดูก ซึ่งทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณข้อต่อเมื่อแมวขยับตัว หรือเคลื่อนไหว ผลที่ตามมาคือ แมวจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ข้อศอก ข้อหัวเข่า ข้อสะโพก และข้อเท้า เป็นต้น โรคข้อเสื่อมในแมว พบได้บ่อยแค่ไหน โรคข้อเสื่อมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในแมวสูงวัย ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป โดยการศึกษาที่เผยแพร่ในปี […]

อ่านต่อ

แมวมีขี้หูเยอะ เช็ดแล้วก็กลับมาอีก เกิดจากอะไร

แมวมีขี้หูเยอะ แต่เมื่อเช็ดทำความสะอาดแล้ว ก็มีขี้หูกลับมาอย่างรวดเร็ว อาการที่สร้างความกังวลใจนี้ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง หูเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่สำคัญของแมว แต่ถ้า แมวมีขี้หูเยอะ อาจนำไปสู่โรคในช่องหู และเกิดปัญหาเกี่ยวกับการฟังเสียงของแมวได้ หูของแมวทำหน้าที่รับเสียงจากภายนอก และเกี่ยวข้องกับการทรงตัวขณะยืน ภายในช่องหูของแมวมีโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นท้อรูปตัวแอล (L) แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Vertical ear canal เป็นช่องหูที่ดิ่งลงทางด้านหน้า และ Horizontal ear canal เป็นส่วนที่หักเข้าไปด้านใน ในช่องหูของแมวส่วนนี้จะผลิตขี้หู (ear wax) ออกมา โดยทั่วไปแล้ว ขี้หูของแมวจะเป็นก้อนสีเหลือง แต่ถ้ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นสีของขี้หูจะเปลี่ยนไป เช่น ในช่องหูมีของเหลวสีดำปนเหลือง ขี้หูสีน้ำตาล หรือมีกลิ่นเหม็น ร่วมกับอาการช่องหูบวมหรือแดง คัน หรือมีขี้หูมากกว่าปกติ เมื่อเช็ดทำความสะอาดแล้วก็ยังมีขี้หูกลับขึ้นมาใหม่เร็วกว่าปกติ อาการดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า แมวของเรากำลังมีปัญหาบางอย่างในช่องหู ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้ 1. ไรในหู (Ear mite) ไร (Otodectes cynotis) เป็นปรสิตภายนอกร่างกาย ที่พบได้ในสัตว์เลี้ยงทั่วไป […]

อ่านต่อ

แมวตัวเมียทำหมัน เมื่ออายุกี่เดือน

จากข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ต่างทราบกันดีว่า การทำหมันแมว เป็นหนึ่งในการคุมกำเนิดที่ได้ผลดีที่สุด แต่ด้วยข้อมูลที่หลากหลายก็ทำให้เราไม่มั่นใจว่า แมวตัวเมียทำหมัน ได้เมื่ออายุกี่เดือน แมวตัวเมียทำหมัน ได้อายุกี่เดือน สัตวแพทย์ส่วนใหญ่ กล่าวว่า การผ่าตัดทำหมันในช่วงอายุที่เหมาะสมของแมวตัวผู้ และแมวตัวเมีย จะแตกต่างกันเล็กน้อย โดย แมวตัวเมียจะทำหมันได้ตั้งแต่อายุ 5 – 7 เดือน หรือหลังจากช่วงที่แมวแสดงอาการติดสัดรอบแรก ส่วนแมวตัวผู้ทำหมันได้ตั้งอายุ 8-10 เดือน หรือหลังจากระบบสืบพันธุ์ได้พัฒนาเต็มที่แล้ว ซึ่งจะทราบได้อย่างแม่นยำด้วยการพาน้องแมวไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ ข้อควรทราบก่อนนำแมวไปผ่าตัดทำหมัน การผ่าตัดทำหมันแมว รวมถึงสุนัข ในปัจจุบันนี้มีความสะดวก และปลอดภัยกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีสถานบริการด้านสุขภาพสัตว์เลี้ยงของรัฐบาลและเอกชนเปิดให้บริการจำนวนมาก โดยเบื้องต้น เจ้าของควรศึกษาข้อมูลก่อนพาสัตว์เลี้ยงไปทำหมัน การทำหมันที่ถูกต้องและเหมาะสมในแมวตัวเมียคือ การตัดรังไข่และมดลูกออกทั้งสองข้าง สัตวแพทย์จึงไม่แนะนำให้พาแมวตัวเมียมาทำหมันในขณะที่อยู่ในชข่วงติดสัด เนื่องจากมดลูกกำลังขยายตัว และอาจทำให้เกิดการเสียเลือดมากระหว่างการผ่าตัด ส่วนในตัวผู้จะใช้การตัดอัณฑะ รวมถึงท่อนำอสุจิออกทั้งสองข้าง ซึ่งวิธีการและขั้นตอนอาจต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์เลี้ยง ก่อนการผ่าตัดทำหมันทุกครั้ง สัตวแพทย์จำเป็นต้องยาสลบให้กับสัตว์เลี้ยง ดังนั้น สัตวแพทย์จึงต้องตรสจความพร้อมของร่างกายก่อนวางยาสลบ เพื่อให้กระบวนการผ่าตัดทำหมันปลอดภัยกับแมว รวมไปถึงเจ้าของจะต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด การดูแลแผลหลังผ่าตัดเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมวตัวเมีย เนื่องจากแผลผ่าตัดที่หน้าท้องอาจปริแตกได้ […]

อ่านต่อ

แมวเลียขนตัวเอง มากกว่าปกติ เกิดจากสาเหตุอะไร

แมวเลียขนตัวเองเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ แต่ถ้า แมวเลียขนตัวเอง มากกว่าปกติ อาจกำลังเกิดความผิดปกติขึ้นกับพวกเขาก็ได้ แมวเลียขนตัวเอง เป็นการทำความสะอาดตัวเอง เพื่อช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ของผิวหนัง และยังช่วยระบายความร้อนด้วย แต่ในบางกรณี ถ้าเจ้าของพบว่า น้องแมวเลียขนตัวเองมากเกินไป เส้นขนหลุดร่วงมาก หรือเส้นขนบางในตำแหน่งที่เลียซ้ำ ๆ จนกลายเป็นความผิดปกติ ที่เรียกว่า ภาวะขนร่วงแบบสมมาตร (feline symmetrical alopecia) หรือในแมวบางตัวอาจพบการสำรอกก้อนขนออกมาด้วย ความผิดปกติที่แมวเลียขนตัวเองมากเกินไป หรือที่เรียกว่า Over-grooming ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุเหล่านี้ 1. ความผิดปกติของโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนัง การเกิดเชื้อราบนผิวหนัง ปรสิตภายนอกบนเส้นขน และผิวหนัง เช่น เห็บ หมัด และไรขน ภาวะภูมแพ้ เช่น แพ้อาหาร หรือแพ้สิ่งกระตุ้นในสิ่งแวดล้อม หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบฮอร์โมน อย่างไฮเปอร์ไทรอยด์ในแมว (Feline Hyperthyroidism) เป็นต้น 2. ความผิดปกติทางจิตใจ (Psychogenic alopecia) สาเหตุเกี่ยวกับปัญหาทางพฤติกรรมมักจะมีความเชื่อมโยงกับความเครียด ความวิตกกังวลในแมว หรืออาจมีปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในบ้าน […]

อ่านต่อ
แมวแก่, การดูแลแมวแก่

สัตวแพทย์เผย เคล็ดลับการดูแล แมวแก่

การดูแลน้องแมวสุดที่รักของเราไปจนถึงวันหนึ่งที่เขากลายเป็น “แมวแก่” เป็นความปรารถนา และความสุขของทาสแมวทุกคน เมื่อแมวก้าวสู่ช่วงอายุที่มากขึ้น ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่พวกเขาจะเกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา การดูแล แมวแก่ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งหมายถึงการใช้เวลากับพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม และการพาไปพบสัตวแพทย์บ่อยขึ้น อายุขัยโดยเฉลี่ยของแมวบ้านเกือบทุกสายพันธุ์อยู่ที่ประมาณ 13 – 17 ปี และบางสายพันธุ์อาจมีอายุได้มากถึง 22 ปี ดังนั้น ช่วงเวลาที่แมวก้าวสู่ช่วงวัยแก่จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันเกิดครอบรอบอายุ 10 ปีเวียนมาถึง เมื่อน้องแมวเข้าสู่ช่วงวัยแก่ พวกเขาจะทำทุกอย่างในกิจวัตรประจำวันช้าลงกว่าเดิม และมีแนวโน้มที่แมวแก่ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ในฐานะเจ้าของ เราจึงต้องหากิจกรรมบางอย่างที่จำเป็นต่อการส่งเสริมสุขภาพให้กับแมว และตัวเจ้าของก็เป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการดูแลสวัสดิภาพของพวกเขา จัดเวลาเล่นกับแมวเป็นประจำทุกวัน สัตวแพทย์แนะนำว่า เมื่อแมวอายุมากขึ้น พวกเขามักจะไม่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย เจ้าของควรจัดเวลาเล่นกับพวกเขาบ่อยขึ้น แต่ใช้เวลาสั้น ๆ 5 – 7 นาที โดยการใช้ไม้ตกแมว หรือลูกบอลสอดไส้แคตนิป เป็นสิ่งกระตุ้นให้พวกเขาได้ลุกจากที่นอน นอกจากนี้ การสำรวจหนึ่งในสหรัฐอเมริกา พบว่า แมวเด็กสามารถกระตุ้นควากระตือรือร้นของแมวแก่ได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรพิจารณาความพร้อมของคุณให้ถี่ถ้วนและรอบคอบ ก่อนนำลูกแมวตัวใหม่เข้าบ้าน รวมไปถึงคุณต้องรู้จักนิสัยแมวตัวเดิมของคุณอย่างดีด้วย ลองพิจารณาอาหารเสริมสูตรบำรุงกระดูกและข้อ แมวแก่ส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาสุขภาพตามมา โดยเฉพาะ โรคข้ออักเสบ […]

อ่านต่อ
แมวมีกลิ่นปาก, กลิ่นปากแมว,

น้องแมวมีกลิ่นปาก เกิดจากอะไร

แมวมีกลิ่นปาก เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาด้านสุขภาพของน้องแมวได้ แมวมีกลิ่นปาก เกิดจากอะไร กลิ่นปากของแมวมีสาเหตุหลักอยู่ 2 ประเด็น คือ ปัญหาจากโรคในช่องปาก เหงือก และฟัน เช่น มีหินปูน โรคเหงือกและปริทันต์ เป็นต้น ปัญหาความผิดปกติจากโรคระบบอื่น ๆ เช่น โรคไต โรคตับ โรคระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อ โรคเบาหวาน และโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น มาเริ่มต้นที่สาเหตุแรกกันค่ะ กับปัญหาโรคในช่องปาก เหงือกและฟัน กลิ่นปากของน้องแมวที่เกิดจากคราบหินปูนสะสมตามร่องเหงือกและฟัน ทำให้เชื้อแบคมีเรียในช่องปากเจริญเติบโตมากกว่าปกติ ซึ่งคราบหินปูนเหล่านี้มีสาเหตุจาก แมวกินอาหารตามปกติ และมีเศษอาหารตกค้างอยู่ในช่องปาก โรคในช่องปากและฟันของแมวที่พบได้บ่อย ได้แก่ หินปูนสะสมตามร่องฟัน และภาวะเหงือกอักเสบ นอกจากนี้ยังมีโรคเหงือกและช่องปากอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยในแมว ที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย และวางแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงโรคเนื้องอก และมะเร็งในช่องปาก ที่มักพบในแมวที่สูงวัย หรือในแมวที่มีการติดเชื้อไวรัสร่วมด้วย โรคที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดกลิ่นปากเหม็นในแมวได้ สาเหตุต่อมาคือ ปัญหาปัญหาความผิดปกติจากโรคระบบอื่น ๆ ในร่างกาย ความผิดปกติจากโรคในระบบทางกาย ซึ่งส่งผลทำให้น้องแมวมีกลิ่นปากเหม็น เกิดจากหลายสาเหตุ โดยตัวอย่างโรคที่พบได้บ่อยในแมวบ้าน […]

อ่านต่อ